“จิมมี่ ชวาลา” เผยเบื้องหลังความขัดแย้ง “เสนอ ผันแปรจิตร” นักธุรกิจดังเมืองคอน เริ่มจากนำภาพคู่ในงานคอนเสิร์ตไปโพสต์ไม่เหมาะสมจนต้องโทรไปต่อว่าให้ลบออก จากนั้นคู่กรณีมาหาที่ร้านผ้าตำหนิเสียๆหายๆ ต้องเรียกลูกน้องมากำราบให้ก้มกราบก่อนไล่ไป พ้อหากคนเมืองคอนไม่ต้องการพร้อมย้ายไปอยู่ที่อื่น
เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนายเสนอ ผันแปรจิตร นักธุรกิจชื่อดัง เจ้าของกิจการร้าน “แดรี่ฮัท”หลายสาขาใน จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ภาพและข้อความโต้เถียงกันกับ นายจิมมี่ ชวาลา มหาเศรษฐีใจบุญ เจ้าของกิจการร้าน “จิมมี่คลังผ้า” ซึ่งได้บริจาคเงินเพื่อสาธารณะกุศลมาแล้วเกือบ 200 ล้านบาท โดยล่าสุดบริจาคเงินในนามชาวนครศรีธรรมราชจำนวน 16 ล้านบาทในโครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 รพ.ทั่วประเทศ”และบริจาคสร้างอาคาร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช 10 ล้านบาท
นายจิมมี่ เปิดเผยว่า นายเสนอมีปัญหาธุรกิจล้มเหลว เคยเข้ามาขอคำแนะนำกับผม ซึ่งได้แนะนำไปว่า จะต้องอยู่ในร้าน ไม่ควรไปปรากฏตัวตามร้านอาหารต่าง ๆ ดื่มเหล้า เมามาย ขึ้นเวทีร้องเพลง ลูกค้าและคนทั่วไปเขาจะไม่นับถือ ไม่เชื่อมั่น ดังนั้นคุณเสนอจะต้องอยู่บริหารจัดการภายในร้านของตัวเอง นอกจากนั้นยังเอาโฉนดที่ดินมาขอความช่วยเหลือ แต่มันไม่ใช่อาชีพของผม ผมจึงปฏิเสธไป ที่ผ่านมาผมให้เกียรติคุณเสนอมาตลอด แต่คุณเสนอกลับไม่ให้เกียรติผม ทำเรื่องที่ไม่เหมาะสม ทำให้คนทั่วประเทศมองผมในภาพไม่ดี ผมเสียหายเป็นอย่างมาก
“เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค. 2561 มีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่สนามลีวัฒนา ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีศิลปินดังประกอบด้วย ตูน บอดี้สแลม โปเตโต้ และ ดา เอ็นโดฟิน ทางผู้จัดได้เชิญผมไปร่วมด้วยเนื่องจากผมเคยบริจาคร่วมโครงการให้กับตูน บอดี้สแลม 16 ล้านบาท ซึ่งผมก็ไปและอยู่ในพื้นที่ที่เขาจัดไว้ให้ ในขณะที่มีผู้ชมจำนวนมากที่มาชมคอนเสิร์ตและดื่มเหล้า เบียร์และเต้นรำกันอย่างสนุกสาน ในจำนวนนั้นมีนายเสนอ ร่วมอยู่ด้วย เมื่อเห็นผมนายเสนอก็เข้ามาหา ในลักษณะอาการที่เมามาย พูดจาเสียงดัง และมีการเข้ามาใกล้ชิดกับผมและถ่ายรูปกับผม ก่อนจะนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ระบุข้อความไม่เหมาะสม รวมทั้งในภาพติดกระป๋องเบียร์ไปด้วย ทำให้คนจำนวนมากเข้ามาวิพากวิจารณ์ผมในแง่ลบจำนวนมาก พรรคพวกเพื่อนฝูงของผมได้แคปเจอร์ข้อความและภาพหน้าจอเฟซบุ๊กส่งมาให้ผมดู ผมเห็นแล้วมันไม่ดีเลย มันเสียหายมาก ๆ จึงโทรศัพท์ไปตำหนิ ต่อว่าคุณเสนอ” นายจิมมี่ กล่าว
นายจิมมี่ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นนายเสนอ ได้ลบภาพและข้อความที่โพสต์ออกและเดินทางมาพบผมที่ร้านที่ร้านจิมมี่ ผมก็ให้พนักงานนำขึ้นไปพบผมในห้องชั้น 4 แต่แทนที่คุณเสนอจะฟังผมพูด คุณเสนอกลับชักแม่น้ำทั้งห้า และมีการหยิบยกหลักพุทธศาสนามาเทศนาสั่งสอนผม ตำหนิผมเสีย ๆ หาย ๆ คุณเสนอมีสิทธิ์ อะไรที่จะมาสั่งสอนผม ทั้งที่ตัวคุณเสนอเองเป็นฝ่ายก่อเหตุให้ผมเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้ผมไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ผมจึงเรียกพนักงาน 2 คนเข้ามาในห้องและสั่งให้ตบปากคุณเสนอ และขอให้คุณเสนอกราบขอโทษผม พนักงานของผมจึงเข้าไปกระชากคอเสื้อคุณเสนอ แต่ไม่ได้ตบปากตามที่ผมสั่ง โดยคุณเสนอก็ยอมก้มกราบผม ผมจึงไล่ให้คุณเสนออกจากห้องผมไป
“ส่วนที่คุณเสนอไปโพสต์อ้างว่าผมให้มือปืนชักปืนจี้หัวนั้นไม่เป็นความจริง แต่เชื่อว่าคุณเสนอโพสต์ในลักษณะนั้นเพราะต้องการทำลายผมต่อไปอีก คุณเสนอไม่สำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำกับผม สร้างความเสียหายให้กับผม และการที่ไปร้องเรียนกับท่านผู้ว่า ฯและท่านผู้การ ฯ ผมก็ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก เพราะเชื่อว่าทั้งสองท่านเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ใครเป็นอย่างไร และโพสต์อ้างว่าผมให้มือปืนเอาปืนจี้หัว ไม่เป็นความจริง หากเชิญผมไปไปคุยต่อหน้าท่านผู้ว่า ฯและท่านผู้การ ฯ ผมจะตบปากคุณเสนอต่อหน้าผู้ว่า และผู้การอีกด้วย”นายจิมมี่ กล่าว
นายจิมมี่ กล่าวอย่างเหลืออดว่า คุณเสนอมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายครั้งกับผม โดยก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องหนึ่งที่ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมผิดศีลธรรมอย่างรุนแรง และสร้างความเสียหายให้กับผมเป็นอย่างมาก แต่ผมก็พยายามอดทนมาตลอด จนเมื่อถึงครั้งนี้มันเหลือจะทนจริง ๆ อย่างไรก็ตามหากคนนครศรีธรรมราชมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายทำลายผมและครอบครัวเช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่ผมทุ่มเท เสียสละสร้างประโยชน์ให้กับสังคมนครศรีธรรมราชมากมาย แม้แต่การเสียภาษีธุรกิจครอบครัวผมก็จ่ายภาษีหลายสิบล้านบาทในแต่ละปี หากคนนครศรีธรรมราชไม่ต้องการผม ผมและครอบครัวก็พร้อมที่จะไปอยู่จังหวัดอื่น ๆ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้หลักผู้ใหญ่ในหลายจังหวัดรวมทั้งใน กทม.ซึ่งผมมีธุรกิจในเครือข่ายอยู่หลายแห่งเขาก็ต้องการผม เมื่อคนนครศรีธรรมราชเขาไม่ต้องการผม ต้องการทำลายผม ผมก็พร้อมที่จะไปทันที
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : เสนอ ผันแปรจิตร