โฆษก กต.เผยคนไทยในอิสราเอลเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวมยอด 20 ราย ถูกจับเป็นตัวประกัน 14 ราย ยอดลงทะเบียนขอกลับบ้านพุ่ง 5,019 ราย
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 66 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ในประเทศอิสราเอล ว่า ขณะนี้ยังมีการโจมตีด้วยจรวดใกล้กับฉนวนกาซา โดยฝ่ายอิสราเอลพยายามเข้ายึดคืนพื้นที่ ทั้ง 2 ฝ่ายจึงมีพลเรือนและทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะเดียวกันอิสราเอลกำลังเร่งซ่อมรั้วชายแดนอิสราเอลกับฉนวนกาซา สำหรับผลกระทบต่อคนไทย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้รับแจ้งจากแรงงานในพื้นที่ว่ามีผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ขณะนี้มีคนไทยเสียชีวิต 20 ราย นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานด้วยผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมอีก 4 ราย จากเดิม 9 ราย รวมเป็น 13 ราย ถูกจับไปเป็นตัวประกันเพิ่ม 3 ราย รวมเป็น 14 ราย โดยมีคนไทยแสดงความประสงค์จะกลับไทยเพิ่มขึ้น 5,019 ราย ไม่ประสงค์กลับไทย 61 ราย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัวประกันที่ถูกจับตัวไป ยืนยันถึงความปลอดภัยได้หรือไม่ นางกาญจนา กล่าวว่า ยืนยันยากมาก เพราะอยู่ในสถานการณ์สงคราม ทั้งนี้ จำนวนตัวประกันจากทุกชาติรวมถึงชาวอิสราเอลเอง รวมประมาณ 150 คน คาดว่ากระจายอยู่ตามที่ต่างๆ
ต่อข้อถามว่า ขณะนี้มีรายงานว่ามีแรงงานคนไทยหลายคนอยู่ในรัศมีพื้นที่อันตราย ขณะที่เสบียงอาหารเริ่มขาดแคลนแล้ว มีแนวทางช่วยเหลืออย่างไร นางกาญจนา กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่ม และถูกจับกุมเพิ่ม เอกอัครราชทูตฯ ได้ติดต่อกับทางการอิสราเอลในทันที แสดงความกังวลในความล่าช้าในการอพยพคนออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งฝ่ายอิสราเอลก็แสดงความเสียใจและเขาก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ พร้อมกับขอให้เข้าใจถึงข้อจำกัดต่อการโยกย้ายคนออกมา และพยายามอยู่อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องเสบียงก็น้ำดื่ม ก็ได้ทราบว่ามีความยากลำบาก