"บิ๊กโจ๊ก" เผย "แอม"ขอพบทนายความ จ่อสอบปากคำ 6 พ.ค. "รองอ๊อฟ"สารภาพอดีตภรรยาหาเงินปลดหนี้ให้ 4 ล้าน แต่ไม่รู้ว่าเงินมาจากไหน เร่งสอบเส้นทางการเงิน
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่วันนี้ญาติที่นางสรารัตน์ หรือ "แอม" ผู้ต้องหาในคดีฆ่าวางยาไซยาไนด์ ร้องขอให้เข้าพบนั้น คือ ทนายความ โดยทางตำรวจก็ได้เปิดให้ "แอม" ได้พูดคุยกับทนายความ ซึ่งเป็นคนที่ไว้ใจก่อน เพราะในบางเรื่องแอมก็ไม่ได้พูดความจริงกับอดีตสามีคือ พ.ต.ท.วิฑูรย์ หรือ "รองอ๊อฟ" ทั้งหมด และตัวของทนายความก็ทำอะไรร่วมกับแอมมาหลายอย่าง เป็นเพื่อนกันมา มีอะไรแอมก็จะบอกทนายความคนนี้ เลยขอให้แอมได้คุยกับทนายความก่อน แล้วในวันที่ 6 พ.ค.ตนจะเดินทางมาสอบปากคำแอม ที่ทัณฑสถานหญิงกลางอีกครั้ง เพราะแอมรับปากว่าหลังจากได้คุยกับทนายแล้วจะรับสารภาพ ส่วนจะรับในประเด็นไหนอย่างไร ต้องรอเข้าสอบปากคำ
สำหรับความคืบหน้าทางคดี พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีทยอยเดินทางเข้ามาที่สโมสรตำรวจ หลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้นัดประชุมในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. โดยที่ประชุมวันนี้คาดว่าจะมีประเด็นสำคัญในการประชุม คือ การตรวจสอบเส้นทางการเงินของรองอ๊อฟ และแอมว่ามีความเชื่อมโยงกันมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะกรณีที่แอมได้เงินมาจากเหยื่อและนำทรัพย์สินไปจำนำในที่ต่างๆ รวมถึงประเด็นที่รองอ๊อฟ รับสารภาพกับรอง ผบ.ตร.ว่าเป็นหนี้ถึง 4 ล้านบาทด้วย แต่ในระหว่างที่ใช้ชีวิตคู่อยู่กับแอมนั้นแอมสามารถนำเงินมาปลดหนี้จำนวนดังกล่าวให้ ซึ่งถือว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินจำนวนมากที่รองอ๊อฟไม่รู้ว่าแอมเอามาจากไหนจึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัย ในส่วนของแอมที่ได้เงินมาจากเหยื่อหลายรายที่เสียชีวิต แต่ตำรวจยังไม่มีหลักฐานว่าเงินดังกล่าวเอาไปใช้จ่ายกับครอบครัวหรือมีการโอนไปยังบัญชีที่ 3 หรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ต้องหาความเชื่อมโยงให้ได้ จึงจะสามารถหาคำตอบได้ว่ารองอ๊อฟ มีส่วนพัวพันกับเรื่องเงินของผู้เสียชีวิตหรือไม่