จาการ์ตา, 14 ก.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพฤหัสบดี (13 ก.ค.) หวังอี้ นักการทูตอาวุโสของจีน กล่าวว่าสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน (ASEAN) และจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ควรเสริมสร้างความร่วมมือและร่วมกันรับมือกับความท้าทายต่างๆ
หวังอี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศส่วนกลางของจีน ซึ่งเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนบวกสาม (APT) กล่าวว่ากลุ่มอาเซียนบวกสามถือเป็นหนึ่งในกลไกอันสมบูรณ์ที่สุดสำหรับความร่วมมือระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออก
หวังเรียกร้องกลุ่มประเทศในภูมิภาคผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยจีนได้ให้การสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และช่วยเหลือกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มขีดความสามารถของการดำเนินการตามข้อตกลงการค้าเสรีของความตกลงฯ
หวังกระตุ้นกลุ่มประเทศในภูมิภาคส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยจีนได้จัดส่งเวชภัณฑ์ การสำรองข้าวฉุกเฉินและความร่วมมือบรรเทาความยากจน พร้อมกับเรียกร้องการกลับมาแลกเปลี่ยนบุคลากร เพิ่มเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ระหว่างประเทศในภูมิภาค และฟื้นคืนการท่องเที่ยวระหว่างประเทศอย่างเป็นระเบียบ
ทั้งนี้ หวังผลักดันข้อเสนอ 3 ประการ สำหรับความร่วมมือของกลุ่มอาเซียนบวกสามในขั้นต่อไป
ประการที่ 1 ยึดมั่นการเปิดกว้างและความร่วมมือ และเร่งกระบวนการบูรณาการระดับภูมิภาค โดยหวังเรียกร้องการสนับสนุนการเข้าร่วมความตกลงฯ ของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีนเป็นสมาชิกชุดแรก เนื่องในโอกาสมีการบังคับใช้ความตกลงฯ อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงระบุว่าจีนสนับสนุนการสร้างการผลิตและระบบห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคที่มีเสถียรภาพ ความราบรื่น และความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ
ประการที่ 2 ยึดมั่นความมั่นคงร่วมกันและยกระดับประสิทธิภาพของการรับมือวิกฤตอย่างต่อเนื่อง โดยจีนจะยังคงบริจาคเงินแก่กลไกการสำรองข้าวฉุกเฉินของกลุ่มอาเซียนบวกสาม เสริมสร้างระบบข้อมูลความมั่นคงทางอาหารของอาเซียน และคุ้มครองความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคให้ดียิ่งขึ้น
หวังชี้ว่าการปล่อยน้ำปนเปื้อนนิวเคลียร์จากญี่ปุ่นลงสู่มหาสมุทรส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของสิ่งแวดล้อมทางทะเลและสุขภาพของมนุษย์ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญยิ่งยวดและมิควรดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต
ประการที่ 3 ยึดมั่นบทบาทนำของการสร้างนวัตกรรมและใช้ศักยภาพของการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเต็มที่ โดยหวังกล่าวว่าจีนสนับสนุนแถลงการณ์ของอาเซียนเกี่ยวกับการพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของกลุ่มอาเซียนบวกสาม และจะยังคงส่งเสริมความร่วมมือด้านการบรรเทาความยากจน การแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่รัฐระดับหมู่บ้าน และการพัฒนาชนบท
ด้านคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และกลุ่มประเทศอาเซียน กล่าวว่ากลไกของกลุ่มอาเซียนบวกสามได้ขยับขยายขอบเขตความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยกลไกดังกล่าวมีบทบาทสำคัญต่อการช่วยเหลือประเทศในภูมิภาคบรรลุการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และการพัฒนาที่ยั่งยืน และกลายเป็นหลักความมั่นคงอันแข็งแกร่งและเชื่อถือได้
ทุกฝ่ายสนับสนุนกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคที่เปิดกว้างและครอบคลุมโดยมีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง ยึดมั่นลัทธิพหุภาคี และรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค พร้อมกับเห็นพ้องว่ากลไกของกลุ่มอาเซียนบวกสามควรก้าวทันยุคสมัย ให้ความสำคัญกับบทบาทของกลไกการสำรองข้าวฉุกเฉินของกลุ่มอาเซียนบวกสามอย่างเต็มที่ ผลักดันความตกลงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคีอย่างแข็งขัน และส่งเสริมการดำเนินการตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคอย่างมีคุณภาพสูง
นอกจากนั้นทุกฝ่ายเห็นพ้องจะสร้างพื้นที่การเติบโตใหม่ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล นวัตกรรมและเทคโนโลยี การเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน และยานยนต์ไฟฟ้า เพื่ออัดฉีดแรงกระตุ้นใหม่สู่การเชื่อมโยงและความยืดหยุ่นในภูมิภาค ตลอดจนช่วยเหลืออาเซียนเป็นศูนย์กลางการเติบโตของโลก
(แฟ้มภาพซินหัว : หวังอี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศส่วนกลางของจีน (คนที่ 7 จากขวา) เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนบวกสาม ในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย วันที่ 13 ก.ค. 2023)