"ก้าวไกล-พท." ได้ข้อสรุป "วันนอร์" นั่งประธานสภาฯ (มีคลิป)

2023-07-03 21:07:05

"ก้าวไกล-พท." ได้ข้อสรุป "วันนอร์" นั่งประธานสภาฯ (มีคลิป)

Advertisement

"พิธา" แถลง "ก้าวไกล-พท." ได้ข้อสรุป "วันนอร์" นั่งประธานสภาฯ รองประธานคนที่ 1 "ก้าวไกล"  รองประธานคนที่ 2  พท. ยัน 8 พรรคหนุน "พิธา"เป็นนายกฯ 

เมื่อเวลา 19.45  น.วันที่ 3 ก.ค. 66  ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวในประเด็นประธานสภาฯ โดยตัวแทนพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้า พรรคก้าวไกล ขณะที่พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชชชัย และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเพื่อไทย ร่วมในการแถลงข่าว


นายพิธา แลถงว่า ข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เรื่อง ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ตามที่พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทยรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ ได้ประชุมหารือร่วมกันกรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมอบหมายให้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยไปเจรจาตกลงร่วมกันนั้น บัดนี้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยได้ตกลงร่วมกัน ดังนี้

1.เสนอชื่อ นาย วันมูหะหมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาคนที่ 2 โดยพรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทยรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ พร้อมให้การสนับสนุนตามข้อตกลงนี้


2.บุคคลที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมผลักดันวาระที่ทำให้รัฐสภาไทยก้าวหน้า ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ และเป็นของประชาชน 3.ข้อตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อสร้างความเป็นเอกภาพระหว่าง 8 พรรคในการจัดตั้งรัฐบาล เสนอและสนับสนุน นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างสุดความสามารถ โดยดำเนินการตามข้อตกลง MOU ที่ได้แถลงร่วมกันเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา 4.พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยยืนยันร่วมกันให้ความเห็นชอบกฎหมายสำคัญเพื่อประชาชน ซึ่งรวมถึงการนิรโทษกรรมคดีแสดงออกทางการเมือง และการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ร่างพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก และร่างพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามที่พรรคก้าวไกลเสนอ

นายพิธา กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นว่าข้อตกลงเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเข้าไปบริหารประเทศ ตามเจตนารมณ์ที่ประชาชนได้แสดงออกอย่างชัดเจนผ่านการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงความมั่นใจต่อกระบวนการทำงานร่วมกันต่อไปของ 8 พรรคร่วม โดยพิธาระบุว่าจากข้อตกลงร่วมในวันนี้ น่าจะเป็นบรรยากาศที่ทำให้ทั้ง 8 พรรคสามารถทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น โดยข้อตกลงดังกล่าวเกิดจากการหารือร่วมกัน จนสามารถหาทางออกที่ดีให้กับทั้งสองพรรค และรักษาความป็นเอกภาพในการจัดตั้งรัฐบาลของทั้ง 8 พรรคได้ โดยที่เมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) ตนได้ส่งชัยธวัชไปทาบทาม วันมูหะหมัดนอร์ มะทา แล้วเป็นการเบื้องต้น ได้รับคำตอบรับที่ดี และตามที่คุณวันมูหะหมัดนอร์ มะทาได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าพร้อมเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง ถ้าเป็นความต้องการของประชาชนและของทั้งสองพรรคก็จะไม่ปฏิเสธ ซึ่งตนมีความมั่นใจว่าทั้ง 8 พรรคร่วมจะไปถึงเป้าหมายโดยมีเอกภาพมากขึ้น และขั้นตอนการทำงานต่อไปก็น่าจะง่ายขึ้น

ผู้สื่อข่าวยังถามต่อ ถึงกรณีการเสนอร่างกฎหมายที่อาจขัดกับหลักศาสนาอิสลาม วันมูหะหมัดนอร์ มะทา ในฐานะประธานสภาฯ จะมีปัญหาหรือไม่ โดยพิธาระบุว่าตนได้หารือแล้ว ทั้งหมดจะเป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภาเหมือนกับกฎหมายอื่นๆ ส่วนพรรคประชาชาติก็คงจะสงวนสิทธิในการไม่ลงมติหรือพิจารณากฎหมาย และอาจมอบหมายให้รองประธานสภาฯ คนอื่น แต่คำถามนี้ ตนคิดว่าให้คุณวันมูหะหมัดนอร์ มะทา เป็นคนตอบเองจะดีที่สุด

ส่วนเรื่องการผลักดันวาระในการทำให้รัฐสภาไทยก้าวหน้า โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเป็นของประชาชน ตามที่พรรคก้าวไกลได้เคยเสนอมานั้น เท่าที่ได้พูดคุยกัน คุณวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ก็เห็นด้วย และพร้อมทำงานร่วมกับรองประธานสภาคนที่ 1 และ 2 ในการไปให้ถึงเป้าหมาย เน้นหลักการเป็นหลักทั้งในการผลักดันกฎหมาย การบริหารสภาฯ ซึ่งเมื่อแคนดิเดตประธานสภาฯ เห็นชอบด้วยแบบนี้แล้วตนก็สบายใจ และพร้อมที่จะส่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 จากพรรคก้าวไกลไปสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่

“นี่เป็นนิมิตหมายที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงเอกภาพ หลักการ การประนีประนอม เสียสละเพื่อเป้าหมายเพื่อการจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคร่วมเหนียวแน่นมาโดยตลอดและจะเหนียวแน่นต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นส่วนหนึ่งของระบบรัฐสภาที่จะต้องมีการแข่งขัน มีการจัดตั้งรัฐบาล มีจุดต่าง และมีการหาจุดร่วมกัน จากข้อตกลงวันนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่าทั้ง 8 พรรคสามารถหาจุดร่วม และหาเอกภาพร่วมกันได้ เพื่อเป้าหมายในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน” นายพิธากล่าว

นายพิธายังระบุด้วยว่าตนเชื่อใจในพรรคเพื่อไทย แม้จะมีการวิเคราะห์จากหลายฝ่ายถึงสูตรต่างๆ แต่การบรรลุข้อตกลงร่วมกันวันนี้ แสดงให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันที่มีเอกภาพ และทำให้ตนมีความเชื่อใจในพรรคเพื่อไทย และเชื่อมั่นว่าทั้ง 8 พรรคต่างก็มีความเป็นเอกภาพ จะสามารถเดินไปให้ถึงจุดหมายตามมติของประชาชนได้ ซึ่งในโอกาสนี้ ตนก็ต้องขอเรียนไปยังประชาชนทุกคนด้วย ว่ามติประชาชนที่ได้แสดงออกมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ยังมีความน่าจะเป็นที่สูงมากที่จะเป็นไปตามนั้น

ผู้สื่อข่าวยังได้ถามต่อ ถึงความคืบหน้าในการพูดคุยกับ ส.ว. ในการโหวตนายกรัฐมตรี นายพิธาระบุว่าการเจรจาต่อจากนี้ก็คงไม่ต่างจากที่ทำมา นั่นคือการเดินหน้าพูดคุยและอธิบายทำความเข้าใจ ก่อนหน้านี้หลายคนอาจเคยมีกำแพง แต่เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกันก็ปรากฏว่าหลายคนมีความเข้าใจมากขึ้น และที่สำคัญ เมื่อถึงเวลาถ้า ส.ว. ยังคงยึดหลักการตามปี 2562 ที่ว่า ส.ว. มีบรรทัดฐานที่จะสนับสนุนใครก็ตามที่รวบรวมเสียงจากสภาล่างได้เกิน 251 เสียง และในเมื่อพรรคร่วม 8 พรรครวมเสียงกันได้ถึง 312 เสียงก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะการโหวตนายกรัฐมนตรีไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องบรรทัดฐานและหลักการ ซึ่งถ้า ส.ว. ยังคงยึดเอาประชาชนและประเทศเป็นตัวตั้ง ก็ไม่น่ามีปัญหา