"สมัคร"จ่อยื่นใบลาออก ส.ส. 14 ธ.ค. พร้อมเข้าสังกัด ภท.ลงเลือกตั้ง ส.ส.อุบลราชธานี เขต 7
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ยืนยันต่อการเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ว่า ในวันที่ 14 ธ.ค. ตนจะยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. กับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และมีให้ผลในวันที่ 15 ธ.ค. จากนั้นในวันที่ 16 ธ.ค. ตนจะไปร่วมงานเปิดที่ทำการพรรคภูมิใจไทย (ภท.ป พร้อมกับสมัครเป็นสมาชิกพรรค
นายสมัคร กล่าวต่อว่า สำหรับการสังกัดพรรคภูมิใจไทยนั้นตนเสนอตัวที่จะลงสมัครเป็น ส.ส. พื้นที่ จ.อบุบลราชธานี เขต7 ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านเกิด ทั้งนี้ยอมรับว่าการคัดสรรผู้สมัครนั้นต้องเป็นไปตามกติกาของพรรคและคณะกรรมการ เบื้องต้นตนทราบว่ามีผู้ที่จะเสนอตตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี เขต7 อีก 1 คน คือ นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีตผู้สมัครส.ส.อุบลราชธานี พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งปัจจุบันสังกัดพรรคสร้างอนาคตไทย อย่างไรก็ดีตนเคยแจ้งเรื่องนี้กับพรรคไปเมื่อ 1-2ปีที่แล้ว แต่หากพรรคที่มีขั้นตอนคัดเลือก เช่น ทำโพล หากตนแพ้ว่าที่ผู้สมัครอีกคน ไม่เป็นปัญหา และพร้อมอยู่ในผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่เบื้องต้นตนมั่นใจในพื้นที่ เมื่อถามถึงกรณีที่ไม่ร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนาต่อ นายสมัคร กล่าวว่า เพราะพรรคไม่สนับสนุนตน อย่างไรก็ดี ในวันที่ 14 ธ.ค. ตนจะแจ้งกับผู้ใหญ่ในพรรคอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
เมื่อถามว่าทำไมถึงไม่อยู่เป็น ส.ส.ต่อเพื่อช่วยผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ของพรรคภูมิใจไทย นายสมัคร กล่าวว่า ยอมรับว่าร่างกฎหมายที่ค้างในสภาฯ จะเดินหน้าไม่สำเร็จ เพราะเล่นแต่เกมการเมือง คงไม่สามารถผ่านได้ และแม้จะผ่านสภาฯ ต้องเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาอีกซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวไม่สามารถผลักดันได้ทันในสภาฯชุดปัจจุบัน งานในสภาฯ คงเป็นแค่การซื้อเวลาของส.ส.ที่รอวันเลือกตั้งหรือย้ายพรรค โดยร่างกฎหมายกัญชา แม้จะไม่สำเร็จในสภาชุดปัจจุบัน ยังสามารถนำไปหาเสียง ถือว่าเป็นมรดกที่นำไปขายได้
นายสมัคร กล่าวว่า ตนไม่ใช่งูเห่า อย่างที่ส.ส.หลายพรรคกล่าวหา โดยเหตุผลที่ตนย้ายจากพรรคอนาคตใหม่ เพราะพรรคถูกยุบและก่อนหน้าที่สังกัดพรรคอนาคตใหม่เพราะไม่มีนโยบายที่เกี่ยวกับสถาบัน ส่วนกรณีที่ ส.ส.ที่มีตำแหน่งใหญ่กล่าวหาตน บางครั้งตนอยากตอบโต้เหมือนกันว่า ตนเป็นส.ส.แบบเขต เป็นผู้แทนของประชาชน และไม่ได้ตำแหน่งส.ส.เพราะกระแส ทั้งนี้คนที่กล่าวว่าตนเป็นงูเห่า แม้จะมีตำแหน่งใหญ่ แต่หน้าที่ของเขาเปรียบเหมือนเป็นภารโรงพรรคเท่านั้น