"โรคมะเร็งปอด" รักษาได้ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
โรคมะเร็งปอด หนึ่งในสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดอัตราการเสียชีวิตเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับประเทศไทยนับว่าเป็น 1 ใน 5 ของโรคมะเร็งที่พบมากที่สุด และยังมีจำนวนผู้ป่วยใหม่ด้วยโรคมะเร็งปอดในแต่ละปีสูงมาก ผู้ป่วยส่วนมากจะได้รับการวินิจฉัยและรักษาเมื่ออยู่ในระยะที่ 3 และระยะที่ 4 ของโรค เนื่องจากผู้ป่วยบางรายที่เป็นระยะแรกของมะเร็งปอดอาจจะไม่มีอาการผิดปกติได้
สาเหตุการเกิดโรคมะเร็งปอด
-การสูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่หรือได้สัมผัสสารก่อมะเร็งในบุหรี่มาเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดชนิด small cell carcinoma และ squamous cell carcinoma
-มีการกลายพันธุ์ของยีนในร่างกายบางชนิดหรือมีการสลับที่ของยีนบางชนิด ที่ทำให้เซลล์เจริญเติบโตกลายเป็นเซลล์มะเร็งปอดชนิด adenocarcinoma เช่น ยีน EGFR, ALK, KRAS, BRAF, HER2, RET, ROS, MET และยีน NTRK ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ในครอบครัว
-สำหรับเรื่องฝุ่น PM 2.5 ปัจจุบันเริ่มมีการศึกษาวิจัยเบื้องต้นพบว่า ฝุ่น PM 2.5 เมื่อสูดดมเข้าไปโดยตรงทำให้เกิดการอักเสบต่าง ๆ ในทางเดินหายใจขึ้น ซึ่งอาจจะสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งปอดได้ แต่อย่างไรก็ตามสมมติฐานนี้ยังต้องการการวิจัยสนับสนุนอีกมาก
อาการของโรคมะเร็งปอด
อาการของโรคขึ้นอยู่กับตำแหน่งของตัวก้อนมะเร็ง เช่น หากอยู่ใกล้หลอดเลือดแดงและหลอดลมอาจจะมีอาการเหนื่อย ไอเป็นเลือด หากอยู่ในกระดูกจะมีอาการปวดกระดูกอย่างมาก หากอยู่ในตับอาจจะมีอาการปวดท้อง ตับโต และการทำงานของตับอาจจะผิดปกติ หากอยู่ที่สมองอาจจะมีอาการแขนขาอ่อนแรง เป็นต้น
สำหรับอาการทั่วไปที่พบได้บ่อย เช่น
-มีอาการไอเป็นระยะเวลานาน ไอเรื้อรัง อาจมีเสมหะปนเลือด
-เหนื่อย
-หายใจไม่สะดวก
-มีอาการเบื่ออาหาร
-น้ำหนักลด โดยไม่ทราบสาเหตุ
-ปอดอักเสบติดเชื้อบ่อย ๆ
ระยะของโรค
ระยะที่ 1 ระยะต้นที่พบว่าเซลล์มะเร็งอยู่ในปอด มักไม่มีอาการที่แสดงความผิดปกติ
ระยะที่ 2 ระยะที่มีการแพร่กระจายเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองที่ขั้วปอด
ระยะที่ 3 เซลล์มะเร็งอยู่ในปอดเริ่มออกมาบริเวณต่อมน้ำเหลืองกลางทรวงอก
ระยะที่ 4 ระยะที่แพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น กระดูก ต่อมหมวกไตและสมอง
รศ. พญ.ธัญนันท์ ใบสมุทร (เรืองเวทย์วัฒนา)
สาขาวิชามะเร็งวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล