พนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกาคุมตัวหนุ่มวีออสขับรถชน "ส.ต.อ.เศรษฐการ"เสียชีวิตฝากขังศาล แจ้งข้อหาหนัก พร้อมคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยันไม่มีเจตนาให้เสียชีวิต
พนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา คุมตัว นายกิตติธัช ราญประเสริฐ ผู้ต้องหาขับรถชนตำรวจทางหลวงเสียชีวิต ไปฝากขังยังศาลจังหวัดธัญบุรี พร้อมแจ้งเอาผิด 4 ข้อหา โดยหนึ่งในนั้น มีข้อหา ฆ่าเจ้าหน้าที่พนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึงขั้นประหารชีวิต!
จากกรณี ส.ต.อ.เศรษฐการ ลอยขามป้อม ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. เสียชีวิตจากเหตุ นายกิตติธัช ราญประเสริฐ อายุ 36 ปี ขับรถเก๋งเบียดชนรถจักรยานยนต์ตำรวจทางหลวง บนถนนกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 บางนา-บางปะอิน มุ่งหน้าบางปะอิน กม.30+400 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เหตุเกิดเวลาประมาณ 16.50 น. วันที่ 23 ก.พ.66
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 66 ที่ สภ.ลำลูกกา เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี คุมตัว นายกิตติธัช ราญประเสริฐ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุขับรถเก๋งชนรถ จยย.ตำรวจทางหลวง ส ขึ้นรถคุมขังเพื่อเดินทางไปฝากขังต่อศาลจังหวัดธัญบุรี โดยเจ้าตัวมีสีหน้าที่เรียบเฉย ก่อนเปิดเผยสั้น ๆ ว่า อยากขอโทษเหตุที่เกิดขึ้น ช่วงเกิดเหตุขับรถมาคนเดียว แต่หลังเกิดเหตุได้ขึ้นรถรับจ้างกลับบ้านพัก ส่วนเรื่องอื่นตนเองขอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อถามว่าตั้งใจชนให้เขาตายหรือไม่ นายกิตติธัช กล่าวว่า ผมไม่ได้มีเจตนาขนาดนั้น
ด้าน พ.ต.อ.ขวัญชัย บุญเพ็ชร ผกก.สภ.ลำลูกกา เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา 1.ฆ่าเจ้าหน้าที่พนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต 2.ทำให้เสียทรัพย์ 3.ขับรถประมาทหวาดเสียว และจอดรถในที่ห้ามจอด โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวด้วย จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกจับเมาแล้วขับพื้นที่ สน.บางชัน เดือน เม.ย.2560
มีรายงานว่าศาลจังหวัดธัญบุรีมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว นายกิตติรัช ราญประเสริฐ ครูสอนขับรถยนต์ ก่อนเจ้าหน้าที่ศาลจะนำตังส่งเรือนจำจังหวัดธัญบุรี
อีกด้านหนึ่ง ที่ศาลา 5 วัดตรีทศเทพวรวิหาร จ.ส.อ. ประถม ลอยขามป้อม พ่อของ ส.ต.อ. เศรษฐการ เผยว่า ตนมีลูก 2 คน มีส.ต.อ. เศรษฐการ หรือหนุ่ม เป็นคนโต และมีน้องสาวอีกคนหนึ่ง โดยตอนเด็กๆ ส.ต.อ. เศรษฐการ ชอบช่วยเหลือคนอื่น และอยากเป็นตำรวจจึงสอบเข้านายสิบโดยไม่บอกตนด้วยซ้ำ มาบอกตอนสอบได้แล้ว ซึ่งในชีวิตการปฏิบัติหน้าที่ของลูกชาย มองว่าทำได้เต็มที่แล้ว และภูมิใจในตัวลูกมากๆ ไม่รู้จะบอกอะไรกับลูกชายแต่จะทำตรงนี้ให้ดี ส่วนเรื่องคดี ตนให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ดำเนินการ
ขณะที่พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาร่วมเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ โดยมี พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พร้อม พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. และผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง เข้าร่วมงานสวดอภิธรรม ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า
พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวว่า สำหรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ นั้น บช.ก.และ บก.ทล.จะดูแลและเยียวยาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท และพล.ต.ท.จิรภพ ยังจะช่วยเป็นการส่วนตัวอีก 5 แสนบาท ส่วนเรื่องการเลื่อนยศและตำแหน่งนั้นจะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ เช่นเดียวกับทายาทหากประสงค์เป็นข้าราชตำรวจ
พล.ต.ต.เอกราชกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตได้ปฏิบัติตามหน้าที่ เปิดสัญญาณเสียงไซเรน และไม่ได้เข้าไปปะทะ แต่เป็นเจตนาผู้ก่อเหตุที่หักรถเข้ามาให้เกิดความเสียหายต่อการปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ก่อเหตุมีประวัติถูกดำเนินคดีเรื่องเมาแล้วขับ เบื้องต้นศาลธัญบุรีได้สั่งค้านประกันตัวเรียบร้อย โดยบก.ทล.จะนำกรณีนี้ไปถอดบทเรียนเพิ่มเติม
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า วันนี้มาร่วมให้กำลังใจและมอบเงินให้กับครอบครัว เบื้องต้นจะได้รับเงินจากสวัสดิการต่างๆ ร่วม 375,000 บาท และเงินส่วนอื่นรวมอีก 900,000 บาท โดยผู้บังคับบัญชาแต่ละสังกัดจะร่วมนำเงินมาสนับสนุนครอบครัวผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม คาดว่าจะได้ร่วมหลักล้านบาท ทั้งนี้หากพิจารณาตามหลักเกณฑ์แล้วเข้าข่าย ทายาทจะได้รับสิทธิ์สอบเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ สำหรับการปูนบำเหน็จนั้น หากศาลพิพากษาในข้อหาเจตนาฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีโทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิต ผู้เสียชีวิตจะได้เลื่อนขั้น 4 ชั้นยศเป็นร.ต.ท. แต่หากสั่งฟ้องเป็นคดีอุบัติเหตุจะเลื่อนขั้น 3 ชั้นยศ เป็น ร.ต.ต.ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ