ภท.ดำเนินคดี "เศรษฐา"ปราศรัยโจมตีกัญชา เลือก ภท.ได้ "บิ๊กตู่" (มีคลิป)

2023-05-03 12:42:45

ภท.ดำเนินคดี "เศรษฐา"ปราศรัยโจมตีกัญชา  เลือก ภท.ได้  "บิ๊กตู่" (มีคลิป)

Advertisement

"ศุภชัย" เผยเด็ก ภท. ทยอยดำเนินคดี "เศรษฐา" ปมปราศรัยโจมตีกัญชา  เลือก ภท.ได้  "บิ๊กตู่"  เป็นนายกฯ "สหายแสง"นำร่องคนแรก ชี้โทษหนักถึงขั้นยุบพรรค 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 พ.ค. 66  ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย  (พท.) ปราศรัยที่ จ.นครพนม โจมตีนโยบายกัญชาว่าเป็นการมอมเมาเยาวชน รวมทั้งบอกว่าหากเลือกพรรคภูมิใจไทยจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯอีกรอบ และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนกับการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด โดยยืนยันว่าการกล่าวหาของทั้งคู่ไม่เป็นความจริง ซึ่งกรณีของนายเศรษฐา มีความผิดใส่ร้ายตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 (5) ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง ทั้งที่ข้อเท็จจริงพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ ไม่เคยสนับสนุนให้มอมเมาเยาวชน รวมทั้งที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยก็หาเสียงชูนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ไม่เคยบอกว่าเลือกภูมิใจไทยแล้วจะไปเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ จึงถือว่าการปราศรัยของนายเศรษฐาเป็นการใส่ร้าย และพูดเท็จ

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของนายประเสริฐนั้น พรรคภูมิใจไทยขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีส่วนในการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ก่อนที่รมว.สาธารณสุขจะมาออกประกาศควบคุมกัญชา กล่าวคือมีการปลดล็อกกัญชา โดยผ่านรัฐสภาลงมติเอกฉันท์ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ไม่ระบุว่ากัญชาเป็นยาเสพติด กระทั่งราชกิจจานุเบกษาประกาศประมวลกฎหมายยาเสพติด ไม่ระบุให้กัญชาเป็นยาเสพติดเป็นครั้งแรก มีผลบังคับใช้วันที่ 8 ธ.ค.64 รวมทั้งก่อนหน้านี้ คือวันที่ 21 ก.ย.63 ก็มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางปัญหาเกี่ยวกับกัญชา กัญชง และกระท่อม โดยมีนายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ได้เสนอรายงานจำนวน 367 หน้า สรุปสาระสำคัญ คือ ยกเลิกกัญชา กัญชง และกระท่อม ออกจากยาเสพติดให้โทษ ซึ่งอย่างน้อยใน 2 ส่วนนี้ ก็ไม่มีส.ส.พรรคเพื่อไทยออกมาคัดค้านเลย ฉะนั้น พรรคที่ทำให้เกิดกัญชาเสรีก็คือพรรคเพื่อไทย

นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบนายเศรษฐาเป็นเพียงสมาชิกพรรค ซึ่งตำแหน่งที่ปรึกษาหัวหน้าเพื่อไทย ก็เป็นเพียงการบัญญัติศัพท์ขึ้นมา และกรณีการปราศรัยบิดเบือนให้ความเท็จ ซึ่งนายเศรษฐาจะมีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 (5) แล้ว ขณะที่คณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคเพื่อไทย ไม่ควบคุมสมาชิกพรรคให้ดำเนินการด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม ก็เข้าข่ายความผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 101 ที่ระบุว่า กรณีผู้กระทำผิดจะต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น แต่ถ้าเป็นกรณีพรรคการเมือง ต้องระวางโทษเป็น 2 เท่า ของโทษที่กำหนดไว้ตามวรรคหนึ่ง และให้กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น และให้เพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งของหัวหน้าพรรค และกก.บห.ของพรรคการเมืองนั้น ซึ่งทราบว่าขณะนี้มีสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำดังกล่าวได้ดำเนินคดีแล้ว เช่น นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 และผู้สมัคร ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย และทราบว่ามีผู้ประสงค์จะดำเนินการทางกฎหมายในแต่ละพื้นที่อยู่ ทั้งนี้ พรรคยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดเพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกใส่ร้าย วันนี้นายเศรษฐาต้องพร้อมรับสิ่งที่ท่านพูดออกไป เราต้องแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะของท่าน ซึ่งวันนี้เราไม่ยอม

เมื่อถามว่า การฟ้องนายเศรษฐา และพรรคเพื่อไทย จะเป็นการปิดประตูจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทยเคยบอกว่าจะสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้เสียงมากเป็นอันดับหนึ่ง นายศุภชัย กล่าวว่า เราไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์นโยบายพรรคใด เวลาเราปราศรัยที่ไหนก็เสนอนโยบายของพรรคเราเอง เราไม่พูดถึงชาวบ้าน แต่ดูเหมือนว่าวันนี้การปราศรัยของท่านเกิดจากความกลัว ความกลัวจึงทำให้เสื่อม ทำให้ท่านขาดสติ ขอให้ท่านทบทวนตัวเอง และผมขอเรียกร้องพรรคเพื่อไทย หากเห็นว่ากัญชามีปัญหาให้ประกาศเลยว่าจะเอากลับไปเป็นยาเสพติด อย่ามาพูดคลุมเครือว่าเอาเฉพาะนโยบายทางการแพทย์เท่านั้น พรรคภูมิใจไทยเองก็ไม่เคยสนับสนุนเรื่องสันทนาการ พี้ มอมเมาประชาชน การที่ท่านพูดแบบนั้นเท่ากับใส่ร้ายเป็นความเท็จ

เมื่อถามว่า การออกมาแจ้งข้อกล่าวหานายเศรษฐา จะเป็นเงื่อนไขให้พรรคภูมิใจไทยไม่ยกมือโหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ หรือควรจะเปลี่ยนเป็นน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือนายชัยเกษม นิติสิริ แทน นายศุภชัย กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลานั้น เพราะวันนี้หากนายเศรษฐาถูกดำเนินคดีท่านจะมีคุณสมบัติอยู่หรือไม่

ต่อข้อถามว่า นายเศรษฐาตั้งกำแพงทางการเมืองไม่เอา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และไม่เอาพรรคกัญชา หากภายหลังจัดตั้งรัฐบาลไม่เป็นเช่นนั้น จะต้องรับผิดชอบทางการเมืองหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ตนไม่อยากมีความเห็น

“ผมคิดว่านายเศรษฐาไม่น่าจะมีอำนาจในการตัดสินใจ ท่านเป็นเพียงตัวแสดงคนหนึ่ง ท่านเข้ามาก็มาช้อปปิ้งตำแหน่งนายกฯ พอไม่ได้ก็กลับไปขายบ้านจัดสรรของท่านเหมือนเดิม ดูแล้วท่านก็ประเมินถูก ท่านอาจจะมีความสามารถเรื่องการบริหารธุรกิจ แต่ในเรื่องของการเมืองท่านต้องเรียนรู้มากกว่านี้” นายศุภชัย กล่าว

เมื่อถามว่า จะไปร้องเรื่องดังกล่าวต่อ กกต.กลางด้วยหรือไม่ เพราะล่าสุดสอบถามพบว่าพรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้ดำเนินการในส่วนนี้ นายศุภชัย กล่าวว่า ขอฝากไปยัง กกต.ว่าต่อให้ไม่มีใครร้อง และหากท่านรู้ได้เอง ท่านก็มีอำนาจสืบสวน วันนี้กรณีการทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม กรณีที่พรรคการเมืองปราศรัยแล้วมีคนไปรังควาน รวมถึงการณรงค์ไม่ให้เลือกพรรคการเมืองใด ซึ่งผิดพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 การที่ท่านปล่อยให้มีบรรยากาศแบบนี้ จะส่งผลให้เกิดความสั่นคลอนต่อหน้าที่ และอำนาจของ กกต. มีคนไม่ให้ความเคารพต่อองค์กรอิสระอย่างกกต. ก่อให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ ท่านจึงเร่งดำเนินคดี ไม่เช่นนั้นความศักดิ์สิทธิ์ของท่านจะสั่นคลอน