"พิธา"น้อมนำพระราชดำรัสมาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน

2023-07-04 23:00:56

"พิธา"น้อมนำพระราชดำรัสมาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน

Advertisement

"พิธา"ลั่นน้อมนำพระราชดำรัส "ชาติ-ประชาชน" มาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน

เมื่อวันที่ 4 ก.ค.66 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล  พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พิษณุโลก พรรคก้าวไหล ว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 แถลงภายหลังที่ประชุมสภามีมติเลือกดำรงตำแหน่งรองประธานสภา คนที่หนึ่ง ว่า ผลการเลือกประธานและรองประธานทั้ง2คนน่าจะเป็นการยืนยันการทำงานร่วมกันของ8พรรคร่วมในการรวบรวมเสียงไม่ให้แตกแถวและมีเอกภาพในการโหวต ทั้งนี้กรณีของนายปดิพัทธ์ จะเห็นว่ามีการโหวตแข่งตัวเลขที่ออกมา312 เสียง จะมีในส่วนของนายวิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ทำหน้าที่ประธานสภาชั่วคราวที่ไม่ได้ออกเสียง มีส่วนของพรรคก้าวไกลที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ไป และมีสมาชิกจากพรรคร่วมอีก 1 คน ที่ไม่ได้มาประชุม  เพราะฉะนั้นตัวเลขที่ออกมาแสดงถึงเอกภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพวกเราและมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆซึ่งน่าจะเป็นทิศทางที่ดีว่าสิ่งที่เราได้แถลงข่าว2-3 ครั้งที่ผ่านมาของ 8 พรรคสามารถที่จะผลักดันข้อตกลงร่วมกันได้และเป็นแนวโน้มที่ดีในการเข้าสู่การจัดตั้งรัฐบาล

นายพิธา ยังกล่าวว่า ขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนทั้งนายนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชาติ รวมถึงรองอีก2คนจะร่วมกันผลักดันกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวกับพี่น้องแรงงาน พี่น้องชาติพันธุ์ กฎหมายสุราก้าวหน้าหรือกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะไม่เป็นปัญหาอุปสรรค ยืนยันว่าความเป็นน้ำหนึ่งในเดียวในการผลักดันกฎหมายสำคัญตามที่ได้แถลงทั้งการนิรโทษกรรมคดีความทางการเมืองและการปฏิรูปกองทัพตามที่ได้แถลงไปแล้ว

เมื่อถามว่า ผลที่ออกมามีการตั้งข้อสังเกตไปที่คะแนนของนายปดิพัทธ์ ที่มีคะแนนเกินมาจากฝั่งตรงข้าม นายพิธา กล่าวว่า อย่างที่เรียนคือ นายวิโรจน์ ที่ทำหน้าที่ประธานสภาชั่วคราวที่ไม่ได้ออกเสียง มีส่วนส่วนของพรรคก้าวไกลที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ไป และมีสมาชิกจากพรรคร่วมอีก1คน ที่ไม่ได้มาประชุม นอกจากนี้ยังมีบัตรเสีย2ใบตรงนี้ก็พอจะอนุมานได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าข้อ 1 ในฐานะหัวหน้าพรรคและว่าที่นายกฯ จะน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไป จะไปปรับใช้กับพรรค หรือไปใช้กับสมาชิกพรรคหรือไม่ ข้อ2.โหวตประธานสภาฯวันนี้ถือว่าสำเร็จ มั่นใจตัวเองในวันโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ว่าจะมีบรรยากาศความสำเร็จแบบในวันนี้เกิดขึ้น นายพิธา กล่าวว่า ตอบข้อที่ 2ก่อน ก็มั่นใจ ส่วนข้อที่ 1 ก็จะนำพระราชดำรัสโดยเฉพาะอย่างยิ่งคำว่าชาติ และประชาชน ที่พระองค์ท่านเน้นมาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน ครับ

เมื่อถามถึงแถลงการณ์ร่วม 2 พรรคระหว่างพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่มีเรื่องเกี่ยวกับนิรโทษกรรม นายพิธา กล่าวว่า เป็นการเห็นชอบร่วมกันของ 2 พรรคส่วนเรื่องรายละเอียดคงต้องคุยกันในสภา ทั้งนี้ได้ชี้แจงให้อีก 6 พรรครับทราบแล้ว

ด้านนายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนได้ลาออกจากการทำหน้าที่กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความสนใจเพราะถ้าเราได้ติดตามจะเห็นว่าการเลือกตั้งประธานจะเป็นความหนักอกหนักใจของพี่น้องประชาชนที่ต้องการความชัดเจนแต่ปรากฏว่าวันนี้สามารถผ่านไปด้วยความเรียบร้อย คะแนนเสียงที่ตนได้รับแม้จะมีผู้ถูกเสนอชื่อแต่ก็เป็นบรรยากาศของการแข่งขันจนกระทั่งได้รับความไว้วางใจ ทั้งนี้ยืนยันว่าคณะทำงานทั้งประธานและรองประธานสภาก็มีข้อตกลงร่วมกันว่าจะดำเนินการอะไรอย่างไรเพื่อให้รัฐสภาไทยก้าวหน้า โปร่งใส และเป็นของพี่น้องประชาชนมากขึ้น ตนได้คุยกับนายวันมูหะมัดนอร์ เห็นตรงกันในหลายมิติเพื่อผลักดันการทำงานต่อไป ส่วนวาระที่เตรียมจำผลักดันหลังจากนี้คงต้องรอให้ได้รับการจัดสรรหน้าที่จากท่านประธานก่อน

เมื่อถามว่ามีความกังวลว่าเมื่อมีการเปลี่ยนตัวประธานอาจส่งผลไปถึงการพิจารณากฎหมายโดยเฉพาะพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม นายปดิพัทธ์ กล่าวว่าเชื่อว่าเมื่อมีการผลักดันกฎหมายเข้าสู่วาระ คำวินิจฉัยของประธานจะต้องไม่เป็นอุปสรรคในการบรรจุญัตติทุกญัตติ ฉะนั้นถ้าผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ตนได้เคยแจ้งไปแล้วว่าเมื่อกระบวนการถูกต้องก็ต้องใช้กระบวนการของสภาในการวินิจฉัย