ศาลตัดสินจำคุก 12,640 ปี "แม่มณี-แฟนหนุ่ม"

2023-05-10 19:53:18

ศาลตัดสินจำคุก 12,640 ปี  "แม่มณี-แฟนหนุ่ม"

Advertisement

ศาลตัดสินจำคุก   12,640 ปี  "แม่มณี-แฟนหนุ่ม" ตุ๋นเหยื่อกว่า 2,500 ราย เสียหายกว่า 1,300 ล้าน สุดท้ายจำคุกแค่ 20 ปี ตามกฎหมาย 

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีแชร์แม่มณี หมายเลขดำ อ. 167/2563 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.วันทนีย์ หรือ เดียร์ ทิพย์ประเวช จำเลยที่ 1 นายเมธี หรือ บอส ชิณภา จำเลยที่ 2  กับพวกร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-9  ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน
กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 9 มี.ค.62-30 ต.ค. 63 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้ง 9 คนได้ร่วมกันกระทำความผิดหลายกรรมต่างวาระโดยร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ คอมพิวเตอร์โปรแกรมเฟซบุ๊ก   ประกาศให้ประชาชนทั่วไปมาร่วมออมเงินหรือร่วมลงทุนกับจำเลยโดยจะได้ผลตอบแทนมากกว่าปกติเป็นพิเศษ โดยมีแผนการตลาดหรือรูปแบบการลงทุนจัดแบ่งออกเป็นวงจำนวนการลงทุนวงละ 1,000 บาท จะได้รับผลตอบแทน 930 บาทต่อหนึ่งวง เมื่อครบกำหนด 9 เดือนนับ แต่วันที่ลงทุนหรือวันที่ฝากเงินมายังบัญชีที่แจ้ง โดยผู้ลงทุนจะได้รับเงินที่ลงทุนพร้อมผลตอบแทนกลับไปจำนวนวงละ 1,930 บาท โดยไม่ได้จัดให้มีการออมเงินหรือร่วมลงทุนโดยได้รับผลตอบแทนมากกว่าปกติดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นอุบายให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทองจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวงเท่านั้น จนเกิดความเสียหายแก่จำนวน 2,533 ราย รวมทั้งสิ้น 1,376,215,359 บาท โดยให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยให้กู้ยืมของ สถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ ตั้งแต่อัตราร้อยละ 1,116 ถึงร้อยละ 3,040.45 ต่อปี อันเป็นเท็จ ซึ่งการกู้ยืมเงินตามกฎหมาย ดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.50 ต่อปีเท่านั้น โดยพวกจำเลยนำเงินดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริต และเป็นการกู้ยืมเงินจากผู้ให้กู้ยืมเกิน  10 คน ซึ่งมีจำนวนเงินกู้ยืมรวมกันตั้งแต่ห้าล้านบาทขึ้นไป อันมิใช่การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน

จำเลยที่ 1-2 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยอื่นให้การปฏิเสธ  วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลย 8 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำมายังศาลอาญา และจำเลยอีก 1 คน ซึ่งได้ประกันตัวไปก่อนหน้านี้ก็เดินทางมาศาลด้วยเช่นกัน  ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เบิกความยืนยันทำนองเดียวกันว่า จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันมีพฤติการณ์โฆษณาหลอกลวง ประชาชนและผู้เสียหายจำนวนมากให้มาร่วมลงทุนโดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารจำเลยทั้งสอง ส่วนจำเลยที่ 3-9 เป็นลูกจ้างของจำเลย ไม่มีส่วนรู้เห็นการกระทำผิด  พิพากษาว่า จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันกระทำผิดตามฟ้องจริง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำนวน 2528 กระทง จำคุกกระทง ละ 5 ปี รวม 12,640 ปี จำเลยรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 5,056 ปี 15,168 เดือน อย่างไรก็ตาม กฎหมายคงจำคุกได้ไม่เกิน 20 ปี จึงจำคุกจำเลยที่ 1-2 ไว้คนละ 20 ปี และให้จำเลยทั้งสองชดใช้เงินแก่ผู้เสียหายพร้อมดอกเบี้ย ส่วนจำเลยที่ 3-9 พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้