"อดิศร"ตอก "ก้าวไกล" ดูกาละเทศะจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ แขวะซักฟอกตัวเองให้ขาวสะอาดก่อน
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคก้าวไกลเตรียมจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ภายหลังการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 แล้วเสร็จว่า รัฐบาลชุดนี้เพิ่งทำงานได้เพียง 1 เดือน มีผลงานมากมายกับประชาชน การจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน ถือเป็นสิทธิ์ แต่ต้องดูกาลเทศะที่เหมาะสมในการที่จะยื่น ดังนั้นตนขอให้ข้อสังเกตว่าควรจะยื่นซักฟอกตัวเองให้มันขาวสะอาดก่อน เปรียบเหมือนหลักกฎหมายทั่วไปก็คือการมาศาลต้องมาด้วยมือสะอาดช
นายอดิศร กล่าวต่อว่า ตนได้ยินข่าวว่าพรรคก้าวไกลจะตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องการคุกคามทางเพศ หรือเรื่องอื่นใดตามที่เป็นข่าว ก็ขอให้ซักฟอกให้ขาวสะอาดแล้วค่อยมาเจอกันในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะดีกว่าหรือไม่ ตนก็อยากทราบผลเหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องสะเทือนขวัญ เป็นเรื่องน่ากลัว หากเกิดขึ้นในพรรคการเมืองใหญ่ๆ ดังนั้นก็ยินดีหากจะยื่นซักฟอกมาเมื่อไหร่ ทางนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไม่ได้เกรงกลัว พร้อมที่จะตอบทุกคำถาม ทุกข้อสังสัย ทุกประเด็น อธิบายทางการเมืองได้ทั้งหมดไม่มีปัญหา เมื่อถามว่านอกจากเรื่องนโยบาย หรือการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว อาจมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับจริยธรรมของรัฐมนตรีบางคนในคณะรัฐมนตรี(ครม.) ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ก็ว่ากันไป ตนก็เคยเป็นฝ่ายค้านมาแต่อย่าเอาข่าวที่ตัดแปะในหนังสือพิมพ์มา ไม่ไว้วางใจคือการไม่ให้รัฐมนตรีทำงานต่อไป ไม่ใช่มาแสดงโวหารกันในการเปิดอภิปราย มีข้อมูลอะไรหนักๆก็ซัดมาเลย เพื่อไม่ให้ครม.ทำงานต่อไปได้ แต่ถ้าเป็นข้อมูลลอยๆ ค้นหาเอาตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือตามหนังสือพิมพ์ ก็จะไม่สมกับที่จะมาไม่ไว้วางใจคนอื่น การซักฟอกในพรรคฝ่ายค้านไม่ได้มีแค่พรรคก้าวไกล แต่ยังมีพรรคประชาธิปัตย์ด้วย นายอดิศร กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ตนเป็นห่วงมาก เพราะเขามีประสบการณ์ ดูจากฝีไม้ลายมือแล้ว พรรคประชาธิปัตย์เหนือกว่าพรรคก้าวไกลหลายขุม เพียงแต่เขาไม่ออกอาการ มวยใหญ่เขาจะไม่ออกอาการ
ต่อข้อถามถึงนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ที่ขณะนี้ย้ายสังกัดไปแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในพรรคฝ่ายค้าน ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตนไม่ขอออกความเห็น ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ก็ขออวยพรให้ทำงานประสบความสำเร็จ เพื่อสภาฯจะได้เดินหน้าต่อไป