ออกโรงโต้! “เชียงใหม่” ไม่ใช่จังหวัดอากาศแย่ที่สุดในโลก

2018-03-07 13:00:37

ออกโรงโต้! “เชียงใหม่” ไม่ใช่จังหวัดอากาศแย่ที่สุดในโลก

Advertisement

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่จัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ลดค่าหมอกควัน ออกโรงโต้เรื่องเป็นจังหวัดคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลกไม่เป็นความจริง พร้อมสั่งเฝ้าระวังไฟป่าด้วยการจัดกำลังเสริมลงในชุมชน จดรายชื่อคนเข้าป่าทุกคน ล่าสุดจับกุมมือเผาได้แล้ว 3 ราย



เมื่อวันที่ 7 มี.ค. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ เป็นประธานจัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ที่บริเวณวงเวียนด้านหน้าอาคารศาลากลาง จ.เชียงใหม่ โดยมีนายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.33 กว่า 40 นาย และนำหุ่นยนต์โรบอทพ่นน้ำระยะไกล 1 เครื่อง รถน้ำดับเพลิง จำนวน 10 คัน มาร่วมในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ โดยมีการฉีดพ่นละอองน้ำขึ้นไปในอากาศ เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศ ลดค่าหมอกควัน และมีการฉีดพ่นล้างทำความสะอาดพื้น กวาดถนน เพื่อกำจัดฝุ่นละอองโดยรอบศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นส่วนหนึ่งในการเกิดปัญหาด้านมลพิษทางอากาศ


ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นกิจกรรมสร้างความชุ่มชื้น ฉีดล้างถนนทำให้ฝุ่นละอองลดน้อยลง ปัญหาของฝุ่นละอองที่มีผลกระทบต่อคุณภาพอากาศก็มีหลายสาเหตุ สาเหตุแรกที่ทราบกันอยู่แล้วคือการเผาป่า และฝุ่นละอองจากพื้นดิน ที่ลอยขึ้นไปในอากาศก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง วันนี้จึงมาแก้ปัญหาด้วยการลดฝุ่นละอองในอากาศให้ลดน้อยลงด้วยการล้างถนน สำหรับมาตรการในจังหวัดเชียงใหม่เรื่องป้องกันไฟป่าและหมอกควัน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 61 เป็นต้นมา เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาถือว่ามีการเกิดไฟป่ามากขึ้น ซึ่งข้อมูลถึงวันที่ 4 มี.ค. 61 พบว่าเกิดจุดความร้อนไฟป่า จำนวน 314 จุด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีเพียง 208 จุด คุณภาพก็เกินค่ามาตรฐานแล้ว 1 จุด แต่ค่าเฉลี่ยโดยรวมก็ยังอยู่ในค่ามาตรฐานอยู่ และในบางชั่วโมงอาจจะสูงเกินกว่าค่ามาตรฐาน ขณะนี้ก็ดำเนินการกับในพื้นที่เสี่ยง โดยให้มีการเข้าไปควบคุมมากขึ้น ซึ่งจุดเสี่ยงจะอยู่ในโซนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่อำเภออมก๋อย ขึ้นมาเรื่อยๆ โดยเน้นในพื้นที่ตอนใต้ไม่ให้เกิดไฟไหม้ป่า และมีการเข้าไปพูดคุยกับพี่น้องชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่าว่าไม่ควรเผาป่า




ส่วนกรณีที่มีเว็บไซต์หนึ่งรายงานว่า จ.เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลกนั้น เรื่องนี้ก็ทราบข้อมูลมาแล้ว เพียงแต่ว่าข้อมูลที่เป็นค่ามาตรฐานจริงๆ นั้นเราใช้ค่า pm10 ในการตรวจวัด ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานที่กำหนดมา และจะเห็นว่า จ.เชียงใหม่ มีค่าฝุ่นละออง pm10 ยังไม่เกิน 130 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. หากเทียบกับจังหวัดอื่นที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานแล้วมากกว่า จ.เชียงใหม่เป็นเท่าตัว ก็เลยเกิดความสงสัยเหมือนกันว่าเป็นอย่างไร ซึ่งอาจจะเป็นการวัดเฉพาะพื้นที่หรือไม่ และไม่ได้ทำการวัดกระจาย เพราะค่าเฉลี่ยของจังหวัดเชียงใหม่ยังมีค่าที่ไม่สูงเหมือนจังหวัดอื่น


ด้านกรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดคุณภาพอากาศ เมื่อเวลา 09.00 น.พบว่าจุดตรวจวัดที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีค่า PM10 สูงถึง 120 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. หากมีค่าสูงกว่านี้ก็จะถือว่าเกินมาตรฐาน ส่วนจุดตรวจวัดที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ วัดค่าได้ 93 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.