นายกฯลั่นภายใต้รัฐบาล พท.ปัญหาคอร์รัปชันจะลดลง (มีคลิป)

2023-09-06 15:29:55

นายกฯลั่นภายใต้รัฐบาล พท.ปัญหาคอร์รัปชันจะลดลง (มีคลิป)

Advertisement

นายกรัฐมนตรีลั่นภายใต้รัฐบาล พท.ปัญหาคอร์รัปชันจะลดลง ความโปร่งใส่ เป็นธรรมจะเพิ่มมากขึ้น  ตามมาด้วยความน่าเชื่อถือและการยอมรับจากประชาชน นักลงทุน ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อเศรษกิจของประเทศ

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.66  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  และ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน วันต่อต้านคอร์รัปชัน 2566 ณ โซนประตู 4 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เขตจตุจักร  กทม.  ว่า  องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)  หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน  ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาพูดคุยกับทุกท่านในงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2566 ในวันนี้ หัวข้อเรื่องการปราบปรามการทุจริตและเรื่องความโปร่งใสของรัฐบาล เป็นหนึ่งในนโยบายที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งของรัฐบาล และเป็น “หน้าที่” ของหน่วยงานภาครัฐที่จะต้องสนับสนุน และปฏิบัติตาม อย่างไม่มีข้อยกเว้น   ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) เป็นอันดับที่ 101 ของโลก ในด้านของดัชนีการรับรู้การทุจริต เป็นอันดับ 4 ของอาเซียน (ตามหลังสิงคโปร์ มาเลเซีย และ เวียดนาม) ซึ่งหมายความว่าเรามีสิ่งที่จะต้องพัฒนากันอีกมากนะครับ ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันนั้น นอกจากที่จะทำให้เกิดความเสียหายโดยตรงต่อภาครัฐแล้ว ยังทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เศรษกิจไทยถดถอย และมีผลต่อเนื่องไปสู่ปัญหาการขับเคลื่อน GDP ของประเทศอีกด้วย


เพื่อที่จะขจัดปัญหาทุจริตคอร์รัปชันให้หมดไป ทางรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย มีนโยบาย ทั้งด้านการใช้หลักนิติธรรม หรือ Rule of Law ที่เข้มแข็ง และนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ในกระบวนการต่างๆ ของภาครัฐ ทำให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งจะช่วยพี่น้องประชาชนได้ทั้งความโปร่งใส และการให้บริการภาครัฐที่เร็วยิ่งขึ้น หลักนิติธรรมที่มั่นคงแข็งแรงมาจากระบบการเขียนกฎหมาย และการออกกฎหมายที่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ  และประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเพื่อช่วยกันกำหนดทิศทางและอนาคตของตัวเองและของประเทศ  เรามีแผนที่จะปรับปรุงกฎหมายเพื่อลดกระบวนการและเงื่อนไขต่างๆ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เปลี่ยน "รัฐอุปสรรค" ให้เป็น "รัฐสนับสนุ"  และป้องกันการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินสินบนจากประชาชน

นอกจากกฎหมายที่เข้มแข็งแล้ว รัฐบาลของเราจะให้ความสำคัญ กับการบังคับใช้กฎหมายและการลงโทษที่เฉียบขาดและครอบคลุม เจ้าหน้าที่รัฐในหลายๆ ตำแหน่งจะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และในระดับสูงจะต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อแสดงความโปร่งใส และเปิดให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ การมีกฎหมายที่เข้มแข็ง เน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักและการบังคับใช้กฎหมายที่โปร่งใส ยุติธรรม มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้นี้ จะส่งเสริมความแข็งแกร่งและสร้างรากฐานของสังคมที่เคารพในกฎหมายร่วมกันและขจัดการคอร์รัปชันให้หมดไปจากประเทศไทย


นอกจากนิติธรรมที่มั่นคงแข็งแรงแล้ว เราจะนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อช่วยให้เราสามารถเกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้ ตัวอย่างนโยบายที่เราจะนำมาใช้ในอนาคตอันใกล้คือ 1) ใช้ระบบการจ่ายเงินภาครัฐผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้เงินสด 2) เปิดให้ขอใบอนุญาตและการติดต่อราชการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และทำให้ขอได้โดย “ง่าย” เป็น One-stop service (พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565) 3) ปรับปรุงระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้ทันสมัยและโปร่งใส เพื่อป้องกันการทุจริต และเปิดข้อมูลให้ตรวจสอบได้ตามแนวทาง Open Government 4) ปรับเปลี่ยนการบริหารประเทศของรัฐบาลให้เป็น Digital Government และปรับใช้เทคโนโลยีสำหรับระบบการอนุมัติ การอนุญาต การควบคุมตรวจสอบ เพื่อให้มีความโปร่งใส และลดการต้องใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นผู้ติดต่อกับประชาชน

"ผมเชื่อมั่นว่าภายใต้รัฐบาลเพื่อไทยนี้ ปัญหาการคอร์รัปชันจะลดลงความโปร่งใส่และเป็นธรรมจะเพิ่มมากขึ้น และตามมาด้วยความน่าเชื่อถือและการยอมรับจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งก็จะส่งผลกระทบที่ดีต่อเศรษกิจของประเทศต่อไป"นายเศรษฐา กล่าว