"ธนกร" ฉะ "ก้าวไกล" อยากได้เก้าอี้ประธานสภาฯ หวังแก้ ม.112

2023-07-01 16:00:36

"ธนกร" ฉะ  "ก้าวไกล" อยากได้เก้าอี้ประธานสภาฯ หวังแก้ ม.112

Advertisement

"ธนกร" ฉะ  "ก้าวไกล" อยากได้เก้าอี้ประธานสภาฯ หวังแก้ ม.112  เตือนอย่าใช้สภาฯ เปลี่ยนแปลงอะไรตามอำเภอใจ 

เมื่อวันที่ 1 ก.ค.66  นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาเตรียมประชุมเพื่อเลือกประธานสภาฯ วันที่ 4 ก.ค.ว่า ไทม์ไลน์ทางการเมืองในการเปิดประชุมสภาเพื่อเลือกประธานสภาฯ   ก่อนจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี ในช่วงกลางเดือนนี้ ถือว่าเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ส่วนตัวและพรรครวมไทยสร้างชาติมีความชัดเจนแล้วว่า การเลือกตัวประธานสภาฯ รวมถึงนายกรัฐมนตรีนั้น เราจะไม่สนับสนุน ไม่เลือก บุคคลที่มีวาระมุ่งแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อย่างแน่นอน เนื่องจากกฎหมายดังกล่าว ถือเป็นความมั่นคงของรัฐ เป็นกฎหมายสำคัญเพื่อปกป้องประมุขของประเทศ จึงจะไม่โหวตให้ทั้งบุคคลและพรรคการเมืองใดที่มีวาระการแก้ไขกฎหมายนี้

ต่อข้อถามว่า พรรคที่ได้อันดับ 1 คือพรรคก้าวไกล ต้องการได้เก้าอี้ประธานสภาฯ มีความมุ่งหมายเพื่อเสนอวาระแก้ไขมาตรา 112 ชัดเจนนั้น นายธนกร ระบุว่าพรรคก้าวไกลมีความชัดเจนตั้งแต่แรก เมื่อตอนหาเสียงกับประชาชนไว้อยู่แล้วว่าจะเข้าสภาฯ  เพื่อแก้กฎหมายดังกล่าว และทุกการปราศรัย รวมถึง ทุกเวทีดีเบตของทั้งหัวหน้าพรรคและผู้บริหารพรรค ก็ชูธงในเรื่องนี้ ทุกคนต่างทราบดี จึงคิดว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่พรรคก้าวไกลและผู้สนับสนุน ไม่ยอมถอยหรือยกเก้าอี้ประธานสภาฯ ให้กับเพื่อไทย

เมื่อถามว่าประธานสภาฯก็ไม่ได้มีอำนาจมากมาย แต่เหตุใดพรรคก้าวไกลจึงไม่ยอมถอย นายธนกร กล่าวว่า การที่พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยยังคุยกันไม่ลงตัว เรื่องประธานสภาฯนั้น ส่วนตัวมองว่า พรรคก้าวไกลมีเป้าหมายชัดเจนเรื่องการแก้กฎหมายนี้ รวมไปถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบสภา ตามที่แคนดิเดตประธานสภาฯ  คือนายปดิพัทธ์ สันติภาดาได้ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ไว้แล้วว่าต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบสภา เพราะถ้าหากประธานสภาฯ เป็นของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลอาจจะไม่แน่ใจว่าจะมีเสนอวาระแก้ไขกฎหมายนี้หรือไม่

“ในสมัยประชุมสภาครั้งที่แล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น มองว่าเป็นกฎหมายสำคัญมีไว้เพื่อคุ้มครองประมุขของประเทศ หากมีการเสนอแก้ไข ลดทอนให้กฎหมายเบาลง อาจเป็นความสุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงของรัฐ จึงขอเรียกร้องไปยังพรรคก้าวไกล ว่า อย่าอ้างเสียงประชาชนที่เลือกมา 14 ล้าน เพราะ ไม่ใช่ว่า 14 ล้านคนที่เลือกพรรคก้าวไกลมาจะเห็นด้วยกับการแก้กฎหมายทั้งหมด ขออย่าใช้สภาเปลี่ยนแปลงอะไรตามอำเภอใจของคนแค่บางกลุ่ม เพราะคนไทยที่เหลืออีกกว่า 40-50 ล้าน คนที่รักสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งประเทศรวมถึงตัวผมด้วยนั้น จุดยืนชัดเจน ไม่ยอมให้แก้กฎหมายนี้อย่างแน่นอน” นายธนกร กล่าว