สวย ซน แซ่บ "ปันปัน สุทัตตา" เล่าที่มาฉายา "เด็กเปรต" !!

2022-12-15 12:55:55

สวย ซน แซ่บ "ปันปัน สุทัตตา" เล่าที่มาฉายา "เด็กเปรต" !!

Advertisement

สวยด้วย แรงด้วย !! "ปันปัน สุทัตตา" เล่าวีรกรรมวัยเด็ก ซน-เอาแต่ใจ จนทีมงานเอือม ตั้งฉายา เด็กเปรต!



นักแสดงวัยรุ่นตัวตึงซีรีส์วัยรุ่น อย่าง "ปันปัน สุทัตตา" ปัจจุบันอายุ 25 ปีแล้ว แต่เบญจเพสอาถรรพณ์แรงมากป่วยปลายประสาทอักเสบ หน้าขยับไม่ได้ครึ่งซีก แถมย้อนเล่าวีรกรรมวัยเด็กกับความเอาแต่ใจจนทีมงานเอือมระอา ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow 




ป่วยอยู่แต่น่ารักสดใสแบบนี้ป่วยอะไร ?
ปันปัน : ประมาณสัก 4 เดือนที่แล้ว อยู่ดีๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เหมือนปันกลับมาจากอเมริกา พอกลับมาถึงรู้สึกว่าพูดไม่ค่อยชัด รู้สึกว่าปากมันขยับไม่ได้ มองกระจกแล้วทำไมหน้าตาเราแปลกๆ หน้าตาเราเปลี่ยนไป แล้ววันต่อไปดูกระจกแล้วเหมือนปากมันเบี้ยวไปครึ่งซีกล่าง ก็เลยไปหาหมอ



ตอนนั้นรู้สึกยังไง ?
ปันปัน : รู้สึกปกติเลย แต่เหมือนร่างกายเราสั่งมันขยับไม่ได้

โรคนี้เขาเรียกโรคปลายประสาทอักเสบ ถูกต้องไหม ?
ปันปัน : ใช่





ทำไมอายุ 25 ถึงเป็น ?
ปันปัน : มันเป็นโรคที่เหมือนไวรัสตัวนึงที่ทุกคนมีอยู่แล้ว แล้วมันขึ้นมา เราอาจจะนอนน้อย เครียดหรืออะไรแบบนี้แล้วมันขึ้นมาเอง ทุกคนมีสิทธิ์เป็นหมด วันไหนที่เราภูมิตก แล้วมันก็ขึ้นมา

จุดไหนที่รู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องไปหาแพทย์ ?
ปันปัน : วันรุ่งขึ้นไปเลย แล้วคำแรกที่หมอถามคือ ฉีดโบท็อกซ์มาเหรอ มันเป็นเหมือนหน้าเบี้ยวฉีดโบท็อกซ์



หมอไม่ได้พูดถึงโรคแต่ถามว่าปันปันฉีดโบท็อกซ์มาไหม ?
ปันปัน : หนูบอกว่าไม่ได้ฉีดมานานมากแล้ว เขาเลยโอเค เข้ามาดูนู่น ดูนี่ ขยับไปน่าจะเป็นโรคนี้

วันนั้นเคาะแล้วว่าเป็นโรคนี้แน่นอน ?
ปันปัน : ใช่ค่ะ ถ้าเกิดว่าโรคนี้เป็นแบบฟูลสตรีม มันจะเป็นแบบครึ่งหน้า มันจะขยับไม่ได้ มันจะตกลง

ปันปันอายุน้อยมากเลยนะ อะไรเป็นสาเหตุให้เป็นโรคนี้ ?
ปันปัน : หนูว่ามันเป็น genetic เพราะว่าล่าสุดพี่ชายเป็นเมื่อเดือนกว่าๆ ที่แล้ว กลับมาจากเมืองนอกเหมือนกัน อยู่ๆเป็น แต่เขาเป็นครึ่งหน้าเลย ขยับไม่ได้ทั้งซีกเลย แต่หนูเป็นแค่ครึ่งล่าง





จริงๆ ไปเมืองนอกหรือเปล่าถึงเป็น ?
ปันปัน : มันเป็นไวรัสที่อยู่ที่เมืองนอกหรือเปล่า ตอนแรกหนูก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่าสุดท้ายปันใช้เวลารักษานานเหมือนกันนะ ตอนนี้ก็ยังไม่เต็ม 100 นะ กว่าจะกลับมาพูดปกติ 3 เดือน

ใน 3 เดือนคุณหมอบอกว่ายังไงบ้าง ?
ปันปัน : ตอนแรกที่ไป บอกว่า 2 อาทิตย์หายไหม เขาบอกว่าน้องเตรียมใจไว้ 6 เดือนแล้วกันนะ

แล้วเราทำยังไง มีละครต้องถ่าย ?
ปันปัน : ตอนแรกค่อนข้างช็อก เลยรีบโทรบอกผู้จัดการว่าหนูเกิดโรคนี้ขึ้น หนูขยับหน้าไม่ได้ หนูก็วิดีโอคอลไปให้ดูสุดท้ายก็คิดว่าต้องยกทุกอย่างหมดเลย ยกอะไรที่เหมือนกับต้องพูด งานที่ทำได้คือถ่ายรูปภาพนิ่ง อะไรที่ไม่ต้องยิ้มไม่ต้องพูดเยอะ

เรายิ้มไม่ได้เลยเหรอ ?
ปันปัน : ยิ้มได้ แต่หน้ามันเบี้ยว เหมือนครึ่งหน้าล่างมันไม่ขยับ

ถ้าจำไม่ผิดโรคนี้รักษาด้วยการเอาไฟฟ้าช็อต แล้วเราทำไหม ?
ปันปัน : ช็อตทุกวัน ไปโรงพยาบาลแล้วเอาเครื่องช็อตที่หน้า เหมือนช็อตให้ปลายประสาทที่มันมาจากหูสั่นให้มันตื่นแล้วก็ฝั่งเข็ม ทำได้แค่นี้ แล้วก็กินยาบำรุงนิดหน่อย ช่วงเดือนแรกแทบจะไปโรงพยาบาลเกือบทุกวันเลย วันเว้นวันอย่างนี้ พอเดือนสองก็ค่อยๆ ลดลง เพราะว่าช็อตหน้าเยอะๆ ตากระตุก เพราะเครื่องมันใหญ่ วางปุ๊บมันครึ่งหน้าเลยกลายเป็นมันช็อตลูกตาเราด้วย กลับบ้านไปก็ตากระตุก หน้ากระตุกไปด้วย



ตอนนั้นกลัวไหม ?
ปันปัน : ไม่ได้กลัว เพราะรู้สึกเดี๋ยวมันก็หาย เพราะเราเห็นตัวเอง ทุกอาทิตย์มันค่อยๆ ดีขึ้นนิดนึง

มีกลัวไหมว่า มันยิ้มไม่ได้ ถ้ามันไม่เหมือนเดิมแล้ว ?
ปันปัน : ใช่ช่วงนั้นใส่หน้ากากไปก่อน มันก็ช่วยได้

มันมีโอกาสจะเป็นอัมพฤกษ์ได้ไหม ?
ปันปัน : ไม่ถึงขั้นนั้น เขาบอกเลยว่าเดี๋ยวมันก็หายเอง มันไม่ได้หนักขนาดนั้น

ส่วนอื่นคือขยับได้หมด ?
ปันปัน : ปกติหมดเลยค่ะ ปันเป็นแค่เส้นเดียวตรงนี้เลย

เขาไป MRI ดูไหมว่าเส้นประสาทเส้นไหนของเราไม่ทำงาน ?
ปันปัน : ไม่ขนาดนั้น คือคนที่เป็นครึ่งหน้าเขาจะนอนไม่ได้ เพราะตามันกะพริบไม่ได้ สมมติคนที่เป็นเต็มๆ คือกินข้าวไม่ได้ ดูดน้ำไม่ได้ เพราะปากมันไม่ติดกัน แต่หนูเป็นแค่นิดเดียว หนูอยู่ได้เกือบปกติเลย

มันไม่มีอะไรบอกเราก่อนเลยเหรอ ?
ปันปัน : ไม่มีเลยค่ะ หนูอาจจะภูมิตก และเป็น genetic ด้วย ซึ่งพอพี่ชายเป็นชัดเลย



เรื่องละคร เราต้องยุบกองถ่ายนานเท่าไหร่ ?
ปันปัน : พอเป็นปุ๊บ จริงๆ เดือนหน้าต้องถ่ายซีรีส์ หนูยกไปเลยหนึ่งเดือน ตอนแรกบอก 2 อาทิตย์ แล้วพออีกอาทิตย์ดูอาการหนูว่าไม่น่ารอด ก็เลยเลื่อนไปหนึ่งเดือน แต่มันโชคดีที่ซีรีส์เป็นตอนๆ เขาก็ถ่ายของคนอื่นก่อน แล้วตอนถ่ายทีเซอร์ของหนูไปคือเน้นครึ่งหน้าอีกฝั่ง

แล้วตอนนี้อาการเป็นไง ? 
ปันปัน : ตอนนี้ปกติ 99.9

คุณหมอบอกไหมว่าหลังจากที่เราหายปกติแล้ว หลังจากนี้เราต้องระวังอะไร เพื่อไม่ให้มันกลับมาอีก ?
ปันปัน : หมอพูดเหมือนโรคทุกๆ คนที่เป็น ดูแลตัวเอง นอนหลับให้เพียงพอ อย่าเครียด กินอาหารให้ดี เราไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่เหมือนกับโรคทุกโรค เราก็แค่ดูแลสุขภาพให้ดี

มันกลับมาได้ ?
ปันปัน : กลับมาได้ ตอนที่เป็นนะ เป็นโรคที่ไม่ควรเป็นเลย ยิ้มก็ไม่ได้ ไปไหนเวลาหนูหัวเราะนะ เจอเพื่อนปุ๊บหนูเอามือปิดปาก คือมันเป็นความเคยชินไปแล้ว คือพอหัวเราะปุ๊บ ปากมันจะตลกไง ช่วงนั้นแทบไม่ออกไปไหนเลย



ตอนเด็กๆ ถูกบูลลี่ ?
ปันปัน : เหมือนเด็กๆ ย้ายโรงเรียนจากโรงเรียนไทยไปโรงเรียนอินเตอร์ แล้วเหมือนโดนบูลลี่ คือโรงเรียนไทยเขาจะใส่รองเท้าสีดำ ถือกระติกน้ำไปเรียน มีแก้วน้ำของตัวเอง โรงเรียนไทยๆ พอย้ายไปอินเตอร์ ตอน ม.2 ก็เป็นฟิวแบบใส่กระโปรงสก็อต รองเท้าอะไรก็ได้ เราไปเรียนวันแรกใส่รองเท้าสีดำ

แล้วทำไมโดนบูลลี่ ?
ปันปัน : เด็กใหม่ แบบเอ๋อๆ หน่อย ใส่รองเท้าสีดำ ถือกระติกน้ำ ก็เลยโดนเพื่อนบูลลี่ เหมือนตอนย้ายไปพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ด้วย แล้วโรงเรียนอินเตอร์จ๋า ทุกคนจะพูดภาษาอังกฤษกัน แล้วหนูก็จะพูดภาษาไทยกับคนอื่น เราพูดไม่ได้ เราตกใจ เขาจะช็อกมากๆ แรกๆ ก็เลยโดนบูลลี่

ตอนแรกถอดใจไหม กลับไปอยู่ที่เดิมก็ได้ ?
ปันปัน : ถอดใจ จำได้เลยว่าพอย้ายไปปุ๊บ 2 อาทิตย์แรกยังกลับไปสาธิตเกษตรอยู่เลย ยังไม่กล้าบอกเพื่อนเลยว่าย้ายโรงเรียนแล้วนะ คือเรากลับมาแล้วคิดว่าเอายังไงดี แม่ก็บอกว่าต้องย้าย

แล้วตอนไหนที่รู้สึกว่าเราจะอยู่โรงเรียนอินเตอร์ ?
ปันปัน : แม่สั่ง แม่บอกว่าย้ายไปเถอะลูก ย้ายกันหมด เพราะพี่ชายพี่สาวก็ไปด้วย

แล้วอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราโอเคอยู่โรงเรียนอินเตอร์ ?
ปันปัน : แม่จับย้ายก็ต้องย้าย ทำอะไรไม่ได้ โดนบูลลี่ไป 1 ปี ก็อยู่อย่างนั้นไป



แต่สุดท้ายก็ปรับตัวได้ ?
ปันปัน : พอเริ่มมีเพื่อน เริ่มมีอะไร จับจุดได้เราก็อยู่ของเรา คนบูลลี่เขาคงเบื่อแล้วมั้ง เขาเลิกบูลลี่ไปเอง

อยากจะบอกอะไรกับคนที่อยู่ในช่วงปรับตัว ?
ปันปัน : สมัยนั้น เฟซบุ๊กอะไรเริ่มมาแล้ว หนูก็โดนโซเชียลบูลลี่นะ เขาก็ขึ้นเฟซบุ๊กประมาณว่าอย่าไปยุ่งเลย อะไรประมาณนี้ แล้วพอเรายิ่งไม่สนใจ เขาก็จะเลิกบูลลี่เอง เหมือนให้เวลาผ่านไปสักพัก เราก็อย่าไปยุ่งกับเขา อย่าไปร้องไห้ อย่าทำให้เขารู้สึกว่าเราจะเป็นคนที่เขาจะบูลลี่ได้ตลอดไป

เราดูแลความรู้สึกเรายังไง ?
ปันปัน : กลับบ้านร้องไห้ บอกแม่ วันนี้เขามาดักที่หลังโรงเรียนนะก็โดน เล่าให้แม่ฟ้ง แม่ก็บอกไม่เป็นไรช่างมัน ให้ไปบอกครูไหม เราก็บอกไม่ต้องๆ แค่บอกให้แม่รู้แล้วกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น จริงๆ ถามว่าตอนนั้นแย่ไหม มันแย่ แต่ว่าพอเราได้คุยกับคนที่บ้าน ได้คุยกับผู้ใหญ่ ได้บอกให้เขารู้ แล้วเขารับรู้อย่างนี้ ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง แล้วเราก็เหมือนฮึบสู้ สู้ต่อไปแล้วมันก็ผ่านไปจริงๆ เหมือนคนก็จะเลิกยุ่งกับเราไป

แต่พอโตมาเราแสบมาก ปันปันเข้าวงการตอนอายุเท่าไหร่ ?
ปันปัน : เด็ก น่าจะประมาณ 4 ขวบ

แต่พอเป็นสาวทีมงานเขาตั้งฉายาเลยว่าเธอไม่ธรรมดามาก ?
ปันปัน : ฉายาตั้งแต่เด็กเลย ก็คือ ฉายา อีเด็กเปรต อันนี้หนูไปถามพี่เลี้ยงตัวเองที่พาไปแคสงานตอนเด็กๆ เราก็จะเจอช่างแต่งหน้า ช่างทำผมเยอะ แล้วปันเป็นคนซน อยู่ไม่นิ่ง พอไปแต่งหน้าก็จะดุกดิกตลอด กว่าเขาจะแต่งหน้าเสร็จต้องเอาคนมาจับหัว 3 คน ช่างแต่งหน้าก็จะเรียกว่า เด็กเปรตมาอีกแล้ว แต่เขาพูดเป็นมุกขำๆ แต่เหมือนหนูอาจจะจำฝังใจมา



ทีมงานบอกว่าร้อนก็ไม่ทน ?
ปันปัน : ร้อนนี่ไม่ต้องห่วงเลยตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ก็ไม่ทน ไม่ชอบอากาศร้อน

ถ้าถ่ายเอาต์ดอร์ละ ?
ปันปัน : ไม่ทนจริงๆ ตอนหลังต้องพกพัดลมส่วนตัวเหมือนใส่ที่คอ พอเบรกปุ๊บทุกคนจะเดินมามัดผมให้ปันเลยแล้วเอาพัดลมมาเป่า เพราะเหงื่อจะออกเยอะมาก แล้วจะร้อน เป็นคนขี้ร้อน

เวลาไม่ทนเราทำยังไง ทีมงานเขารอเราอยู่อย่างนี้ พี่หนูไม่ถ่ายแล้วนะ ?
ปันปัน : เด็กๆ เป็นอย่างนั้นเลย บอกจะให้ไปถ่ายข้างนอก บอกร้อนไม่ไปค่ะ อย่างนี้เลย

แล้วเขาทำยังไง ?
ปันปัน : เขาก็จะเอาพัดลมแอร์มาเป่าไปช่วยเราไม่ให้เราร้อน

ตอนนี้ถ่ายหนัง ถ่ายซีรีส์ต้องมีห้องแอร์ให้เรา ?
ปันปัน : ตอนนี้โอเค พอโตมาเริ่มโอเค โตขึ้นมาเริ่มเบาลง

สมัยก่อนร้อนมากคือเดินไปปิดไฟเลย ?
ปันปัน : เคยเหมือนกัน เหมือนพอแสงไฟมันสาด เด็กๆ หนูไม่รู้ ไม่ชอบหนูก็เดินไปปิดไฟ



เราเริ่มรู้ตัวเองเมื่อไหร่ว่าเราเป็นแบบนั้น ?
ปันปัน : พอเล่าคือหนูไม่ได้ทำจริงจัง ทำตลกๆ เหมือนเป็นเด็กซน เช่น เหมือนเรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง สมมติ ปันเห็นบันไดก็จะเดินไปปืนบันได มุดบันได เอาหัวไปติดบันไดเลย เป็นเด็กอยู่ไม่สุข ไม่นั่งเฉยๆ พอเบรกปุ๊บก็จะไปขี่คอคนนู้น คนนี้แล้วตอนเด็กๆ เป็นคนชอบตุ๊ด ช่างหน้า ช่างผมไง ก็จะเดินไปเล่น ไปกอดแขนเขา ไปเกาะเขาตลอดเวลา จนเขาแบบรำคาญเรา

แล้วปิดไฟนี่อะไรทำให้เราอยากปิดไฟ ?
ปันปัน : ทุกวันนี้หนูก็ปิดอยู่ แต่งหน้าอยู่ พอทุกคนแต่งหน้าเสร็จ หนูบอกว่าปิดไฟแล้วนะคะ หนูก็ปิดเลย มันแสบตา

แล้วที่ดึงสร้อยมุกขาดคืออะไร ?
ปันปัน : ตอนเด็กๆ มีงานหนึ่งที่เขาเอาสร้อยมุกที่มันรัดคอมากๆ มารัด แล้วเขาบอกว่าต้องใส่ หนูบอกว่ามันรัดมากเลย หนูก็อึดอัด หนูก็ดึงแล้วมันก็ขาดหมดเลย แล้วเป็นมุกแท้ด้วย หนูฉีกเลยตอนเด็กๆ พี่เขาก็กรี๊ดแล้วเก็บ เจ้าของสร้อยก็กรี๊ดอยู่ตรงนั้น

ตอนนี้คือเปลี่ยนหมดแล้ว ที่เล่ามามันเป็นอดีต ?
ปันปัน : ตั้งแต่เด็กจนถึง 10-12 แต่ตอนนี้อายุ 25 ปีแล้ว ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองนิ่งขึ้น

ถ้าไฟร้อนปิดไหม ?
ปันปัน : ทนได้ เอาพัดลมมาเป่าตัวเอง

แอร์ไม่มีในที่ถ่ายทำโอเคไหม ?
ปันปัน : เราก็เดินออกไปข้างนอก ไปพัด



อะไรที่ทำให้เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต ?
ปันปัน : เหมือนโตขึ้น แล้วพอเราเริ่มเรียนรู้ เริ่มทำงานกับคนเยอะขึ้น เราก็เข้าใจว่าการทำงานกับคนเยอะขึ้นเราจะมานึกถึงแต่ความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ เราก็ต้องคำนึงถึงคนอื่นบ้าง 10 ขวบก็เริ่มเข้าใจมากขึ้น เขาสั่งให้ทำอะไรก็ทำเด็กๆ นะ สมมติใครบอกว่าปันปันทำไม่ดี ทำไม่ได้ โกรธงอนนะ แล้วไม่ทำเลยนะ เลิกเลย ต้องบอกว่าดีแล้วนะ แต่ขออีกนิดนึง คือเป็นเด็กแบบนี้จริงๆ

แล้วถ้าตอนนี้เขาบอกว่าทำไม่ดี ทำไม่ได้ ?
ปันปัน : หนูขอใหม่ก็ได้ค่ะ

หลังๆ ปันปันลงรูปเซ็กซี่บ่อย พ่อ แม่ คุณแฟนว่ายังไง เขาห้ามไหม ?
ปันปัน : จริงๆ เวลาลงไปเราไม่ถามนะ คนแรกที่จะแคปมาคือแม่ แคปมาในกรุ๊ปครอบครัว ปันปันโป๊มาก สักพักพ่อจะตอบว่า อืม แต่หลังๆ เขาเลิกว่าแล้ว

ตอนแรกพอแม่บ่นเราก็ปล่อยไป ?
ปันปัน : หนูอ่านแล้วไม่ตอบ

แล้วแฟนล่ะ ?
ปันปัน : ไม่ว่า เป็นคนถ่าย

เพราะฉะนั้นคนที่ว่าในครอบครัวคือแม่ ?
ปันปัน : แม่จะชอบอ้างว่าเนี่ยพ่อโกรธมากเลยนะที่เธอลงรูปแบบนี้ แต่จริงๆ พ่อไม่โกรธ แม่เอาพ่อมาอ้าง

วันนี้เราโตเต็มที่แล้ว อยากบอกอะไรกับแม่ ?
ปันปัน : แม่มันก็มีบ้าง เวลาไปทะเลใส่ถ่ายรูป เราไม่ได้ใส่ตลอด เดี๋ยวเราก็เปลี่ยน



แน่นอนไม่ใช่ครอบครัว คนรักที่มอง คนอื่นก็จับจ้องเราเหมือนกัน ที่เขาจับจ้องเป็นพิเศษคืออะไร ?
ปันปัน : ก็ซูมรูป จ้องนู่น จ้องนี่ แต่ก่อนเราลงรูปก็จะส่งให้เพื่อนซูมก่อน เราต้องสแกนตรงนี้ให้ผ่าน

ชาวเน็ตจะมาโฟกัสที่หน้าอกของเรา เราติดไหมตรงนี้ ?
ปันปัน : ไม่ติดนะ ก็คิดว่าร่างกายเรา หุ่นเราเป็นแบบนี้ ก็ไม่โป๊ดี

ทีมงานบอกว่าอาจจะมีสิทธิ์ทำหน้าอกจริงไหม ?
ปันปัน : ไม่ทำๆ รู้สึกว่าโอเค ตอนนี้แฮปปี้ดีแล้ว หมายถึงแต่งตัวอะไรก็ดูไม่โป๊ หนูตัวขาวใส่อะไรมันจะดูโป๊ง่ายมากเลย สมมติว่าเราหน้าอกใหญ่ ก็จะดูโป๊ไปอีก ตอนนี้รู้สึกว่าเราใส่อะไรมาดูไม่ได้โป๊มาก

ที่เขาไดเร็กต์โชว์เพื่อนสนิทของเราด้วย...
ปันปัน : ไดเร็กต์ไอจีมันจะมีแรนด้อมบ้าง วันดีคืนดีหนูก็จะกดเข้าไปดู ส่งรูปอะไรมา หรือพิมพ์ข้อความอนาจารก็มี

หมายถึงส่งรูปอะไรมา ?
ปันปัน : เขาส่งมาให้เรา

อวัยวะเพศ ?
ปันปัน : มี เราก็บล็อก เห็นแล้ว ก็อู้แล้วบล็อกทิ้ง

มีอะไรน่ากลัวไหม ?
ปันปัน : มีเยอะมาก แบบอยากเลียจังเลย เราก็จะเห็นมันมีคนที่คุยกับตัวเองได้เนอะ หลังๆ หนูเข้าไปอ่านมันตลกดีเขาพิมพ์คนเดียวตอบคนเดียว หนูก็เอ็นดู สงสารปล่อยเขาพิมพ์ไป มันอาจจะเป็นความสุขของเขาก็ได้

แล้วอันไหนที่เรารู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องดำเนินการทางกฎหมาย ?
ปันปัน : ไม่มีเลย รู้สึกว่าปล่อยเขาไป ไม่เป็นไรหรอก เราเป็นคนของสังคม เราเอาตัวมาอยู่ตรงนี้ ต้องมีอยู่แล้ว เราจะไปฟ้องทุกคนก็ไม่ได้



คลิปสัมภาษณ์ ปันปัน สุทัตตา
https://youtu.be/PAoIg4Q2Kyo