กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จับเพิ่มคนไทย นายทุน สปป.ลาว ขบวนการค้าไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ข้ามชาติ
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.66 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับรายงานจาก นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผอ.สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ว่าเมื่อวันที่ 4 พ.ค.66 นายชัยชาญ ศรียงค์ หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับตระเวนชายแดนที่ 33 (กก.ตชด.ที่ 33) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 (กก.ปพ.บก.สส.ภ.5) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่โถ และหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ร่วมกันจับกุมนายพันธรักษ์ ใจหาญ อายุ 35 ปี และนายอนุชาติ ใจหาญ อายุ 35 ปี โดยแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จำนวน 3 เม็ด ไว้ในครอบครอง และพบไม้หวงห้าม (ประดู่) จำนวน 25 ท่อน ปริมาตร 1.961 ลูกบาศก์เมตร บรรทุกอยู่บนหลังรถยนต์กระบะยี่ห้อISUZU สีขาว หมายเลขทะเบียน ยข 5453 เชียงใหม่ ปกคลุมด้วยผ้าใบทึบแสงและรัดด้วยตาข่ายเชือก โดยผู้ต้องหาทั้งสองได้ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันลำเลียงไม้มาจาก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่เพื่อจะไปส่งให้นายทุนที่ จ.ลำพูน
จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าได้ลำเลียงไม้หวงห้ามมาตามเส้นทางแม่สะเรียง-ฮอด เพื่อจะนำไม้หวงห้ามมาส่งให้นายทุนที่สวนลำไย เขตบ้านสันคะยอม ม.1 ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขยายผล โดยนำผู้ต้องหา 2 รายพร้อมรถของกลางมาชี้เป้าหมาย จากการตรวจสอบพื้นที่พบของกลางเป็นไม้แปรรูป ไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ จำนวน 124 แผ่น/เหลี่ยม และไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ท่อน จำนวน 28 ท่อน วางอยู่ในสวนลำไย โดยมีผ้าใบปกคลุมของกลางอยู่ ผู้ต้องหา 2 คน ซึ่งเป็นนายทุนมาจาก สปป.ลาว และคนที่ดูแลสวนลำไย ให้การรับสารภาพว่าได้ให้นายพันธรักษ์ และนายอนุชาติ ลำเลียงไม้ของกลางมาให้จริง เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน และแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป