“พรเพชร” เผยอาคารรัฐสภาแห่งใหม่คืบหน้าเกือบ 50 % เตรียมคืนรัฐสภาเดิมให้สำนักพระราชวังต้นปี 2562 ชี้สมาชิกรัฐสภาชุดใหม่ใช้ประชุมเลือกนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานรัฐสภา นำคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างสัปปายะสภาสถาน หรือ อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย กล่าวว่า ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปเกือบร้อยละ 50 แล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีการเร่งรัดการก่อสร้างโดยตลอด โดยเฉพาะห้องประชุมพระจันทรา สำหรับ ส.ว. ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ส่วนห้องประชุมพระสุริยันสำหรับ ส.ส. คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมี.ค. และล่าสุดมีการต่อสัญญาเป็นครั้งที่ 3 เพื่อขยายระยะเวลาการทำงานตั้งแต่ 10 ก.พ. 2561 ถึง 15 ธ.ค.2562 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 674 วัน ทั้งนี้ในช่วงต้นปี 2562 จะมีการคืนรัฐสภา ซึ่งเป็นพื้นที่พระราชฐาน ให้กับสำนักพระราชวัง ทั้งนี้สมาชิกรัฐสภาชุดใหม่ อาจจะมาใช้พื้นที่สัปปายะสภาสถาน ในการประชุม และเลือกนายกรัฐมนตรี
“ผมตั้งใจจะคืนต้นปี 2562 และถ้าเป็นไปตามแผน สภาชุดใหม่จะมาใช้รัฐสภาที่นี่ ห้องประชุมใหญ่ ส.ว.เสร็จภายในปีนี้ ส่วนห้องประชุมใหญ่ ส.ส.จะเสร็จในเดือน มี.ค. 2562 แต่ผมได้เร่งรัดให้เสร็จเร็วกว่านี้” นายพรเพชร กล่าว
ด้านนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้โครงสร้างของอาคารรัฐสภาใหม่เสร็จไปกว่า 98 % ส่วนงานตกแต่งภายในหรืองานสถาปัตยกรรมเสร็จไปเพียง 20 % ซึ่งขณะนี้เร่งรัดให้ก่อสร้างสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ โดยเฉพาะห้องประชุมจันทรา ซึ่งเป็นที่ประชุมของส.ว.จำนวน 300 ที่นั่ง ห้องประธานกรรมาธิการ ห้องทำงานของสมาชิก และห้องทำงานข้าราชการวุฒิสภา ทั้งนี้ จะย้ายข้าราชการมาปฏิบัติหน้าที่บางส่วนภายในสิ้นปีนี้ และห้องประชุมจันทราจะสามารถจัดประชุม ส.ส.และส.ว.ได้ ขณะที่ห้องประชุมของ ส.ส.หรือห้องสุริยันจำนวน 800 ที่นั่ง จะเร่งรัดให้เสร็จสิ้นในเดือน มี.ค.2562 อย่างไรก็ตาม สำหรับงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการตกแต่ง ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ขณะนี้ได้ของบประมาณแล้ว 8,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเห็นชอบแล้ว คาดว่าจะเสนองบประมาณต่อ ครม.ได้ในวันที่ 13 มี.ค. เพื่อเดินหน้าจัดทำระบบเทคโนโลยี
