รวบสมุน "ทิดคม" อีก 6 ราย ช่วยขนย้ายทรัพย์หนี ตามยึดทรัพย์กว่า 100 ล้าน

2023-05-10 09:11:28

รวบสมุน "ทิดคม"  อีก 6 ราย ช่วยขนย้ายทรัพย์หนี ตามยึดทรัพย์กว่า 100 ล้าน

Advertisement

ตำรวจสอบสวนกลางรวบสมุน "ทิดคม"  อีก 6 ราย ช่วยขนย้ายทรัพย์หนี ตามยึดทรัพย์ได้เพิ่มอีกกว่า 100 ล้าน

เมื่อวันที่ 9 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง   โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตรโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา รอง ผกก.3 บก.ป.  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด กก.3 บก.ป.  ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ลงวันที่ 9 พ.ค. 66  ประกอบด้วย  1.นายบุญส่ง หรือ อดีตพระบุญส่ง  2.นายบุญเหลือ หรือ อดีตพระบุญเหลือ  3.นายธนกฤษ หรือ อดีตพระธนกฤษ  4. นายบัณฑิต หรือ อดีตพระบัณฑิต  5.นายณัฐพัชร์ หรืออดีตพระณัฐพัชร์  6.นายบุญศักดิ์    โดยกล่าวหาว่า  เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือของผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันรับของโจร

 

สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย  1. เงินสด รวม 76,021,813 บาท 2. ทองคำรูปพรรณ 920 รายการ นำหนักประมาณ 100 บาท มูลค่าประมาณ 2.8 ล้านบาท ทองคำแท่ง 46 รายการ น้ำหนักประมาณ 500 บาท มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท ทองคำแผ่น 540 รายการ น้ำหนักประมาณ 100 บาท มูลค่าประมาณ 3.2 ล้านบาท รวมมูลค่าประมาณ 22 ล้านบาท 3.สมุดบัญชี จำนวน 30 เล่ม 4.หนังสือเดินทาง จำนวน 3 เล่ม 5. รถตู้ 1 คัน 6 โทรศัพท์มือถือ จำนวน 11 เครื่อง 

สำหรับพฤติการณ์ในการกระทำความผิด สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 6 พ.ค.66 ตำรวจสอบสวนกลาง   โดยกองบังคับการปราบปราม ได้จับกุม นายคม หรือพระอาจารย์คม อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรีพร้อมกับพวก ที่ได้ก่อเหตุ ยักยอกเงินบริจาควัดป่าฯ มูลค่ากว่า 180 ล้านบาท เป็นเหตุสะทือนวงการสงฆ์เป็นอย่างมาก ท่ามกลางความเลื่อมใสและความศรัทธาของญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมทำบุญกับวัดมาโดยตลอด  ภายหลังการจับกุม กองบังคับการปราบปรามได้ทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนทราบข้อมูลสำคัญจากนายวุฒิมา หนึ่งในผู้ต้องหาคดียักยอกเงินวัด ให้การว่า ตนได้นำเงินของวัดจำนวน 9 ล้านบาท ไปซื้อทองคำตามคำสั่งนายคม มาเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟภายในกุฏิของนายวุฒิมา  ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พ.ค.66 เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน วัดป่าธรรมคีรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบภายในกุฏิของนายวุฒิมาฯ พบว่าทองคำตามที่นายวุฒิมา ให้การไว้ข้างต้นได้หายไป จนกระทั่งทราบว่า มีขบวนการช่วยเหลืออดีตพระอาจารย์คม เป็น พระสงฆ์ จำนวน 5 รูป และ นายบุญศักดิ์  ( คนขับรถของวัด ) ช่วยกันขนย้ายทองคำแท่งและทรัพย์สินต่างๆ ขนใส่รถตู้ก่อนจะนำทรัพย์สินไปซุกซ่อนที่ภายนอกวัด เมื่อทราบข้อมูลดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนให้กลุ่มผู้ช่วยเหลืออดีตพระอาจารย์คม นำเอาทองคำ และทรัพย์สินกลับเข้ามาในวัดอีกครั้ง ก่อนจะทำการตรวจยึดทรัพย์สินต่างๆ ไว้เป็นของกลาง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึด คิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท จากการสืบสวนทราบว่า ก่อนที่นายคม นายวุฒิมา และน้องสาวนายคม จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ปรากฎว่า  นายคม และนายวุฒิมา ได้สั่งการให้ขบวนการนี้ขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากกุฏิของตนให้หมด ไปซุกซ่อนไว้ตามสถานที่ต่างๆ ภายในวัด ต่อมาหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม และถูกควบคุมอยู่ นายคมฯ ได้ออกอุบายขอยืมโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่า ขอติดต่อญาติ ให้นำยารักษาโรคประจำตัวของของสาวมาให้ แต่นายคมฯ ได้แอบใช้โทรศัพท์มาสั่งการให้กลุ่มขบวนการนี้ ช่วยกันทำการขนย้ายเงินสด และทองคำ ให้ขนย้ายออกไปข้างนอกวัดให้หมด ซึ่งมีทรัพย์สินบางส่วนที่ไม่สามารถขนย้ายได้ทัน จึงได้นำไปขุดฝังเอาไว้ที่ภูเขาด้านหลังวัด จากข้อมูลข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา ที่ 1-6 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป