“อี๊ด วงฟลาย-กบ แท็กซี่” แอบกินกันเองจริงไหม ? รับหมดแพชชั่นในวงการ เพราะถ้าต้องไปของานเหมือนขอทาน ขอออกจากวงการดีกว่า
เซอร์ไพร์ส! เหนือความคาดหมาย เมื่อมีข่าวลือสะเทือนตึกแกรมมี่ ว่านักร้องนำรุ่นใหญ่จากวงชื่อดังระดับตำนานและมีเพลงฮิตที่ถ้าบอกไปก็ต้องร้องตามกันสนิทสนมจนหลายคนขอจิ้นกันเลยทีเดียว ล่าสุด “อี๊ด วงฟลาย” และ “กบ แท็กซี่” ที่มาพร้อมวง Rock Brothers ซึ่งทั้งคู่ควงกันมาเคลียร์ความสัมพันธ์ว่าแอบคบกันจริงไหม ? ผ่านรายการ คุยแซ่บโชว์ เผยความสัมพันธ์ที่ไม่เคยพูดที่ไหน รวมไปถึงครั้งนึงหมดแพชชั่นในการอยู่วงการบันเทิง
หมดแพชชั่น จนต้องลาวงการบันเทิง ?
อี๊ด : คือย้อนกลับไปตอนนั้นอยากลาวงการ เพราะเราแพชชั่นในการทำงาน ความรู้สึกตัวเองถ้าต้องเอาอาชีพของเราไปขอทาน ให้มาจ้างงาน เลิกอาชีพนี้ดีกว่า และที่ผ่านมาเราเคยพีคมากๆ ทุกคนรู้จัก เพราะหลังๆ มีน้องๆ ใหม่ขึ้นมา และพอจะสร้างงานใหม่ๆ ขึ้นมา คนที่จะสร้างงานไปกับเรา เขาจะคิดเป้าเดิมๆ มันเลยทำให้เวลาทำงาน มันไม่ถึงจุดนั้นซะที จนทำให้งานต้องล้มไป หมายถึงว่าถ้าเราจะสร้างเพลงใหม่ขึ้นมา เราก็ยังยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ
และคำว่าถ้าทำงานเพลง แล้วต้องไปของานเหมือนขอทาน ?
อี๊ด : ช่วงเวลานั้นที่มันพีคสุด และพอเราดาวน์ลง คุณค่าของเรา บวกกับหลายๆ เหตุการณ์ที่คนอื่นมองว่าเราดาวน์ลง แต่ผมเข้ามาแบบรักดนตรี ร้องที่ไหนก็ได้ ค่าตัวไม่สำคัญ ซึ่งถามว่าเราเตรียมตัวว่าเป็นขาลงไหม ส่วนตัวไม่เคยคิดว่าตัวเองจะดังด้วย เพราะแค่อยากร้องเพลง แต่เผอิญทุกคนให้การตอบรับ เราเลยต้องรับตำแหน่งนี้ไว้ จากนั้นเราไม่ได้ทำเพลง เลยลาออกจากวงการไปเกือบ 10 ปี ก็ไปทำงานออแกไนซ์ เพราะโอกาสร้องเพลงคือปิดตาย แต่เราไม่ได้คิดถึงงานร้องเพลงเลย เพราะเราโฟกัสงานอื่นอยู่
พี่กบ คือแรงบันดาลใจในการสร้างแพชชั่นให้พี่อี๊ดกลับมาอีกครั้ง ?
กบ : ไม่ได้พูดถึงตรงนั้น แต่พอไปร่วมงานกับพี่อี๊ด เริ่มสนิทสนมกัน ระหว่างนั้นพี่อี๊ดไม่ได้เล่นคอนเสิร์ตเลย บวกกับมีคนถามว่าพี่อี๊ดไม่รับงานเหรอ เห็นหายไปเลย ก็เลยมาเล่าให้พี่อี๊ดฟัง ผมก็เลยไปเล่าแบบจริงจัง เพราะแฟนเพลงก็รอ เจ้าภาพก็รอ
อี๊ด : เราก็คิดอยู่สักพักนึง เพราะใจจริงก็ไม่อยากกลับแล้ว ผมอิ่มแล้ว เรามีความสุขตั้งแต่เริ่มได้เล่นดนตรีมา
แต่ในทางกลับกัน พี่กบ กลับหมดแพชชั่นซะเอง ?
กบ : ช่วงนั้นสนุกกับการเล่นคอนเสิร์ต ชื่อเสียงก็ชนเพดานไปแล้ว ไม่มีทางจะดังไปกว่านี้และก็เริ่มเบื่อ ไม่ค่อยอยากออกคอนเสิร์ต ความรู้สึกเหมือนพี่อี๊ด ก็คุยกันนะ
อี๊ด : เข้าเขานะ เพราะกบเป็นคนทุ่มเทกับงานมาก ทุ่มเทมากกว่าคนปกติ หลายร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาเป็นคนทำงานจริงจังมาก เขาเลยอยากผ่อนคลายลง อยากเวลากินไอติม
กบ : แต่ปัญหาของเราคือเส้นเสียงเปราะ ถ้ากินน้ำเย็นจะทำให้เสียงไป
อี๊ด : และช่วงเวลาตอนนั้นที่ชวนกลับมา เราก็กลับมารับงานเหมือนเดิม ไปออกงานคู่กัน รับงานคู่มา 10 กว่าปี
กบ : เพราะก่อนจะกลับมาร่วมงานกับพี่อี๊ด เราก็ไปทำร้านกาแฟ เราสนุก มีความสุขดี ได้สตางค์พอสมควร เพราะก่อนหน้านี้เราต้องฝืนเพื่อรักษาคุณภาพของเราให้ดี แต่พอมาทำร้านกาแฟ ทำชีวิตให้สนุก กินน้ำแข็งเต็มที่มาก แต่ก็มีงานตลอด แต่เราอยากทำในสิ่งที่เราอยากทำ
และมาสนิทกันตอนไหน ?
อี๊ด : ตั้งแต่ครั้งนั้น จนมาถึงตอนนี้เราไปไหนมาไหนด้วยกัน ไปต่างประเทศ คบกันมาช่วงระยะนึง รู้นิสัยพี่กบเป็นยังไง ปรับกันเรื่อยๆ
กบ : (ลูบขาพี่อี๊ด) บอกเขาตอบดีๆ (ยิ้ม)
สนิทจนพี่กบไปจัดแจงทุกอย่างในบ้านของพี่อี๊ด ?
กบ : มีอยู่ช่วงนึง ตอนนั้นพี่อี๊ดไปอเมริกา ไปรับปริญญาลูกสาว ไป 2 เดือน เขาก็เลยฝากบ้านเราไว้และทิ้งบ้านไว้ให้ ไปกวาดใบไม้ที่บ้านให้ พายุเข้าจนหลังคาเปิด ไปเช็กบ้านให้เขา ส่งรูปให้ดู (สนิทกันจนมีงอนไหม?) ไม่กล้างอน ไม่รู้จะเอาอะไรไปโกรธเขา เขาเป็นห่วงผม ห่วงแฟนผม ซื้อของมาฝากตลอด เป็นพี่ที่ดีมาก
สรุปพี่อี๊ด เป็นผู้หญิง เราสามารถมะ ?
กบ : รีบเลยนะ ถ้าผมเป็นผู้หญิง ผมเอาเลยนะ เขาเฟรนด์ลี่กับแฟนๆ มาก
ด้วยความเฟรนด์ลี่ของพี่อี๊ด เราเป็นห่วงไหม ? กลัวคนเข้าใจผิดไหม ?
กบ : คาแรกเตอร์เขาเป็นแบบนี้ ก็ไม่ได้เป็นห่วงนะ (มองตา) แต่บางครั้งก็อาจจะยาวนาน เพราะบางทีเราต้องไปงานอื่นต่อ
อี๊ด : มันเป็นสิ่งที่รับงานไว้ แต่ถ้าเวลาส่วนตัว เราก็ไม่ได้ทำ
ใจดีแบบนี้ ยืมเงินได้ไหม ?
อี๊ด : ถ้าหมดอ่ะ ถ้ามี (ยิ้ม)
“ขาร็อก” แบบนี้ เคยเจอแฟนคลับ “ขาโหด” ไหม ?
อี๊ด : ผมรอดมาได้ด้วยปาฏิหาริย์ เราร้องอยู่หน้าเวที มีขาไมค์อยู่ เป็นการกันวิก แต่มีอีกกลุ่มที่ไม่เข้ามา แต่คอยกวนอยู่ข้างนอก เขาจะปาขวดเข้ามาในวิก เรากำลังเข้าร้องพอดี ขวดลอยเข้ามาที่ข้างหู ได้ยินทันที ขวดตกแตกข้างๆ ขาเรา เฉียดไปนิดเดียว ซึ่งเพลงประจำที่ตีกัน ก็คือเพลงช้า เพราะเพลงเร็วโยกกันอยู่
กบ : โอ้โห แท็กซี่ก็ตัวพ่อ ส่วนมากก็เพลงช้าที่ตีกัน
สนิทกันขนาดนี้ แอบเมาท์ว่าคบกันเบาๆ ?
อี๊ด : กลิ่นมาถึงตึกแกรมมี่เลยเหรอ ถ้าความรู้สึก เพื่อนมีเยอะอยู่แล้ว แต่พอเราได้ใกล้ชิดตลอดเวลาในช่วงเวลาสำคัญ แต่ความรู้สึกในใจสำหรับคนนี้ คือมองตานิดเดียว หรือไม่มองตาก็รู้ทันที มันลึกเข้าไปในความรู้สึก เราใช้ความรู้สึกกัน เป็นการสื่อสารความรู้สึก ดูแลกันและกัน เขาจะรู้ว่าเราเป็นคนยังไง อะไรที่ไม่ควรทำก็จะไม่ทำ เป็นที่ปรึกษา แต่ไม่รู้ว่าหลายคนมองเราแบบนี้ (ยิ้ม)
แต่คนรอบข้างเขาเห็นความสนิทสนมแบบนี้ จนแอบจิ้น ?
อี๊ด : ถามว่ารักไหม รักเพื่อนคนนี้ รักน้องคนนี้ (ลูบขา)
คลิปสัมภาษณ์ อี๊ด วงฟลาย - กบ แท็กซี่
https://youtu.be/qRK3-yNpYRc?si=kNxNG1HSixwoLSY1