โดนเทเต็มๆ "แน็ก ชาลี" อกหักดังเป๊าะ ร่ำไห้หนักมาก สัมพันธ์รัก "เก๋ไก๋" พังทลาย

2023-10-09 00:10:42

โดนเทเต็มๆ "แน็ก ชาลี" อกหักดังเป๊าะ ร่ำไห้หนักมาก สัมพันธ์รัก "เก๋ไก๋" พังทลาย

Advertisement

โดนเทเต็มๆ "แน็ก ชาลี" อกหักดังเป๊าะ ร่ำไห้หนักมาก สัมพันธ์รัก "เก๋ไก๋" พังทลาย 



ความรักที่เพิ่งเบ่งบานกลับกลายเป็นเหี่ยวเฉาลงอย่างเฉียบพลัน ทำเอาแฟนคลับและคนในวงการถึงกับร้องอ้าว !!! ทำไมมันช่างจบเร็วขนาดนี้ เร็วยิ่งกว่าหนังสั้นเรื่องนึงอีกนะเนี่ย สำหรับ "แน็ก ชาลี" นักแสดงหนุ่มมาดกวน และ ยูทูบเบอร์สาวสวย "เก๋ไก๋ สไลเดอร์" โดยล่าสุด "แน็ก" ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเศร้าๆ เอาไว้ว่า 




“เศร้ามาก เศร้าแบบโคตรเศร้าเลย แต่ก็สงสารแฟนคลับหลายคนที่เศร้าไปกับเราด้วย ผมรู้สึกว่าการให้ใจแฟนคลับมันเป็นสิ่งที่ดีมาก เราไม่ได้ทำงานอย่างเดียว มีแฟนคลับให้ใจเราหลายคน ต้องบอกว่าความรักครั้งนี้เป็นความรักที่น่ารักมากสำหรับผม ได้โอกาสที่ดีที่สุดคือโอกาสที่ทุกคนเปิดใจ ทุกคนยอมรับในความรักครั้งนี้ของผม ทำให้เราได้วางแผนเหมือนที่คุยกันไว้ มีเรื่องที่ตกลงกันอะไรหลายๆ อย่าง ที่มันมีความสุขมาก ถึงมันจะเป็นช่วงเวลาที่ครั้งล่าสุดที่กลับมา เป็นอะไรที่ดีมากๆ ได้สร้างรอยยิ้มให้ใครหลายคนมากมาย ผมมีความสุขมาก ถึงมันจะจบโคตรไวเลย”





อะไรที่ทำให้ไปต่อไม่ได้ ตัดสินใจจบความรักครั้งนี้ ?
“ผมตอบตรงๆ เลย น่าจะเบื่อผมแหละ ผมก็พูดตรงๆ ไม่ใช่เรื่องผิดครับ เขาเบื่อผมนี่แหละครับ ไม่มีข้อใดๆ อื่น ผมคิดว่าเป็นความรู้สึกตัวผมที่เริ่มรู้ตัวแล้วแหละว่าจริงๆ มันควรจะเป็นยังไง อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง จะเป็นยังไง เราก็ต้องรู้ตัวของเรา”

คบกับเขา เราไม่เป็นตัวเอง ?
“ไม่ใช่ ไม่ใช่เรื่องไม่เป็นตัวเอง เป็นเรื่องเล็กน้อยมากสำหรับสองคน ผมจะย้ำเรื่องนึงนะครับ เรื่องสำหรับคนสองคนไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนสองคน และสำหรับผมอายุ 30 แล้ว ผมไม่ใช่เด็กแล้ว การที่ผมตกลงกับใคร มีความหวังกับใคร ถ้าตกลงแล้วผมเป็นคนที่จริงใจมาก ตั้งใจอยากทำให้ทุกอย่างมันสำเร็จอย่างที่เราคิด ตัวเขาผมก็มองว่าเราโตด้วยกันแล้วทั้งคู่ มันเป็นเรื่องของคนสองคนที่ตกลงกัน แต่ว่าวันนึงมันเป็นไปไม่ได้ก็ต้องยอมรับ”



สาเหตุหลักๆ มาจากตัว “แน็ก” ?
“ผมว่าไม่ใช่จากตัวผมครับ ผมต้องพูดตรงๆ วันนี้ผมคงไม่ได้เป็นลูกผู้ชายพอ ที่จะออกมาพูดว่า.. เพราะผมรักเขามาก จะให้ผมออกมาพูดอีกเหรอ เห็นว่าเขาโพสต์ว่าเขาอกหักใช่ไหม ผมจะต้องมายอมรับว่าผมทิ้งเขา ให้เขาอกหักทั้งที่ผมไม่ใช่คนทิ้งแบบนั้นเหรอครับ ผมคงไม่ใช่ลูกผู้ชายพอขนาดนั้นครับ ตัวผม 2 อาทิตย์ที่อยู่มาก็หนักใจอยู่เหมือนกัน”



“ผมไม่ได้ทิ้งเขา ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้ทิ้งเขา จริงๆ ผมไม่ได้อยากพูดอย่างนี้นะ แต่ผมรู้สึกว่าผมโดนคนพิมพ์ด่าเยอะมากว่าผมเป็นคนไปทิ้งเขา ไปทำให้เขาเสียใจ ผมก็จะพูดตรงๆ ว่า ถึงผมจะรักเขาหรืออะไร แต่เมื่อมันมาถึงจุดนี้ ผมจะบอกว่าผมไม่ใช่คนทิ้งเขานะครับ และระยะเวลาเนี่ยมันผ่านมาได้จริงๆ ก็สักพักนึงและ การที่เขาลงอะไร ผมก็พูดตรงๆ ว่ามันไม่น่าจะใช่ที่ลงถึงผมละกัน เพราะผมยังจำทุกสิ่งทุกอย่างในวันที่ผมเดินออกมาได้ครับว่ามันเป็นยังไง จริงๆ ผมก็ไม่อยากสัมภาษณ์อะไร เพราะผมไม่ชอบให้มีการสัมภาษณ์แล้วมีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือไปกระทบถึงอีกฝั่ง ขอร้องตรงนี้เลยว่าใครจะด่าอะไรผมด่าได้เต็มที่เลย ผมไม่ฟ้องพวกคุณแน่นอน เพราะผมผ่านตรงจุดนั้นมา แต่สำหรับใครที่อาจจะฟังแล้วรู้สึกไม่ดี อย่าไปโจมตีฝั่งตรงข้าม ผมเป็นห่วงทุกคนนะครับ ทุกคนน่าจะรู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นได้นะครับ”



ร้องไห้บ้างไหม ?
“ร้องไห้ไหม เป็นเรื่องธรรมดามาก ผมร้องไห้ครับ ผมร้องไห้หนักมาก ก็เป็นเรื่องที่ผมร้องไห้ไปแค่นั้นเอง”

สองคนมีการพูดคุยกันมากน้อยแค่ไหน ?
“ผมคุยกับเขาล่าสุดจริงๆ คือวันที่เขาตอบผม คือวันที่ 19 ผมจำทุกสิ่งทุกอย่างได้ แล้วผมก็ไม่กลัวเรื่องที่เป็นความจริง ผมไม่อยากให้ทุกคนไปแบ่งฝักแบ่งฝ่าย สำหรับตัวผมเองมีวุฒิภาวะสูงพอ ผมมีการตัดสินใจ มีสติสูงมากระดับหนึ่งนะครับ การที่ตัวผมจะควบคุมตัวเอง อย่างวันนี้เราก็กะจะให้ทุกอย่างออกมาเป็นอีกแบบนึง แต่ผมก็มาเลือกว่า ไม่เป็นไร ตัวผมยังต้องทำงานครับ อยากให้คนที่มายืนให้กำลังใจเรามีความสุขด้วย แล้วมีเด็กๆ เข้ามาด้วย พอได้เจอเด็กๆ ก็ทำให้รู้สึกดีชีวิตเราก็แค่… จริงๆ มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากก็ไม่อยากให้ไปรกสมองของคนอื่นด้วย พอผมรู้สึกว่าเวลาเราไปเลื่อนอ่านเจอแล้วเรารู้สึกว่าแบบไม่ได้มีหลายคนอยากมารู้ข่าวพวกนี้ ผมก็ต้องขอโทษด้วย เอาเวลาไปอ่านข่าวที่มันมีสาระมีอะไรดีกว่าเยอะเลย”





ก่อนหน้ามีข่าวเลิกกัน มีข่าวว่าเราไปกินข้าวกับผู้หญิงเลยทำให้เก๋ไก๋งอน ?
“(หัวเราะ) ชีวิตผมไม่ได้มีไปกินข้าวกับใครเลย มีกินข้าวแต่กับคนดูแล (ชี้ที่ผู้จัดการ) คนนี้คือผู้จัดการผมเนี่ยที่ทำให้ผมได้ทำงาน เป็นผู้เป็นคนเกือบหนึ่งปีก็ต้องขอบคุณเขาด้วย เฮ้อ ครับผม”

ที่บอกเขาเบื่อเราแล้ว เรารู้ได้ยังไงว่าเขาเบื่ออะไรเรา ?
“จริงๆ ไม่น่าพูดไปหรอกเนอะเมื่อกี้ จริงๆ ผมเป็นคนที่นิ่งแล้วนะแต่การที่เขาลง ผมพูดตรงๆ นะ ถ้าเราจะรักกันก็ต้องพูดตรงๆ ผมรู้สึกว่าผมโกหกคนดูไม่ได้ ในการทำงานนะ ถ้ามันเป็นงานที่ยังค้างอยู่ผมยกเลิกหมดเลยนะครับ อันนี้ผมขอโทษลูกค้าจริงๆ ผมจะบอกให้ว่าผมวางแผนกัน ผมกล้าพูดว่ามันจะมีอีกเป็นร้อยงานไม่ได้พูดเล่น งานคู่นะครับมันเยอะมาก แล้วผมทิ้งทุกงานเลยครับ ผมขอโทษลูกค้าจริงๆ ตอนแรกผมกับผู้จัดการหนักใจกันมากว่าเราจะบอกลูกค้ายังไง แต่สำหรับผมผมมองว่าเราอายุ 30 แล้ว เราอย่าไปโกหกเขา แล้วสิ่งที่จะทำให้ผมทำงานได้มากที่สุดคือการจริงใจกับการทำงาน เขาจ้างเราแล้ว เราต้องจริงใจกับคนดูด้วย ข้อสำคัญของผมจริงๆ ผมรู้สึกว่าตัวผมไม่ได้สำคัญอะไรมากมาย มันก็ถือเป็นการระบายตรงนี้ของผม ถ้ากระทบผมก็ขอโทษจริงๆ ด้วยก็ฝากย้ำอีกที ใครที่ฟังอยู่อย่าไปพาดพิงอีกฝั่ง ด่าผมได้คนเดียว”

หลังจากมีเรื่องราวเกิดขึ้นได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาหรือยัง ?
“ไม่มีเลยครับ ตัวผมคือผมคุยกับเขา ผมโตแล้วแล้ว ผมขอย้ำอีกทีเรื่องของคนที่อายุ 30 เขาคุยกันสองคนมันควรจะเป็นเรื่องที่ผมโตแล้วจริงๆ ผมไม่รู้นะจะเกลียดจะทะเลาะอะไรกับผมก็มา เห็นผู้จัดการเขาให้สัมภาษณ์ว่าที่บอกว่าน้องเป็นแบบนี้ทั้งคู่อยู่แล้ว ชอบลบๆ บล็อกๆ เลิกๆ อย่าเหมารวมนิสัยผมนะครับ ผมไม่ใช่นิสัยแบบนั้นนะครับ ผมเป็นคนที่แคร์คนมากนะครับ เราทะเลาะกันหลายครั้งมากเวลาเขาอยู่ดีๆ บล็อกผม โดยที่ไม่มีเหตุผล แต่คนไม่ได้เข้าใจ คนชอบนึกว่าผู้ชายไปบล็อกแล้วผมโดนถล่มโดนด่า แต่เราก็ไม่เป็นไรก็อยู่อย่างงั้น เราก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงว่าผมไม่เคยบล็อกเขาเลย มันไม่ใช่นิสัยผม”



กับเหตุการณ์นี้ใครเป็นคนบอกเลิก เราหรือเขา ?
“มันเป็นเรื่องสำหรับคนสองคนนะครับ ที่โตแล้วคุยกันรู้เรื่องแล้ว และในวันที่กลับมาเราก็นึกว่า ผมจะได้มีความรักสุดยอดแล้ว เพราะผมมีความสุขมาก ผมจริงใจมากนะครับ จริงใจกับตัวเขา จริงใจกับลูกค้า จริงใจกับคนดูเพราะคนดูผมหลอกไม่ลงอยู่แล้ว ถ้าวันนึงมีงานที่ค้างอยู่แต่เราต้องไปฝืนทำโดยที่ว่าผมทำไม่ได้”

แสดงว่างานที่มันเข้ามาคืองานคู่ที่เรารับหมดเลย ?
“ใช่ครับ ในเมื่อเราคบกันจริงๆ กลับมาคบกัน ผมวางแผนไปไกลมาก เห็นผมตลกอย่างนี้ดูไม่มีสาระนะ ผมจะบอกว่าผมวางแผนอะไรไว้ ผมวางแผนจริงจังนะ ผมก็อายุเยอะแล้ว ผมก็บอกเขาว่าอะไรมันจะเป็นยังไง ผมเชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนั้น ผมก็บอกเขาครับ”

ตอนที่คุยกับเขา แน็กได้เคลียร์ใจไหม ?
“ผมว่าไม่ต้องพูดหรอกครับ คนอายุเท่าๆ กัน รู้กันอยู่แล้ว คนสองคนรู้กันอยู่แล้วว่าคุยอะไรกัน ตกลงอะไรกัน แต่ในเมื่อมันเป็นอะไรที่แบบว่า ต้องแยกกันก็แยกกัน แต่อย่างน้อยตัวผมรู้สึกว่าให้เกียรติงาน ให้เกียรติคนที่สนับสนุนเรา ให้เกียรติคนที่เข้ามาจิ้นเรา ผมรู้สึกว่าทุกคนน่ารักมาก เป็นครั้งแรกที่ผมเปิดใจและมีความรัก แล้วก็ไม่มีคนจิ้นเราทุกคนน่ารักมาก จะให้ผมโกหกทุกคนต่อมันไม่ได้ นึกออกไหมครับ“



โกหกเรื่องงานไม่ได้ ?
”มันไม่ได้ ไม่ใช่เริ่มมา สมมุติว่าผมไปงานกับผู้หญิงคนนึงแล้วมีคนชอบแล้วคนมาถ่ายรูป แล้วเราไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ อันนั้นผมไปงานกับเขาได้ แต่อันนี้มันคือเริ่มจากความรักของผม และผมอ่ะวันที่ตั้งใจครั้งสุดท้าย ผมตั้งใจจะตัดทุกอย่าง เพื่อทำสิ่งที่ให้ตัวเองดีขึ้น ถึงจะเป็นคนเลวในบางเรื่อง ซึ่งผมก็บอกตลอดว่าผมไม่ได้เป็นคนดี”

แต่ตอนนี้ดูเหมือนเราจบกันด้วยไม่ดี เพราะยกเลิกงานเป็น 10 งาน แล้วถ้าหลังจากนี้ไปเขาจะโพสต์อีก เราจะยังไง ?
“ผมเชื่อว่าวันนี้สิ่งที่ผมพูด คนจะเกลียดผมเยอะขึ้น แต่ไม่เป็นไร ถึงแฟนคลับเค้าจะเกลียดผม ไม่เป็นไร แต่เค้าจะต้องขึ้น มีสติในการโพสต์มากขึ้นครับ เหมือนที่ผมอยู่นิ่งไม่ได้ จริงๆ ผมอยากอยู่นิ่งมากๆ แต่เขาโพสต์ด่าผมเป็นเพลง แล้วเขาก็ลบแล้วเขาก็ลงรูปสวดมนต์ ผมรู้สึกว่าทำไมคุณโพสต์ด่าผมแล้วลบทำไม หรือว่าไปโพสต์ด่าในคอมเมนต์ ผมก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ตัวของเขาพิมพ์ ผมผิดอะไร ผมอยากถามตรงๆ ว่าใครให้คุณพิมพ์เหรอ มันไม่ใช่ เราต้องจริงใจกับคนที่เขาจริงใจกับเรา คนที่เขาทุ่มเงินให้กับคู่เรา ไม่ได้น้อยนะ แต่คนที่รักเราจริงๆ มานอนไม่หลับแทนคู่เรา ผมสงสารเขานะ ผมรู้สึกว่าให้ทุกอย่างมาลงที่ผมเถอะ เดี๋ยวผมนอนไม่หลับเอง”

เข็ดกับเรื่องความรักไหม ?
“ไม่เข็ดครับ”



ที่เราบอกว่าเราจะโสด 10 ปี ขออยู่กับแม่ล่ะ ?
“พูดไปงั้นแหละ ผมแค่รู้สึกว่าเดี๋ยววันนึงเราเจอใคร แต่รอบนี้ ผมคงไม่นั่งอยู่ที่บ้าน รอตลอดเหมือนทั้งปีที่ผมทำมานะครับ รอบนี้ผมก็จะลองเปิดใจ เพราะมีเพื่อนๆ มาหาผมบ้าง พาไปกินข้าวพาไปคลายเครียด ผมก็คงไม่ได้จะมานั่งรออยู่บ้านเหมือนที่ผมทำมาตลอดแล้ว ผมก็ต้องเติบโตในด้านของผมนะครับ เขาก็ต้องเติบโตในด้านของเขา

แล้วเมื่อกี้ที่ตอนเริ่มสัมภาษณ์ที่บอกว่าเขาเบื่อ ผมขอโทษนะครับ ก็เอาเป็นว่าเราแยกกันอย่างดี๊ดีนะครับ มีความสุขจังเลย ต่างคนต่างทำงานให้มีความสุขนะครับ เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่เข็ดครับ ผมรู้อยู่แล้ว อะไรมันจะเป็นอะไร แต่ผมก็พูดตรงๆ ถ้าย้อนไปได้ ผมจะไม่รับโทรศัพท์ แล้วผมจะไม่ใช่คนมุ้งมิ้งน่ะนะ จะแกล้งทำเป็นโยนโบว์ด้วย ผมก็จะไม่แกล้งทำอะไรที่มันแบบไม่ใช่ตัวผมนะ เพราะจริงๆ เราอยู่ด้วยกัน มันเลยจุดนั้นไปแล้ว แต่ว่าในเมื่อเขามีความสุข เค้าอยากปรับเปลี่ยนอะไรที่ให้ผมปรับเปลี่ยน ผมก็ยังพยายามปรับเปลี่ยนทุกๆ อย่างที่ผมทำได้”

แสดงว่าที่ผ่านมา แน็กรักจริงไม่ได้สร้างคอนเทนต์ ?
“โห ผมนี่บอกเลยว่าถ้ามีคอนเทนต์เข้ามาเกี่ยว ผมขอไม่ทำนะครับ มันเป็นความรักจริงๆ ของผม มันจะมีช่วงเวลาที่คุยกันไม่รู้เรื่องบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของคนสองคน และเรื่องสุดท้ายที่ผมจะพูดก็คือว่าใครก็เลิกกันได้นะครับ ไม่ว่าจะเพื่อนของคุณ พ่อแม่ของคุณ ญาติของคุณรวมถึงผมด้วย มองให้มันเป็นเรื่องปกติไป แล้วก็แยกย้ายไม่ต้องไปโจมตีฝั่งไหน พูดแล้วมันอาจจะทำให้ดูแย่นะครับ แต่บอกเลยว่ามาด่าผมฝั่งเดียวพอนะครับ พวกคุณที่จะไปโจมตีฝั่งใคร ก็ให้ระวังเรื่องการฟ้อง ผมเป็นห่วงคุณทุกคนจริงๆ”