มท.1 ชี้ 8 มาตรการคุมเข้มอาวุธปืนมีผลแล้ว ลั่น "บีบีกัน" ไม่ใช่ของเล่น ต้องขึ้นทะเบียนแสดงความเป็นเจ้าของ ขณะที่ปืนเถื่อนต้องทำลาย ไม่สามารถทำเป็นของถูก ก.ม.
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่โรงแรมโมเดนา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนการขึ้นทะเบียนวัสดุเทียมปืน เช่น บีบีกัน และแบลงค์กัน ว่า บีบีกันไม่ใช่ของเล่น เพราะมีอานุภาพรุนแรงหากโดนในระยะประชิด ดังนั้น อะไรที่เป็นอันตรายต่อชีวิตเราต้องควบคุมไม่ให้ถูกใช้โดยง่าย คนที่เป็นเจ้าของต้องมาขึ้นทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ อาจจะกำหนดหมายเลขปืนแต่ละกระบอก และอย่างน้อยจะไม่มีการเพิ่มขึ้นของปืนเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ความเก่งของมนุษย์ที่เอามาดัดแปลงจนเกิดอานุภาพร้ายแรงได้ เราจึงตัดสินใจที่จะต้องควบคุม ส่วนปืนเถื่อนใครถือครองจะถือว่าผิดกฎหมายจะมีโทษอาญาเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น อย่านำมาใช้ แต่ควรทำลายทิ้ง หรือมอบให้หน่วยงานราชการ อย่าถือครองไว้ เพราะหากตรวจพบหรือมีคนนำไปใช้จะต้องรับโทษ
เมื่อถามว่า การขึ้นทะเบียนปืนเถื่อนจะเป็นไปได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันเยอะมาก ตนคงต้องหารือก่อนว่าจะทำอย่างไรให้เกิดปลอดภัยสูงสุด แต่คำว่าเถื่อนก็คือเถื่อน ของเถื่อนจะถูกกฎหมายก็ลำบาก คงต้องทำลาย
ต่อข้อถามถึง มาตรการกำกับดูแลควบคุมการใช้อาวุธปืน กระสุน และสิ่งเทียมอาวุธ 8 ข้อ ที่ออกมาเมื่อวันที่ 5 ต.ค. มีผลบังคับใช้แล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีผลแล้วตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ลงนามข้อสั่งการแล้ว และแจ้งไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย อธิบดีกรมศุลกากร ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
เมื่อถามถึง กรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แนะให้กระทรวงมหาดไทยใช้นโยบายพรรคเก็บอาวุธหยุดความตายของพรรค นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้เราเร่งควบคุมโดยไม่มีการออกใบอนุญาตพกพา และจดทะเบียนปืนใหม่ ส่วนคนที่มีปืน และสิ่งเทียมอาวุธปืนก็ให้เอามาขึ้นทะเบียน