"กรณ์" เชื่อมั่นผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต ชาติพัฒนากล้า 2 เขต เป็นม้ามืดเข้าวิน
เมื่อวันที่ 8 พ.ค.66 นายกรณ์ จาติกวณิช พร้อมด้วย น.ส.อรทัย เกิดทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 3 เบอร์ 1 ลงพื้นที่ที่ ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง พบแกนนำชาวบ้านกลุ่มธุรกิจประมงชายฝั่ง เลี้ยงปลาช่อนทะเล หรือ Black Salmon เป็นสัตว์เศรษฐกิจใหม่ของจ.ภูเก็ต ที่หวังจะเป็นตัวขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชนชายฝั่ง ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยว สร้างรายได้มั่นคงให้กับชาวบ้าน โดยนายกรณ์ ได้แนะนำเกี่ยวกับนโยบายกองทุนสร้างสรรค์ สู่การท่องเที่ยว พูดถึงนโยบายกองทุนสร้างสรรค์รายละ 1 ล้านบาท
ต่อมาได้เข้าเยี่ยมประชาชนที่ตลาดสี่กอ อ.กะทู้ โดยมีประชาชนในตลาดให้ความสนใจกับนโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้าที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุด โดยชาวบ้านเล่าว่า ช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก แม่ค้ามีภาระจึงไม่สามารถที่จะชำระหนี้ได้จนต้องพึ่งหนี้นอกระบบ ดอกเบี้ยแพงและยังไม่รู้ว่าจะผ่อนหมดเมื่อไร จึงหวังว่า น.ส.อรทัย เบอร์1 จะได้เป็นผู้แทนผลักดันให้นโยบายนี้เป็นจริง พ่อค้าแม่ค้ากะทู้พร้อมเทคะแนนให้
จากนั้นนายกรณ์ ลงพื้นที่เขต 2 ภูเก็ต เพื่อช่วยนายเทมส์ ไกรทัศน์ ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็จ เบอร์ 7 ที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ที่ตลาดนาคา โดยมีนักท่องเที่ยว และพ่อค้าแม่ค้าให้การต้อนรับนายกรณ์ และคณะอย่างคึกคัก พร้อมกับส่งเสียงพร้อมสนับสนุนให้นายเทมส์ เป็นผู้แทน เนื่องจากที่เป็นคนลงพื้นที่ต่อเนื่องมาตลอด 3 ปีตั้งแต่ช่วงโควิด-19
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดทนายรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อปราศรัยช่วยผู้สมัครของพรรค มีความกังวลอะไรหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นในตัวผู้สมัครทั้ง 2 คน ว่าจะเป็นม้ามืดเข้าสู่เส้นชัยได้อย่างแน่นอน ตนลงพื้นที่มาช่วยผู้สมัครอย่างต่อเนื่องได้รับกระแสตอบรับที่ดี และโพลในพื้นที่เองก็มีคะแนนนำอยู่ในหลายพื้นที่ เท่าที่ฟังดู พล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่หยอดคำหวาน แต่สำหรับตนและผู้สมัคร เราเน้นการสร้างโอกาส สร้างรายได้ แก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ตลอดจนการสร้างเศรษฐกิจชุมชน ทั้ง การท่องเที่ยว รวมถึงในภาพใหญ่ ที่ภูเก็ตมีความพร้อมที่จะเป็นจังหวัดจัดการตัวเองได้