"ก้าวไกล"สอบ ส.ส.คุกคามทางเพศไม่ดึงเวลาว่าไปตามถูกผิด

2023-10-11 12:42:49

"ก้าวไกล"สอบ ส.ส.คุกคามทางเพศไม่ดึงเวลาว่าไปตามถูกผิด

Advertisement

"ก้าวไกล"สอบ ส.ส.คุกคามทางเพศต้องรอบคอบ ฟังข้อเท็จจริงรอบด้าน 2 ฝ่าย  ยันไม่ดึงเวลาให้ว่าไปตามถูกผิด

เมื่อวันที่ 11 ต.ค 66  ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณสมาชิกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศของ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศทีมงานอาสาสมัคร ว่า พรรคก้าวไกลได้รับเรื่องร้องเรียนมาระยะหนึ่งแล้ว และมีกระบวนการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเฉพาะกิจเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ ซึ่งคณะกรรมการสอบวินัยได้สอบหาข้อเท็จจริงทั้งฝั่งผู้กล่าวหาที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย และฝั่งผู้ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ในการสอบหาข้อเท็จจริงที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างกล่าวอ้างตัวบุคคล และเอกสารจำนวนมาก จึงถือว่ากระบวนการยังไม่สิ้นสุด และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะสิ้นสุดเมื่อไรนั้น ตนคิดว่าไม่สามารถระบุเป็นวันเวลาได้

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่าทั้งนี้ ได้มีการสื่อสารกับผู้เสียหายเป็นระยะว่าขณะนี้ขั้นตอนอยู่ในขั้นไหน และในท้ายที่สุดเรื่องจะถูกเสนอให้คณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พิจารณา ขึ้นอยู่ว่า กก.บห.จะพิจารณาอย่างไร หากเรื่องนี้มีความคืบหน้า พรรคก้าวไกลจะแถลงให้ทราบพร้อมกับอีก 2 กรณีก่อนหน้านี้ ซึ่งเราได้มีการตัดสินความผิดไปนานแล้ว โดยอีกด้านหนึ่งเป็นเรื่องภายในของพรรค แต่อีกด้านก็เป็นเรื่องที่เราต้องสื่อสารให้สังคมทราบ เพราะเขาคาดหวังกับเราสูง

ต่อข้อถามว่า เบื้องต้นถือว่ามีมูลความผิดหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เวลาเรารับเรื่องเช่นนี้ เราก็จะมองว่ากว่าผู้เสียหายจะเดินทางมาร้องเรียน รวบรวมความกล้า รวบรวมข้อมูลหลักฐาน หรือบางกรณีก็ไม่มีพยานหลักฐาน เราจึงมองว่าเขากล้าตัดสินใจที่จะร้องเรียนก็ต้องถือว่าเรื่องเหล่านี้มีมูล แต่มูลจะเป็นลักษณะความผิดแบบใดนั้น มีวงเล็บภายในข้อบังคับพรรคที่มีความแตกต่างกัน

เมื่อถามว่า โทษของกรณีนี้จะออกมาประมาณไหน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถ้าตัดสินว่ามีความผิดแล้วเป็นความผิดเกี่ยวกับเรื่องเพศก็ต้องถือว่าเป็นวินัยร้ายแรง โทษมีแค่ 2 สถานเท่านั้นคือ 1.ตัดสิทธิ์ที่พึงมี ซึ่งอาจส่งไปถึงการตัดสิทธิ์ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง และ 2.ให้พ้นสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกของพรรค แต่ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตอบว่าในท้ายที่สุดผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไร ยอมรับว่าเราได้รับเรื่องมานานจริง แต่ก็มีการสอบหลายรอบ ตั้งแต่มีการร้องเรียนมาตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม แต่คณะกรรมการวินัยยังเห็นว่าพยานหลักฐานยังไม่มากพอ

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคจะมีกระบวนการคัดกรองผู้สมัครหรือไม่ เนื่องจากเกิดกรณีลักษณะนี้ในพรรคค่อนข้างมาก นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เราไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ รวมถึงได้มีการอบรมให้ความรู้ว่าที่ผู้สมัครและสมาชิกพรรค ในเรื่องของความรู้ด้านความเท่าเทียมทางเพศสำหรับนักการเมือง ซึ่งเราพยายามทำงานอย่างหนักในเรื่องนี้มาโดยตลอด

เมื่อถามต่อว่า หากเปรียบเทียบกับ สส.พรรคอื่นในประเด็นเดียวกัน จะเห็นว่าพรรคก้าวไกลแสดงท่าทีรวดเร็ว แต่เมื่อเป็นพรรคตัวเองกลับค่อนข้างช้า นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จริงๆ เราไม่ได้แสดงออกในนามพรรค และตนคงตอบกรณีอื่นไม่ได้ แต่คุณค่าหลักในเรื่องเพศเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญมากที่สุด แต่ในเมื่อข้อเท็จจริงและหลักฐานของแต่ละรายไม่เหมือนกัน ทั้ง 2 ฝ่ายต่างอ้างพยานหลักฐาน คณะกรรมการวินัยมีมติว่าต้องสอบข้อเท็จจริงเพิ่มในบางประเด็น แต่ก็มีการรายงานความคืบหน้าให้ กก.บห.ขึ้นเป็นระยะๆ

ต่อข้อถามว่าหลักฐานที่ยังขาดอยู่คืออะไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอไม่ลงรายละเอียด แต่มีพยานหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่ายอีกหลายชิ้นที่เราต้องสอบเพิ่ม

เมื่อถามว่ากังวลว่าจะเป็นการโจมตีทางการเมืองหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะต้องว่ากันตามความถูกผิด ไม่ว่าผู้กล่าวหาจะเป็นใคร ไม่ว่าสังคมจะตัดสินเราแล้วหรือไม่ อย่างไร เราจะว่ากันด้วยความจริงและพยานหลักฐาน และคณะกรรมการวินัยที่ตั้งมาเพิ่มเติม ก็มี 2 คนที่เป็นผู้หญิง เป็น ส.ส.ที่ทำงานในประเด็นเหล่านี้โดยตรง ประกอบด้วย น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กทม. และนางนิตยา มีศรี ส.ส.สมุทรปราการ ร่วมกับคณะกรรมการวินัยเดิม ซึ่งมีน.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วย

“เราต้องขอเวลาแต่ไม่ใช่ขอเพื่อจะให้ดึงเวลา แต่เพื่อให้ดูพยานหลักฐานอย่างรอบด้าน และครบถ้วนก่อนจะมีการตัดสินอะไรออกไป” นายณัฐวุฒิ กล่าว