รมว.คมนาคมเผยการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.เพชรบุรีเตรียมเสนอโครงการริเวียร่าหรือโครงข่ายถนนเลียบชายฝั่งทะเลจากภาคกลางไปภาคใต้ให้เป็นเส้นทางสำรองจากการใช้ถนนเพชรเกษม เพื่อสนับสนุนนโยบายด้านการท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เดินทางลงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจติดตามการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่ ก่อนการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ภาคกลางตอนล่าง2 วันที่ 6 มี.ค.ที่ จ.เพชรบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมให้การต้อนรับ จากนั้นได้ประชุมติดตามผลการดำเนินงานที่หมวดทางหลวงบางสะพานเกี่ยวกับการฟื้นฟูบูรณะทางหลวงภายหลังการเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ อ.บางสะพาน เมื่อต้นปี 2560 โดยรับฟังรายงานการซ่อมแซมสะพานข้ามคลองบางสะพาน ถนนเพชรเกษม กม.386+542 และสะพานข้ามคลองหนองหญ้าปล้อง ถนนเพชรเกษม กม.ที่ 365+628 ปัจจุบันได้มีการซ่อมแซมคอสะพานและปรับปรุงโครงสร้างให้มีความมั่นคงแข็งแรงทั้ง 2 สะพานสามารถรองรับการสัญจรของผู้ใช้เส้นทางทั้งขาขึ้นและขาล่อง 14 จังหวัดภาคใต้ได้ตามปกติ
นายอาคม กล่าวว่า ขณะนี้กรมทางหลวง ได้จัดสรรงบประมาณกว่า 12.9 ล้านบาทปรับปรุงต่อความยาวสะพานข้ามคลองบางสะพานฝั่งขาล่องใต้เพิ่มออกไปอีก 10 เมตร จากเดิม 90 เมตรเป็น 100 เมตรเพื่อให้เท่ากับสะพานฝั่งขาขึ้นทำให้การไหลผ่านของน้ำใต้สะพานสะดวกมากขึ้น พร้อมทำจุดกลับรถใต้สะพานเพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้จุดกลับหน้าหมวดทางหลวงบางสะพาน ขณะนี้ได้รับงบประมาณแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการ สิ้นสุดสัญญาจ้างวันที่ 7 ส.ค.นี้ ส่วนที่สะพานข้ามคลองหนองหญ้าปล้อง กรมทางหลวงมีแนวทางที่จะรื้อสะพานเดิมและก่อสร้างสะพานใหม่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจออกแบบ และจะบรรจุในแผนงานโครงการปีงบประมาณ 2563 คาดว่าต้องใช้งบประมาณจำนวน 80- 100 ล้านบาท
“นอกจากนี้ในพื้นที่ อ.บางสะพานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก เช่น ถนนเลียบชายทะเลบ้านกรูด ถนนสายบางสะพาน-หนองหัดไท ปัจจุบันดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบท่อระบายน้ำถนนสายแยกบางสะพาน-ชายทะเล รวมทั้งการปรับปรุงทางเท้าในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ได้เน้นย้ำให้คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ของทุกกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะผู้พิการที่ใช้รถวีลแชร์”นายอาคม กล่าว
นายอาคม กล่าวด้วยว่า สำหรับการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.เพชรบุรีจะเสนอโครงการริเวียร่าหรือโครงข่ายถนนเลียบชายฝั่งทะเลจากภาคกลางไปภาคใต้ให้เป็นเส้นทางสำรองจากการใช้ถนนเพชรเกษม เพื่อสนับสนุนนโยบายด้านการท่องเที่ยว นอกจากนั้นจะมีการปรับเส้นทางหลวงที่ออกมาจากกรุงเทพฯไปภาคใต้ ที่ผ่าน ครม.อนุมัติทางด่วนเส้นพระราม 3 ดาวคะนองไว้แล้ว แต่จะมีการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ยกระดับเส้นดาวคะนอง –วังมะนาวเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดไป ภาคใต้ และมีถนนจาก จ.นครปฐมไป อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะสร้างทางด่วนมอเตอร์เวย์หรือทางหลวงปกติ จากนั้นจะติดตามโครงการรถไฟทางคู่ไปภาคใต้เริ่มตั้งแต่ จ.นครปฐม -ชุมพร มีการลงนามสัญญาจ้างแล้ว สำหรับการเวนคืนที่ดินเพิ่มมีไม่มากส่วนใหญ่การก่อสร้างจะใช้เส้นทางรถไฟเดิม หากประชาชานจุดใดได้รับผลกระทบก็สามารถร้องอุทธรณ์ได้ตามกฎหมาย โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท.) จะเสนอรายงานเพื่อตรวจสอบการจ่ายค่าเวนคืน หรือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด รวมทั้งการแก้ไขปัญหาในกลุ่มที่มีการบุกรุกพื้นที่
ต่อมานายอาคมได้เดินทางไปตรวจติดตามโครงการบูรณะโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างภาค สายทาง อ.ปราณบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ ตอน 3 ทางหลวงหมายเลข 4 ถ.เพชรเกษม กม.ที่ 240+283 และตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างถนนสาย ปข.2052 แยกทางหลวงหมายเลข 37 – โครงการพระราชดำริอ่างเก็บน้าห้วยมงคล อ.หัวหิน เพื่อสร้างความปลอดภัยในการใช้เส้นทางสายบายพาสชะอำ-ปราณบุรี จากนั้นเดินทางไปที่สถานีรถไฟชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่และรับฟังการบรรยายการดำเนินงานช่วงนครปฐม – หัวหิน ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ และช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร