"พิธา" ลุ้นคนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่าปี 62 แสดงเจตจำนงต้องการเปลี่ยนแปลง

2023-05-14 15:06:37

 "พิธา"  ลุ้นคนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่าปี 62 แสดงเจตจำนงต้องการเปลี่ยนแปลง

Advertisement

"พิธา" ลุ้นคนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่าปี 62  จะดีต่อประชาธิปไตยทั้งระบบ  แสดงถึงเจตจำนงที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

เมื่อเวลา  09.31 น. วันที่ 14 พ.ค.66  ที่เขตเลือกตั้งที่ 4 หน่วยเลือกตั้งที่ 10 เต็นท์บริเวณที่จอดรถธนาคารออมสินภาค 2 ปากซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.    นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้ง พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มีกำลังใจดี หลังการใช้สิทธิเลือกตั้งจะพาน้องพิพิม ลูกสาวไปกินข้าว และใช้เวลาร่วมกันเพื่อชดเชยในช่วงเวลาที่ผ่านมา จากนั้นในช่วงบ่ายจะเดินทางไปที่ที่ทำการพรรคก้าวไกล เพื่อลุ้นผลการเลือกตั้ง สำหรับผลการเลือกตั้งที่จะออกมาถือว่าพวกเราทำเต็มที่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงบรรยากาศการเลือกตั้ง  นายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกสนุก คึกคัก ดีใจ ไม่ได้รู้สึกเหนื่อย เพราะได้มีโอกาสพบพี่น้องประชาชนระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง จึงเป็นเหมือนการเติมพลังไปเรื่อยๆ และหลังเลือกตั้งก็จะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนต่อ  ขอเชิญชวนให้คนทุกรุ่นทุกวัยทั้งรุ่นใหม่ และรุ่นใหญ่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันเยอะๆ ทั้งนี้ ตนคิดว่าอย่าดูถูกคนรุ่นใหม่ เพราะพวกเขารักในหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงของเขามากกว่าที่พวกเราคิด

เมื่อถามว่า คาดหวังการทำหน้าที่ของ กกต. อย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า คงเหมือนในอดีตที่ผ่านมาแต่ในวันนี้ยังไม่ได้เห็นภาพอะไร แต่กองอำนวยการการเลือกตั้งของพรรคก้าวไกล ก็จับตาดูอยู่ และรายงานข้อมูลทุกชั่วโมง นอกจากนี้เรายังมีทีมเทคโนโลยีของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล คอยเก็บข้อมูล และจะทำงานร่วมกับองค์กรพลเมือง เพื่อคอยนับคะแนนในแต่ละหน่วย เพื่อหวังว่าจะทำให้ประชาชนมั่นใจในผลการเลือกตั้งมากขึ้น


เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าเมื่อคืนวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา มีการซื้อสิทธิขายเสียง นายพิธา กล่าวว่า มีการร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ของพรรคเข้ามาตลอด โดยเราจะรวบรวมหลักฐาน และส่งให้กับกองอำนวยการเลือกตั้งพรรคก้าวไกล และฝ่ายกฎหมายของพรรคว่าจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อถามย้ำว่า การซื้อเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าดุเดือดกว่าครั้งที่แล้วหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า มีอะไรที่ตนไม่เคยได้ยินมาก่อนมากพอสมควร และพบว่าเป็นกลเม็ดใหม่ๆ จึงอยากให้ กกต.ตามให้ทัน ที่กังวลใจคือบัตรเลือกตั้งแบบเขตไม่มีชื่อผู้สมัคร ถ้ามีอะไรเกินมาจึงเป็นสิ่งที่น่ากังวล

นายพิธา กล่าวด้วยว่า โดยตนอยากจะรู้ตัวเลขหลังปิดหีบว่ามีคนออกมาใช้สิทธิเท่าไหร่ หากมาใช้สิทธิมากกว่าปี 62 หรือเกินกว่า 72% ก็จะดีต่อประชาธิปไตยทั้งระบบเพราะแสดงถึงเจตจำนงของประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้คนออกมาใช้สิทธิ 100% เต็มหรือ 52 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ถ้าได้ประมาณ 80% ก็คิดว่าทั่วโลกคงอิจฉาที่ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยไม่แพ้ใคร แต่ตนเชื่อว่าครั้งนี้คนจะออกมาใช้สิทธิกันมากเป็นประวัติการณ์อย่างแน่นอน