"ธนกร" แจงนายกฯแข็งแรงดี ไม่มีผลเดินสายปราศรัย

2023-03-07 13:20:18

 "ธนกร" แจงนายกฯแข็งแรงดี ไม่มีผลเดินสายปราศรัย

Advertisement

"ธนกร"แจงนายกฯแข็งแรงดี ไม่มีผลต่อการเดินสายปราศรัย ลงพื้นที่ แต่คงต้องมีการปรับแผนบ้างเล็กน้อย  จ่อลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา  10 มี.ค. สงขลา 11 มี.ค. 

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 66  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนากร วังบุญคงชนะ  รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ  (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม.  ถึงกระแสความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในภาคใต้ขณะนี้ว่าจากการที่ตนได้ลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างมาก กระแสความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ และในการลงพื้นที่ส่วนใหญ่ ประชาชนผู้สูงอายุได้สอบถามเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ บางส่วนสอบถามถึงเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประชาชนส่วนใหญ่บอกว่าอยากให้พรรครวมไทยสร้างชาติทำนโยบายนี้ต่อไป ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติมีนโยบายเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัส และการปล่อย “กู้ฉุกเฉิน” 10,000 บาทต่อคน ส่วนใหญ่สอบถามเรื่องนี้มามากเช่นเดียวกัน  นอกจากนี้ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งที่ลงทะเบียนบัตรประชารัฐสวัสดิการแห่งรัฐ แล้วไม่ผ่านเกณฑ์ ได้ขอให้รัฐบาลช่วยดูแลในช่วงการอุทธรณ์ เพราะมีคนส่วนนี้อยู่ประมาณ 5 ล้านคน อีกทั้งยังมีประชาชนร้องเรียนเรื่องมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตนได้นำเรื่องนี้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว และท่านได้สั่งการให้กระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทยไปดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดกับมิจฉาชีพที่กระทำการดังกล่าวอย่างเต็มที่

ต่อข้อถามว่าจากอาการป่วยของนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติจะต้องปรับแผนการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่าที่จริง นายกรัฐมนตรีแข็งแรงมาก ส่วนอาการที่มือ เป็นแค่การอักเสบ ไม่ได้มีอาการหนักอะไร วันนี้ตนได้มีโอกาสไปรับท่าน เห็นว่าท่านแข็งแรงดี เชื่อว่าไม่มีผลต่อการเดินสายปราศรัยและการลงพื้นที่ แต่คงต้องมีการปรับแผนการลงพื้นที่บ้างเล็กน้อย ไม่มีผลกระทบมาก ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ใจสู้มากในการทำงานให้กับประชาชน ดังนั้นท่านสู้เต็มที่อยู่แล้ว

เมื่อถามว่ากำหนดการลงพื้นที่จ.ฉะเชิงเทราในวันที่ 10 มี.ค.นี้ ยังมีอยู่เหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนทราบว่ายังมีกำหนดการนี้อยู่ และจะไปลงพื้นที่สงขลาในวันที่ 11 มี.ค.ด้วย ทุกวันนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติได้มีการปรับยุทธศาสตร์บ้างเล็กน้อย โดยจากการที่ตนและผู้สมัคร ส.ส.หลายคน ลงพื้นที่ พบว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งยังมีความสับสนและยังไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ เนื่องจากพรรคฯ เพิ่งเริ่มจัดทำป้ายหาเสียงให้แก่ผู้สมัคร เพิ่งนำไปเผยแพร่ อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน เราจึงได้มีการปรับยุทธศาสตร์ตรงนี้แล้ว และเร่งทางผู้สมัครให้ขึ้นป้ายหาเสียงดังกล่าว วันนี้ไม่ว่าจะลงพื้นที่ใด ก็จะเห็นได้ว่ามีแต่คนถามหาพล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นเราอาจต้องปรับระยะของพรรคฯ กับพล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะผลโพลต่างๆก็สะท้อนออกมาว่าพล.อ.ประยุทธ์มาเป็นอันดับ 1 และหลายพื้นที่ก็ระบุว่าพรรครวมไทยสร้างชาติมีความนิยมมาเป็นอันดับ 2 หรือ 3 ซึ่งเราต้องปรับให้ ประชาชนตระหนักว่าถ้าเลือกพล.อ.ประยุทธ์ก็เท่ากับเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งคนและพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเลื่อนกำหนดการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีออกไป จะส่งผลถึงคะแนนเสียงหรือความนิยมหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่ได้เลื่อนกำหนดการดังกล่าว แม้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์จะไม่สบาย แต่ตนและผู้สมัครส.ส.ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากนี้ หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติจะลงพื้นที่มากขึ้น ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์จะลงพื้นที่ปราศรัยตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีกำหนดการอยู่แล้ว ส่วนบรรดาแกนนำของพรรคที่ได้มีการแบ่งความรับผิดชอบดูแลในแต่ละภาค ก็คงลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงขึ้น เพราะตอนนี้ถือว่าเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง โดยการเมืองในวันนี้ตนเชื่อว่าเมื่อดูบรรยากาศการเมืองในทุกวันนี้ สุดท้ายมันมีสองฝั่งอย่างที่ตนเคยบอกไว้ คือฝั่งที่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ กับคนอีกฝั่งหนึ่ง ที่ประชาชนยังให้ความไว้วางใจให้พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตอนคิดว่ามากกว่าปี 62 เพราะขณะนั้น พล.อ.ประยุทธ์เป็นแค่ผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่เอง ปราศรัยเอง และเป็นประธานคณะกรรมการของพรรครวมไทยสร้างชาติเอง ดังนั้นคิดว่าด้วยความตั้งใจของท่านที่ต้องการทำงานให้กับประชาชน จะทำให้ได้รับโอกาสจากประชาชนมากขึ้น

เมื่อถามถึงความพร้อมของพรรครวมไทยสร้างชาติในพื้นที่ภาคใต้ นายธนกร กล่าวว่า ตอนนี้ เรามีความพร้อมสูงสุดในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนภาคอื่น เราก็พร้อมแต่เนื่องจาก กระแสของพล.อ.ประยุทธ์ในพื้นที่ภาคใต้มีสูงมากอย่างต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะได้รับการตอบรับอย่างมากในพื้นที่ภาคใต้ แต่เราก็ยังต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ตามที่ตนได้กล่าวไว้ข้างต้น