"ฐิติราช"ชี้พฤติการณ์ อดีต ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ทำสำนวนลอตเตอรี่ 30 ล้านเพี้ยน ไม่คำนึงผลนิติวิทยาศาสตร์ ระบุยังไม่ออกหมายจับเพิ่ม ขอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน
เมื่อวันที่ 9 มี.ค.พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. และคณะแถลงความคืบหน้าคดีลอตเตอรี่อลเวง 30 ล้านบาท ครั้งที่ 2 ในกรณีข้อพิพาทระหว่างครูปรีชา ใคร่ครวญ และ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วย
ทั้งนี้ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ผบก.ปปป.) เปิดเผยถึงความชัดเจนในการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นพบว่าการสอบสวนทำสำนวนคดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทางกองบังคับการปราบปราม จึงร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับพล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีต ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ส่วนจะออกจากราชการหรือไม่นั้น ต้องดูตามระเบียบของผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดในขณะนั้น ว่ามีความเห็นอย่างไร ส่วนตำรวจอีก 2 นาย ที่สอบปากคำเสร็จแล้ว ขณะนี้กันไว้เป็นพยาน
ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช เปิดเผยถึงพฤติการณ์ของพล.ต.ต.สุทธิ พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงสำนวนคำให้การ สถานที่กิดเหตุ และเชื่อมั่นตลอดว่าลอตเตอรี่เป็นของครูปรีชา ซึ่งคดีนี้มีการปรับเปลี่ยนมาโดยตลอด แต่ไม่ได้คำนึงถึงผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้จากการสอบสวนพล.ต.ต.สุทธิ ยืนยันไม่รู้จักกับแม่ค้าลอตเตอรี่ทุกรายที่เกี่ยวข้องกับครูปรีชา แต่เป็นเรื่องความเชื่อและวุฒิภาวะจึงทำให้สำนวนเปลี่ยนไป ส่วนกลุ่มแม่ค้าลอตเตอรี่ที่เคยให้การต่างๆ ยังกังวลจะออกหมายจับหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ฐิติราช ระบุว่า ขอให้เป็นการทำงานของตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และขอให้สบายว่าจะคำนึงถึงประโยชน์ของสังคม ขณะนี้ขอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน เมื่อถึงเวลาทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการ
ขณะที่พลเรือนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ จะออกหมายจับเพิ่ม และเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาสนับสนุนเจ้าพนักงานให้กระทำความผิดก็ต้องรอดูต่อไป ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด พร้อมทิ้งท้ายว่า ในเรื่อง ของสำนวนตำรวจทั่วประเทศต้องรู้อยู่แล้วว่าจะทำอะไรให้ประชาชน อย่าทำเพื่อตัวเอง