ชาวนา ต.แม่ระกา อ.วังทอง กว่า 10 ราย เดินทางเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม วอนขอความช่วยเหลือ หลังนำข้าวเปลือกกว่า 100 เกวียน ไปขายให้ท่าข้าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก แล้วไม่ได้รับเงิน แถมถูกผัดผ่อนไปเรื่อยไม่มีกำหนด จนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ศาลากลาง จ.พิษณุโลก กลุ่มชาวนาจำนวนกว่า 10 ราย จาก ต.แม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้เดินทางมาเพื่อร้องทุกข์ต่อ ผวจ.พิษณุโลก กรณีขายข้าวแล้วไม่ได้รับเงินนานกว่า 3 เดือน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ขาดเงินทุนสำหรับทำนารอบใหม่ และเดือดร้อนไม่มีเงินมาใช้จ่ายในการครองชีพ
ด้าน นายสม อมกระโทก อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 12 ต.แม่ระกา อ.วังทอง ตัวแทนเกษตรกรชาวนาที่เดินทางมาร้องเรียนในครั้งนี้ เปิดเผยว่า ตนเองและชาวนารายอื่นๆ ได้นำข้าวเปลือกรวมกว่า 100 เกวียน ที่เก็บเกี่ยวขายให้กับท่าข้าวแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 88/8 หมู่ 7 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ช่วงเดือน ธ.ค. 60 ถึง ม.ค. 61 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดวันนัดรับเงิน ท่าข้าวดังกล่าวกลับไม่จ่ายเงินตามที่นัดไว้ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 755,000 บาท ซึ่งทางตนเองและชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนพยายามที่จะทวงถามเจ้าของท่าข้าวมาโดยตลอด แต่ก็ถูกผัดผ่อนไม่ยอมจ่าย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จนต้องมาร้องทุกข์ต่อ ผวจ.พิษณุโลกให้ช่วยหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
ด้านนางศรีนวล แก้วสระแสง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 ม.12 ต.แม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนปลูกข้าวนาปี รอบ 2 เป็นข้าวพันธุ์ กข.51 นำไปขายที่ท่าข้าวดังกล่าวจำนวน 32 เกวียน 67 ถัง เป็นเงินประมาณ 190,000 บาท นัดจ่ายเงินในวันที่ 5 ม.ค. 2561 แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด ผัดผ่อนมาเรื่อย 2 เดือนกว่าแล้ว ตนลำบากมากเพราะต้องเป็นหนี้ค่ารถเกี่ยวที่จ้างมา ค่าปุ๋ยค่ายาก็ไม่มีเงินจ่าย เงินทุนก็ไม่มีปลูกข้าวต่อ ไหนจะค่าใช้จ่ายในครอบครัวอีก
ล่าสุด นายอธิปไตย ไกรราช ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.พิษณุโลก ได้เป็นตัวแทน ผวจ.พิษณุโลก รับหนังสือร้องทุกข์จากเกษตรกรชาวนา พร้อมแนะนำให้ชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และล่าสุดได้มีคำสั่งเร่งด่วนให้พาณิชย์ จ.พิษณุโลกพร้อมด้วยนายอำเภอวังทอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ไปยังท่าข้าวดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับเกษตรกรชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ต่อไป