"แพทองธาร" ยันไม่ยกเลิก ม.112 ชี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องไปคุยกันในสภาฯ ระบุ 3 แคนดิเดตใครเป็นนายกฯก็ได้ ช่วยกันซ่อมประเทศ
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 66 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ออกรายการผ่านทาง TikTok และ Instagram Live หัวข้อ "หมดเปลือกเพื่อไทย" โดยมีนายคชาภา ตันเจริญ หรือ "มดดำ" พิธีกรชื่อดัง เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยใช้เวลาไปประมาณ 1 ชม.
น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงสุขภาพในตอนนี้ว่า เจ็บแผล ตื่นบ่อย เหนื่อยมาก เพราะต้องตื่นขึ้นมาดูลูก อาจจะไม่เต็มร้อย แต่สภาพจิตใจดี ไม่เคยมีลูกสองมาก่อนทำให้ต้องปรับตัว ตอนนี้ยังรู้สึกเจ็บแผลผ่าคลอดอยู่แต่จะรีบหาย และยังไม่ตัดสินใจที่จะมีบุตรเพิ่ม ส่วนการเป็นแคนดิเดตนายกฯพร้อมการตั้งครรภ์นั้นไม่รู้มาก่อน แต่การมีลูกอยู่ในแพลนชีวิตอยู่แล้ว และไม่คิดว่าจะติด และคลอด ณ วันใกล้เลือกตั้ง
เมื่อถามว่า มีปรากฏการณ์คนไทยออกไปใช้สิทธิล่วงหน้า 91.83% น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เซอร์ไพรส์กับจำนวน และเห็นปัญหาในการเลือกตั้งอยากให้พี่น้องประชาชนช่วยกันจับตา มองการเลือกตั้ง เพราะเราอาศัยแค่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่ได้ แต่ก็ขอบคุณที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิ ขอบคุณใครที่เลือก พท. อยากให้ทุกคนออกไปใช้สิทธิ เพราะบางเขตชนะแค่เพียงหลักร้อยทำให้ทุกเสียงมีค่า
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีก 6 วัน ที่มีกระแสว่าหากเลือก พท. จะไปเล่นเกมจับมือกับ 2 ป. อยู่ดีนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่จับมือแน่นอน แต่ผลการเลือกตั้งยังไม่ออก พท. มีเกณฑ์อยู่แล้วว่า 1.ต้องเห็นด้วยกับนโยบายของเรา เพราะเราสัญญากับประชาชนทั้งประเทศไว้ 2.นายกฯต้องมาจาก พท. และ 3.รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญต้องมาจาก พท. เช่นกัน ถ้าพรรคไหนรับข้อเสนอนี้ได้ก็ต้องมาคุยกัน ซึ่งที่มีการพูดถึงในโซเชียลมีเดียเป็นการดิสเครดิตเพราะไม่ว่าเราจะตอบดีแค่ไหน อาจจะเป็นปฏิกิริยาอื่นที่เขามองหา ตอนนี้รอผลเลือกตั้งอย่างเดียว ถ้ามีอะไรที่เราจะยืนยันได้ก็จะทำตามนั้น
เมื่อถามว่า พท. กับพรรคก้าวไกล เกิดขึ้นได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เกิดขึ้นได้อยู่แล้วเพราะเราไม่ได้รังเกียจฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน เป็นพรรคฝ่ายค้านมาด้วยกันแต่สุดท้ายก็ต้องรอเสียงของประชาชน ว่าเรายังได้อันดับ 1 หรือไม่
สำหรับนโยบายแก้ไขมาตรา 112 น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่า พท. ไม่ยกเลิกมาตรา 112 และเป็นเรื่องที่จะต้องพูดคุยในสภาฯ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทันทีที่เราเป็นรัฐบาลจะขอความเมตตาจากศาล ที่มีน้องๆ ติดคุกอยู่ให้พิจารณา และกำหนดกฎหมายการลงโทษใหม่ บ้านเมืองเรามีกษัตริย์เราต้องมีกฎหมายที่คุ้มครองท่าน แต่ไม่ใช่ให้ประชาชนเอากฎหมายนี้มาเป็นเกมการเมืองไม่ใช่ใครฟ้องได้หมด เราต้องฟังเสียงประชาชน
“พท. มีไม่ได้ เลยถ้าประชาชนไม่ซับพอร์ต เป็นชินวัตรเพราะประชาชน ชินวัตรไม่ได้ซื้อมา ที่คุณพ่อได้เป็นนายกฯ ชินวัตรไม่ได้จ่ายตังค์ แต่ประชาชนเลือกมา ถ้ามันซื้อขายกันได้คงไม่เป็นแบบนี้ เรามาได้เพราะประชาชนเลือกเท่านั้น พท. โดนยุบไป 2 รอบ เรากลับมาได้เพราะประชาชนเลือกไม่มีสิ่งอื่นใด เพราะฉะนั้นชินวัตรหรือไม่ ถ้าประชาชนไม่เลือกก็ไม่มีสิทธิ” น.ส.แพทองธาร กล่าว
เมื่อถามว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาลใครจะเป็นนายกระหว่างน.ส.แพทองธารกับนายเศรษฐา ทวีสิน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราตอบทุกครั้งว่าทุกคนพร้อมเป็น เรามีบทเรียน ถูกยุบมา 2 รอบเพราะโดนรัฐประหาร บทเรียน 20 ปีที่ผ่านมาทำให้เราไม่สามารถเสนอแคนดิเดตนายกฯ 1 คนได้ เรา 3 คนคุยกันตลอดหากใครได้เป็นนายกฯต้องช่วยกัน ถ้าคนใดคนหนึ่งเป็นอีกคนก็ไม่หายไป เพราะเป็นงานใหญ่ต้องช่วยกันซ่อมประเทศ คนอื่นอาจจะแย่งกันเป็น แต่ส่วนตัวเชื่อในนายเศรษฐา และถ้ากลัวการเมืองก็คงไม่เข้ามา อยากทำต่อไปแม้จะไม่รู้ว่าจะมีรัฐประหารเมื่อใด