"กรีน อัษฎาพร" เปิดใจครั้งแรก หลังเลิก "ธันวา สุริยจักร" เมาท์แรงเหตุเพราะมือที่ 3 ?

2023-05-04 11:55:31

"กรีน อัษฎาพร" เปิดใจครั้งแรก หลังเลิก "ธันวา สุริยจักร" เมาท์แรงเหตุเพราะมือที่ 3 ?

Advertisement

"กรีน อัษฎาพร" เปิดใจครั้งแรก หลังเลิก "ธันวา สุริยจักร" เมาท์แรงเหตุเพราะมือที่ 3 ?



นางเอกสาวสวย "กรีน อัษฎาพร" เปิดใจครั้งแรก! หลังปิดฉากความรักกว่า 8 ปีกับแฟนหนุ่ม "ธันวา สุริยจักร" พร้อมย้อนเล่าปมปัญหาที่ยืดเยื้อมานานนับปี และสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจเลิกกัน ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บshow 




ความรู้สึกตอนนี้ ?
กรีน : โอเคนะคะ ปกติขึ้นแล้วค่ะ จะมีช่วงแรกที่เราเคยมีความสัมพันธ์ในรูปแบบนึง พอวันนึงลดสถานะลง ภาพเก่าๆมันจะย้อนกลับมาที่มีความสุข มีความเสียใจ ใจหายบ้าง



ณ วันนี้ยังทำใจไม่ได้ ?
กรีน : ทำใจได้ เข้าใจสถานการณ์ ยินดีกับเค้าด้วย ยินดีกับเราทั้งคู่ในสถานะ ณ ตอนนี้ แต่พอมันเห็นภาพก็มีบ้างๆ นิดๆ หน่อยๆ

เลิกกันเพราะอะไร ?
กรีน : เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไลฟ์สไตล์ด้วย ความชอบที่ต่างกัน เรากับเค้าพยายามปรับกันแล้วก็ยังหาจุดตรงกลางไม่เจอสักที

มีมือที่ 3 ?


กรีน : ไม่มีค่ะคอนเฟิร์มได้เลย ตังแต่คบกับเค้ามา 8 ปี ไม่เคยมีเรื่องเหล่านี้เลย เราสามารถเชื่อใจกันและกันได้



ใช้เวลาปรับกัน 8 ปี ?
กรีน : จริงๆ ถ้าใครดูในยูทูบก็จะเห็นว่าเราตีกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง ตีกันบ่อยแต่เราก็ประคับประคองกันมาได้ แต่กรีนก็มีคำถามนี้ในใจ เราพยายามค่ะ เค้าก็เป็นคนดีสำหรับเรา เค้าเข้ามาในชีวิตเราก็ปรับนิสัยเราหลายๆอย่าง เรื่องการใช้เงินเค้าก็คอยสอนเรา เราก็ได้อะไรจากเค้าเยอะ แต่มันก็มีบางสิ่งเราไม่สามารถพูดได้เหมือนกัน



ไลฟ์สไตล์แบบไหนไม่เข้ากัน ?
กรีน : ไม่มีอไรพีค มันคือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กรีนชอบถ่ายรูปเค้าไม่ชอบ เค้าไม่ยอมไปกับเราด้วย เหมือนเค้าต้องไปรอบางครั้งอยากให้เค้าถ่ายให้แต่เราอยากได้แบบนี้ๆ ครั้งแรกๆ ไม่เป็นไร พอครั้งหลังๆ เราเกรงใจเค้า มันเหมือนช่วงนี้แหละที่ทำให้เราไม่เจอกัน มันเหมือนทำให้เราไม่มีโมเมนต์ที่คู่รักทำกัน ฟิลมันประมาณยังงี้ เรื่องอาหารการกินบางทีเลือกร้านจนทะเลาะกันก็มี

จุคพีคสุด ?
กรีน : เกิดขึ้นมาประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้เค้าทำอะไรหนูจะค่อนข้างตามเค้า พอช่วงหลังเริ่มหันกลับมามองตัวเองมากขึ้น มีจุดยืนตัวเองมากขึ้น เลยไม่ค่อยเชื่อฟังเค้าเท่าไหร่ เราทำตามใจของตัวเอง พอเรามีจุดยืนเค้ารู้สึกเหมือนคุยอะไรกับเราไม่ค่อยได้ มันเลยเกิดความชินชาบางอย่างเกิดขึ้น เริ่มเย็นชาใส่กัน มุมเค้าก็เหมือนกัน ระยะห่างเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว บวกกับถ่ายละคร ทำให้แทบจะไม่ได้เจอกัน

จุดที่ต้องคุยกัน ?
กรีน : เค้าเป็นคนเริ่มบอกหนู ทำไมมันไม่เหมือนเดิม หนูก็ขอโทษเค้าที่เป็นแบบนี้ แต่ก่อนเค้าคือที่ 1 ในเป้าหมายชีวิตวันนี้เค้าก็ยังเป็นที่ 1 แต่มีเป้าหมายอื่นเข้ามาอยู่ข้างๆ หนูเป็นหัวหน้าครอบครัว มีภาระหนี้สินที่ต้องดูแล หนูแลแม่ทำให้มีแต่ครอบครัวมีเค้าน้อยลง เค้ามีความน้อยใจ คุยเรื่องนี้กันบ่อย ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน เราก็บอกว่ามาอยู่ที่บ้านเราสิมาอยู่กับแม่ เราไม่ได้ออกไปอยู่ข้างนอกด้วยกัน เค้าบอกว่าความรู้สึกไม่ได้หลายๆอย่าง



เคยคุยกันมั้ย ?
กรีน : บอกค่ะ เค้าเข้าใจทุกอย่างเลย เคยมีจุดที่ไม่เข้าใจนั่งจับเข่าคุยกันก็เข้าใจ แต่สุดท้ายมันไม่ใช่ประเด็นเรื่องนี้มันเป็นเรื่องเค้าไม่มีความสุข ในมุมของหนูอาจดูเห็นแก่ตัว ถ้าผู้ชายคนนี้สามารถอดทนรอหนูได้หนูก็คิดว่าเค้าคือคนที่ใช่ แต่ถ้าหนูไปบอกว่าให้รอก่อนนะ ให้ใช้หนี้ให้หมดก่อน ให้ดูแลแม่ก่อนนะ มันดูเห็นแก่ตัว เรายังไม่มองเรื่องแต่งงาน มีลูก เราขอทำเป้าหมายบางอย่างในครอบครัวของเราก่อน



ถ้ารอไม่ได้ก็ไม่ว่า ?
กรีน : ใช่ค่ะ ทำพร้อมกันไปอยู่ แต่ละคนไม่เหมือนกัน กรีนทำแล้วจะไปสุดในด้านใดด้านนึง ไม่ใช่ไม่รักไม่ใส่ใจเค้าแต่มันถูกลดลงหรือเปล่า

8 ปี อิ่มตัว ?
กรีน : จริงๆ มันก็ยังไม่อิ่มนะคะ หนูยินดีที่จะคบเค้าไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเค้าโอเค แต่สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจเราลงโพสต์ เราคุยกันมาสักระยะแล้วตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เค้าพูดว่าเค้าไม่มีความสุขจริงๆ กรีนให้ในสิ่งที่เค้าต้องการไม่ได้หลายๆ อย่าง ก็จริง เค้ายังคบกับเราอยู่เค้าก็ไม่มีโอกาสไปเจอคนที่ให้ความสุขเค้าได้มากกว่าเราเค้าติดอยู่ที่เรา เค้าจะพูดตลอดเลยว่าเค้าไม่มีความสุขเลยทำยังไงดี เราควรจะไปตรงไหนดี พอเค้าพูดว่าเค้าไม่มีความสุขกรีนไปต่อไม่ได้เหมือนกัน ตอนแรกเรารู้ว่าสุดท้ายผลลัพธ์ต้องออกมาเป็นแบบนี้ ฉันแข็งแกร่ง พอวันที่เค้าบอกว่าเราไปต่อไม่ได้แล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกว่าแข็งแกร่งอยู่ แต่วันที่เสียใจสุดๆเลยคือวันที่เค้าเดินไปหาแม่หนูเองเลยเดินไปบอกแม่ หนุไม่รู้ว่าเค้าคุยอะไร แต่ขอลดความสัมพันธ์ลง ตอนเข้ามาเค้าก็คุยกับทางแม่เหมือนกัน วันที่ออกเค้าเลยอยากคุยกับแม่เหมือนกัน

วันที่ตัดสินใจเป็นยังไง ?
กรีน : ไม่เจอกันแค่คุยโทรศัพท์กันว่าจะเอายังไง เค้าถ่ายละคร แต่เราปิดกล้องแล้วจัดของไปเรียนต่อ ไม่มีเวลาเจอกันที่ผ่านมาเรื่องทะเลาะ เรื่องคืนดีกันเราก็คุยโทรศัพท์กัน คุณแม่คือเค้าไปเลยค่ะ เค้าก็ไม่ได้บอกกรีน พอเค้าไปหาคุณแม่เสร็จเค้าก็โทรมาบอกกรีน คุยกับแม่แล้วนะ เสียงเค้ากดูปกติ แต่พอวางหูปุ๊บหนูก็ร้องไห้เลย หนูก็ถามตัวเองว่าเป็นอะไร แต่สุดท้ายผลลัพธ์ที่ออกมามันก็ดีที่เค้าเดินไปบอกแม่เรา

ตอนแรกตั้งใจจะจบเงียบๆ ทำไมตัดสินใจบอกทุกคน ?
กรีน : เป็นไอเดียธันวา ความคิดหนูไม่อยากให้เรื่องพัวพันโน่นนี่มีคำถามเยอะ คิดว่าผ่านๆ ไปก่อนเราจะไปเรียนต่อแล้วด้วยให้เรื่องเบาๆ ไปค่อยว่ากันอีกที หนูสามารถปล่อยเบลอไปได้เลยไม่ซีเรียสอะไร แต่ธันวารู้สึกว่าเค้าอยากให้เกียรติคนใหม่ที่จะเข้ามา กรีนก็ลืมมองมุมนี้ถ้าเค้าอยากจะเจอคนใหม่ มันไม่ควรมีอะไรผูกพันกับคนนี้อยู่ ควรจะชัดเจนไปเลยมั้ย กรีนยังไงก็ได้หมด



3 เดือนไปเรียนต่อมีผลมั้ยกับเรื่องแยกทาง ?
กรีน : จริงๆ มันคนละเรื่อง เพียงแต่มันเข้ามาในช่วงเดียวกัน วางแผนจะเรียนตั้งแต่ช่วงโควิด

ตอนโพสต์กระแสเป็นยังไงบ้าง ?
กรีน : ที่เห็นในไอจีส่วนใหญ่จะได้รับกำลังใจ ถ้าคอมเมนต์แง่ลบหนูจะปล่อยผ่านไม่ค่อยเอสเก็บไปคิดเท่าไหร่ เลยไม่ได้มีผลเท่าไหร่

เสียดายเวลามั้ย ?
กรีน : 8 ปีเราผ่านเรื่องราวอะไรมาก็เยอะ มีมาหมด ก็เสียดายค่ะ แต่หนูจะเสียดายมากกว่าถ้าคบไปอีกเรื่อยๆ แล้วเรายังประคับประคองไปเรื่อย ผลลัพธ์ยังออกมาเป็นแบบนี้ แทนที่ธันวาจะเหลือเวลาในชีวิตเค้าไปเจอคนใหม่หรือคนที่ดีกว่าไม่ดีกว่าเหรอ

ทำไมไม่มองว่าเราจะได้ไปเจอคนใหม่บ้าง ?
กรีน : เจออยู่แล้วค่ะ (หัวเราะ) หมายถึงว่ามันเหมือนเป็นกระจกสะท้อน ถ้าหนูคิดแบบนี้กับเค้าเราก็มีโอกาสเหมือนกันแล้วมันเป็นสิ่งแรกที่หนูคิดแบบนั้นจริงๆ กับเค้า ตั้งแต่เริ่มมานั่งคุยกันว่าจะโพสต์มันควรจะเป็นแบบนั้น หนูมีหนทางที่ให้ความสุขกับตัวเองหลายอย่างเลย ไม่จำเป็นรูปแบบของแฟน หนูมีครอบครัว มีงานที่เป็นความสุข เรื่องความรักถ้ามันใช่เดี๋ยวจะเข้ามาเองแหละ หนูเคยคิดว่าถ้าผ่านไป 10 ปี เส้นทางที่เราเคยคู่ขนานกันวันนึงมันจะย้อนมาเจอกันได้มั้ย

ในอนาคตอาจกลับมาได้ ?
กรีน : ทุกวันนี้ยังคุยโทรศัพท์กับเค้า สัญญาที่เค้าเคยให้ไว้จริงๆ เค้าไม่ต้องทำตามสัญญาก็ได้ เค้ายังทำ อย่างเค้ารู้ภาระหนี้สินที่บ้านกรีน เค้ารู้เรื่องการเงินที่บ้าน เรากำลังลงทุนกันอยู่ศึกษาอยู่ เค้าศึกษาหนักมากๆ กรีนจะตามเค้าเรื่องนี้ เค้าบอกว่าสัญญานะเค้าวางการเงินไว้เค้าบอกจะทำให้เราแบบนี้ เราจะไม่ทิ้ง



เลิกกันแล้วรักกันมากขึ้นในฐานะเพื่อน ?
กรีน : ค่ะ แปลกนะวันที่ประกาศลดสถานะ ความคาดหวังมันไม่มี เหมือนเราคุยได้ทุกเรื่องไปเลย ไม่ต้องไปงอนไปน้อยใจ เค้าเป็นเพื่อนที่ดีเลย

เลิกกันแบบชั่วคราวมั้ย ?
กรีน : ไม่น่านะคะ หนูคิดว่าไม่นะคะ เราเคยมีโมเมนต์แบบนี้มาหลายครั้งเหมือนกัน แต่ครั้งนี้มันชัดเจนและเป็นเรื่องจริงไปเลย ถ้าเรากลับไปเป็นแบบเดิมมันจะเข้าสู่วงจรเดิมผลลัพธ์เดิมคือเค้าไม่มีความสุข ที่น่าจะช่วยพวกเรื่องทั้งคู่ได้คือเรื่องเวลาอย่างเดียวเลย ทำให้เติบโตมากขึ้น

ฟิลไหนคิดถึงสุด ?
กรีน : ปกติคุยกันทุกคืน โทรศัพท์เข้าก็คิดว่าเป็นเค้า มันไม่ได้เสียใจนะคะ

คุยกันเรื่องอะไรบ้าง ?
กรีน : เรื่องพัฒนาตัวเอง คุยงานซะส่วนใหญ่เลย กรีนเป็นผู้ฟังที่ดี จะปล่อยให้เค้าพูดเป็นชั่วโมง เหมือนเค้าไม่มีใครเค้าเป็นคนลาว มาอยู่ที่เมืองไทยเค้าตัวคนเดียว เค้าไม่มีใคร เค้ามีแค่เรา คุยกับเราได้ เค้ารู้ว่าเราไม่พูดต่อ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงาน

พูดถึงเค้ามีแต่สิ่งดีๆ ?
กรีน : แปลกนะ ตอนคบกันเราจะมองแต่สิ่งที่ไม่ดีของเค้า พอลดสถานะเรามองแต่สิ่งที่ดีของเค้า



เข็ดกับความรักมั้ย ?
กรีน : ให้โอกาสตัวเองมากกว่า ไม่เชิงว่าเข็ด ถ้าคนที่จะเข้ามาต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เยอะกว่าเดิม เพราะเวลาทำอะไรไปภาพเก่าๆ มันอาจจะกลับมา ทำแบบนี้เค้าจะไม่ชบหรือเปล่า ไลฟ์สไตล์จะไม่ตรงกันอีกมั้ย

สเปก ?
กรีน : ไม่มีเลยค่ะ กรีนแพ้คนดูแลเอาใจใส่เรา เป็นคนดีสำหรับเราเอื้อเฟื้อ เหมือนมองเพื่อนมนุษย์คนอื่นเป็นเหมือนคนในครอบครัว

3 เดือนที่จะไปเกาหลีคือไปพักใจ ?
กรีน : ไม่ใช่ค่ะเป็นแพลนไปเรียนภาษาหาประสบการณ์ อยากพักผ่อนด้วย อยากไปที่ๆ เราชอบ แล้วมันใกล้ประเทศไทยด้วย