ศุลกากรเข้มไปนอกพก “นาฬิกา-กล้อง-คอมพ์”ต้องแจ้ง

2018-03-07 19:15:39

 ศุลกากรเข้มไปนอกพก “นาฬิกา-กล้อง-คอมพ์”ต้องแจ้ง

Advertisement

กรมศุลกากรออกประกาศเข้มกรณีไปเมืองนอกแล้วนำ นาฬิกา กล้องถ่ายวีดีโอ กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์พกพาไปด้วย ให้แจ้งต่อพนักงานศุลกากร เผยนำเข้าสิ่งของราคาไม่เกิน 2 หมื่นได้รับการยกเว้นภาษี

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวบไซต์ของกรมศุลกากรได้มีการเผยแพร่ประกาศกรมศุลกากร 2 ฉบับ ซึ่งลงนามโดยนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร โดยฉบับแรก ประกาศที่ 59/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการปฏิบัติการศุลกากรในการตรวจปล่อยผู้โดยสารและหีบห่อสัมภาระระหว่างสนามบินภายในประเทศ โดยวิธีการ Check Through สาระสำคัญ คือ เที่ยวบินขาเข้า ผู้โดยสาร และหรือหีบห่อสัมภาระจากต่างประเทศที่อากาศยานแวะมาลง ณ สนามบินแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อเดินทางไปยังสนามบินแห่งอื่นภายในประเทศ ไม่ว่าจะเปลี่ยนเที่ยวบินหรือเที่ยวบินเดิม ให้ปฏิบัติพิธีการตรวจปล่อยผู้โดยสารและหีบห่อสัมภาระผู้โดยสารที่ถือติดตัวที่สนามบินแห่งแรก และตรวจหีบห่อสัมภาระที่บรรทุกใต้เครื่องบิน ณ สนามบินปลายทาง ผู้โดยสารที่มีของต้องเสียภาษีอากร หรือ ของต้องกำกัดเข้ามาพร้อมกับตน หรือกรณีไม่แน่ใจว่าของที่นำติดตัวมาเป็นประเภทใด ให้ผ่านการตรวจที่ช่องแดง ซึ่งมีป้ายสีแดงและมีอักษรภาษาอังกฤษว่า “GOODS TO DECLARE”ภาษาไทยว่า “มีของต้องสำแดง” แต่ถ้าไม่มีของต้องเสียภาษีอากร ของต้องห้าม หรือของต้องกำกัด ให้ผ่านการตรวจที่ช่องเขียว และมีอักษรภาษาอังกฤษว่า “NOTHING TO DECLARE” ภาษาไทยว่า “ไม่มีของต้องสำแดง” โดยสายการบินหรือตัวแทนต้องประกาศให้ผู้โดยสารทราบก่อนเครื่องบินลงจอด ส่วนเที่ยวบินขาออก ผู้โดยสารและหรือหีบห่อ จากสนามบินต้นทางภายในประเทศ และแวะ ณ สนามบินแห่งอื่นภายในประเทศ เพื่อเดินทางผ่านก่อนออกนอกราชอาณาจักร สามารถปฏิบัติพิธีการตรวจปล่อยผู้โดยสารและหีบห่อสัมภาระของผู้โดยสาร ณ สนามบินต้นทางได้



ส่วนอีกฉบับ คือ ประกาศกรมศุลกากร ที่ 60/2561 เรื่อง การปฏิบัติพิธีการศุลกากรของติดตัวผู้โดยสารที่นำติดตัวเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรพร้อมกับตนทางอากาศยาน มีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า สำหรับหีบห่อสัมภาระผู้โดยสารที่นำเข้ามาพร้อมตน และสามารถจัดเก็บอากรปากระวางได้ ต้องไม่เป็นของต้องห้าม เป็นของที่ผู้โดยสารนำติดตัวมาพร้อมกับตนในวันเดินทางมาจากต่างประเทศโดยมีมูลค่ารวมกันไม่เกิน 2 แสนบาท หรือ เป็นของที่มีมูลค่าเกิน 2 แสนบาท และนำติดตัวเข้ามาเพียงชิ้นเดียว ให้อยู่ในอำนาจพนักงานศุลกากรเป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้จัดเก็บอากรปากระวางได้

สำหรับของส่วนตัวที่นำมาพร้อมกับตนทางท่าอากาศยาน ที่จะสามารถได้รับการยกเว้นภาษี ของส่วนตัวที่เจ้าของนำเข้ามาพร้อมกับตนสำหรับใช้เอง หรือใช้ในวิชาชีพและมีจำนวนพอสมควร มีราคารวมกันไม่เกิน 2 หมื่นบาท สุรา 1 ลิตร บุหรี่ 200 มวย หรือ ซิการ์ หรือ ยาเส้น อย่างละ 250 กรัม หรือหลายชนิดรวมกันมีน้ำหนักทั้งหมด 250 กรัม แต่บุหรี่ต้องไม่เกิน 200 มวน หากนำของเข้ามาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด ให้สละการครอบครอง โดยนำไปใส่ไว้ในกล่องโปร่งใส (Drop Box) ที่ทางศุลกากรได้จัดทำไว้ด้านหน้าช่องเขียว - ช่องแดง




นอกจากนี้ผู้โดยสารที่จะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ที่จะนำของมีค่าออกไป ซึ่งเป็นของเก่าที่ใช้แล้ว และมีจำนวนหรือปริมาณพอสมควร รวมทั้งมีเครื่องหมาย เลขหมายที่สามารถที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น นาฬิกา กล้องถ่ายวีดีโอ กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์สำหรับพกพา เพื่อเป็นหลักฐานในการขอรับการยกเว้นอาการในฐานะของใช้ส่วนตัวตอนนำติดตัวกลับเข้ามาพร้อมกับตน ให้แจ้งต่อพนักงานศุลกากร ณ ห้องที่ทำการศุลกากรบริเวณห้องผู้โดยสารขาออก เมื่อพนักงานศุลกากรตรวจสอบของที่จะนำออกไปแล้ว จะมอบใบแจ้งของมีค่าที่ผู้โดยสารนำติดตัวออกไป และจะนำกลับเข้ามาพร้อมกับตน เพื่อแสดงต่อพนักงานศุลกากรช่องแดง ในวันเดินทางกลับประเทศไทย ภายใต้เงื่อนไขเป็นของเก่าใช้แล้ว และมีจำนวนพอสมควรแก่การเดินทาง มีเครื่องหมาย เลขหมาย หรือหลักฐานอื่นสามารถตรวจสอบได้ มีภาพถ่ายของของที่นำมาแจ้งจำนวน 2 ชุด และพนักงานศุลกากรอาจทำเครื่องหมาย เลขหมายไว้เป็นหลักฐาน

ด้านนายกุลิศ กล่าวว่า ประกาศ 2 ฉบับไม่ใช่กฎหมายใหม่ เป็นการนำกฎหมายฉบับเดิมที่มีการยกเลิกไปก่อนหน้านี้ กลับมาประกาศให้มีผลบังคับใช้อีกครั้ง เพราะปลายปีที่แล้วมีการปฏิรูปกฎหมายศุลกากรครั้งใหญ่ ทำให้ประกาศที่มีอยู่ภายใต้กฎหมายเดิมถูกยกเลิกไปจึงต้องทยอยประกาศใช้ให้สอดรับ พ.ร.บ.ใหม่