วอชิงตัน, 14 ก.พ. (ซินหัว) — เมื่อวันอาทิตย์ (12 ก.พ.) 24/7 วอลล์สตรีต (24/7 Wall St.) เว็บไซต์ข่าวสหรัฐฯ เปิดเผยว่า 7 เมืองสหรัฐฯ ซึ่งเคยอยู่ในกลุ่มมหานครใหญ่ที่สุดของประเทศไม่แข็งแกร่งดังเดิมอีกต่อไป เนื่องจากเมืองเหล่านี้สูญเสียประชากรไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว
รายงานระบุว่า 7 เมืองดังกล่าว ได้แก่ เมืองฟลินท์ เมืองบัฟฟาโล เมืองพิตต์สเบิร์ก เมืองคลีฟแลนด์ เมืองยังส์ทาวน์ เมืองเซนต์หลุยส์ และเมืองดีทรอยต์ โดยเว็บไซต์ฯ ได้เปรียบเทียบการสำรวจสำมะโนประชากรรอบทศวรรษของสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐฯ (USCB) เริ่มตั้งแต่ปี 1950 จนถึงตัวเลขประชากรล่าสุด
เว็บไซต์ฯ รวบรวมรายชื่อเมือง 7 แห่งที่เคยอยู่ใน 100 อันดับเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในสหรัฐฯ เมื่อปี 1950 และสูญเสียประชากรกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อนับถึงเดือนกรกฎาคม 2021 พร้อมเผยเหตุผลของจำนวนประชากรที่ลดลงในเมืองดังกล่าว ได้แก่ การสูญเสียงาน การเลือกปฏิบัติด้านที่พักอาศัย รวมถึงความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและเชื้อชาติ
ทั้งนี้ รายงานชี้ว่าประชากรที่ยังอาศัยอยู่ในเมืองเหล่านี้ “มีแนวโน้มดิ้นรนเพื่อหางานทำและใช้ชีวิตอยู่อย่างยากจน” ขณะบางเมืองกำลังอยู่ในกลุ่มพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดจากการระบาดของกลุ่มยาโอปิออยด์ (opioid)
(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้คนเยือนสวนสาธารณะเนชันแนล มอลล์ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ วันที่ 3 ก.พ. 2023)