รมช.ต่างประเทศยันรัฐบาลทำทุกวิถีทางช่วยคนไทยในอิสราเอล

2023-10-12 16:27:02

รมช.ต่างประเทศยันรัฐบาลทำทุกวิถีทางช่วยคนไทยในอิสราเอล

Advertisement

รมช.ต่างประเทศแจงสภาฯยอดคนไทยเสียชีวิตในอิสราเอล  21 ราย    ขอให้มั่นใจรัฐบาลทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ถูกจับเป็นตัวประกัน

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณากระทู้ถามสดที่นายวัชระพล ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย สอบถาม รมว.ต่างประเทศ ถึงมาตรการช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศอิสราเอลที่ประสบภัยสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส โดยนายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ ทำหน้าที่ตอบกระทู้ถามสดแทนว่า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ ทำทุกวิถี เพื่อช่วยคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ขณะนี้ผู้เสียชีวิต 21ราย ผู้บาดเจ็บ 14 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน 16 คน โดยรัฐบาลได้ตั้งศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (RRC) ให้ความช่วยเหลือคนไทยเร่งด่วน ไปจนถึงการอพยพ ศูนย์ดังกล่าวทำงานเข่งกับเวลาทุกวินาที ประชุมทุกวันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่มีวันหยุด ในส่วนผู้เสียชีวิต สถานเอกอัครราชทูตไทยได้ติดต่อกระทรวงต่างประเทศอิสราเอล ได้รับแจ้งว่า จะใช้เวลา 2 สัปดาห์ในการยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ เพราะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อิสราเองประกาศจะเยียวยาเหยื่อสงความในครั้งนี้ด้วย

นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนผู้ถูกจับเป็นตัวประกัน 16 คน กระทรวงการต่างประเทศใช้ความพยามเต็มที่สื่อสารไปยังปาเลสไตน์ ให้ปล่อยตัวคนไทย เพราะไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ แต่ปาเลสไตน์ไม่มีทูตประจำประเทศไทย กระทรวงต่างประเทศได้ประสานทูตต่างชาติที่ประจำในไทย ที่มีความสัมพันธ์กับปาเลสไตน์ รวมถึงกลไกอาเซียน หน่วยงานมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ให้ช่วยเหลือประสานการปล่อยตัวคนไทยอีกทาง เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเหตุความมั่นคง ไม่สามารถเปิดเผยเชิงลึกได้ แต่ขอให้มั่นใจ รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางดูแลคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้

จากนั้นนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้สดสอบถามเพิ่มเติมถึงแนวทางการตั้งศูนย์อพยพที่เป็นทางการให้คนไทยมารวมตัวกัน เพื่อความปลอดภัย มีทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่ศูนย์อพยพดังกล่าว เพื่อสะดวกในการขนย้ายคนไทยกลับได้ทีละมากๆ ขณะเดียวกันควรประสานนำรถไปขนแรงงานไทยออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย และกรณีแรงงานที่ต้องการเดินทางกลับไปทำงานที่อิสราเอล หลังเหตุการณ์สงบจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไร โดยนายจักรพงษ์ชี้แจงว่า การตั้งศูนย์อพยพคนไทยนั้น กระทรวงต่างประเทศเคยสั่งการไปแล้ว อยากทำมาก แต่เนื่องจากแรงงานไทยอยู่กระจัดกระจาย และจำเป็นต้องขนย้ายคนไทยออกจากจุดเสี่ยงที่เป็นอันตรายก่อน จึงเป็นข้อจำกัดไม่สามารถขนคนไทยกลับประเทศได้คราวละมากๆ การนำรถเข้าไปช่วยเหลือแรงงานไทยในพื้นที่นั้น การจะขับรถออกจากพื้นที่ได้ ต้องขออนุญาตจากอิสราเอล เพราะเคยมีการขับรถออกมา โดยไม่รับอนุญาต ทำให้เกิดความเข้าใจผิดมาแล้ว ขณะนี้การเดินทางไปชายแดนประเทศต่างๆมีความเสี่ยง แม้จะประสานอิสราเอลเพื่อขอเคลื่อนย้าย แต่มีความเสี่ยงจากสถานการณ์สู้รบ ยิงจรวดเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่เสี่ยงสูง อิสราเอลจะเป็นผู้ดำเนินการขนย้ายคนจากพื้นที่เสี่ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่แนวทางช่วยเหลือคนไทยที่อยากกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกครั้ง หากเหตุการณ์สงบนั้น อิสราเอลให้คำมั่น แรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ถ้าอยากกลับมาทำงานอีก จะพิจารณาให้เป็นกรณีพิเศษ

หลังจากการตอบกระทู้สดเสร็จสิ้นลง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเสริมว่า ขอบคุณ ส.ส. ที่ห่วงใยในวิกฤตการณ์ในอิสราเอล ปัญหาดังกล่าวเป็นวิกฤตอย่างแท้จริง เป็นหน้าที่คนไทยต้องให้กำลังใจ ช่วยเหลือกับคนไทยในอิสราเอล สภาฯมีความห่วงใย ในฐานะประธานสภาฯได้พบกับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย หลังเกิดเหตุ 2 วัน ได้เแสดงความห่วงใยต่อเอกอัครราชทูตอิสราเอล ได้รับคำตอบว่า อิสราเอลจะดูแลคนไทยที่เดือดร้อน ทั้งการอพยพ ผู้บาดเจ็บ ผู้ถูกจับ จะดูแลเหมือนชาวอิสราเอลทุกประการ

"สภาผู้แทนราษฎรเห็นว่าเป็นเรื่องวิกฤตจริงๆ พยายามติดต่อองค์กรระหว่างประเทศ โดยเฉพาะคนถูกจับ ทราบว่าปลอดภัยอยู่ แต่ต้องให้ปลอดภัยและเดินทางออกจากพื้นที่โดยเร็ว พยายามทำทุกช่องทาง เราห่วงคนไทยทุกคน ขอวิงวอนและขอพรให้คนไทยที่ถูกจับกลับมาอย่างปลอดภัย และคนที่อยากกลับได้กลับมาอย่างปลอดภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว