มีให้ชิมปีละครั้ง ไก่ย่างชื่อดังขายงานวัดเกาะหลักเฉลี่ยวันละ 200 ตัว
เมื่อวันที่ 3 มี.ค.นายอนุพงษ์ หรือ บังนุ ประทีป อายุ 57 ปี ชาว จ.เพชรบุรี เจ้าของร้านไก่ย่างจีระพันธ์ ริมถนนสละชีพ เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าเดิมเปิดร้านขายไก่ย่างที่เขาบันใดอิฐ อ.เมือง จ.เพชรบุรี แต่จะเดินทางมาเปิดร้านขายไก่ย่างฝั่งตรงข้าม รร.ประจวบวิทยาลัย เฉพาะการจัดงานประจำปีปิดทองหลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ปีละ 1 ครั้ง และเปิดร้านขายชั่วคราวต่อเนื่องมานานกว่า 30 ปี ไม่ไปขายงานอื่นเด็ดขาด โดยใช้ส่วนผสมจากสูตรดั้งเดิมต้นตำรับทั้งไก่ย่าง และข้าวหมกไก่จีระพันธ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต ปัจจุบันเปิดขายตั้งแต่ 15.00 – 22.00 น. ในช่วงการจัดงานวัด 9 วัน 9 คืน ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 8 มี.ค.ขายได้วันละไม่เกิน 200- 220 ตัว โดยใช้ไก่น้ำหนักเฉลี่ยตัวละ 1.5 กิโลกรัมจำหน่ายตัวละ 200 บาท พร้อมข้าวเหนียวห่อละ 5 บาท
นายอนุพงษ์ กล่าวว่า ตนเองสืบทอดตำนานของไก่ยางจีระพันธ์มาถึงรุ่นหลานชาว จ.เพชรบุรี ในฐานะหลานเขยของเจ้าของสูตรไก่ย่างที่ทำมานานมากว่า 50 ปี ปัจจุบันผมใช้สูตรเดิมๆโดยไม่มีการปรุงแต่งรสชาติ เนื่องจากเดิมเจ้าของสูตรเคยมีการฟ้องร้องผู้แอบอ้างใช้ชื่อไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ แต่รสชาติไม่เหมือนต้นตำรับ มาถึงยุคนี้ผมไม่หวงสูตรใครอยากทำกินก็จะสอนให้เพื่อให้ทำเป็นอาชีพ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องทำให้มีคุณภาพเท่าเทียมกัน เพราะผู้ที่เคยรับประทานไก่ย่างจีระพันธ์จะรู้ดีว่าของเดิมเป็นอย่างไร ดังนั้นทุกขั้นตอนในการผลิตจะต้องควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการผสมสูตรเครื่องปรุงเพื่อทาตัวไก่จากนั้นนำไปหมักตามระยะเวลาที่กำหนด และขณะย่างไก่ต้องนำไปสับเป็นชิ้น เพื่อให้น้ำปรุงซึมเข้าเนื้อไก่ก่อนนำไปรับประทาน ก็จะต้องใช้เครื่องปรุงที่ผสมอีกสูตรที่มีน้ำกะทิ กระเทียม พริกไทย นมสด สีผสมอาหาร ไม่มีเครื่องเทศทั้งผงกะหรี่หรือผงมัสร่า สำหรับขั้นตอนนี้ยอมรับว่าต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ลูกค้าส่วนใหญ่จะรอได้ตามคิวที่สั่งไว้
“ที่สำคัญรสชาติของน้ำจิ้มจะต้องเหมือนเดิมจากน้ำหนักของน้ำตาลทราย พริกแดง น้ำกระเทียมดอง ทุกอย่างทำวันต่อวัน ที่ผ่านมาได้ถ่ายทอดสูตรไก่ย่าง ข้าวหมกไก่ ให้ลูกชายที่มีหน้าที่ย่างไก่หน้าเตา เพราะผมไม่มีทรัพย์สินเงินทองอย่างอื่นแต่เรามีวิชาชีพให้ทำกิน ถ้าขยันก็สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้อย่างสบาย” นายอนุพงษ์ กล่าว