โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติยกไทยเป็นผู้นำรับมือโรคเอดส์ระดับโลก

2022-12-12 18:48:46

โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติยกไทยเป็นผู้นำรับมือโรคเอดส์ระดับโลก

Advertisement

รองโฆษกรัฐบาลเผยโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติยกไทยเป็นผู้นำรับมือโรคเอดส์ระดับโลก เป็นประเทศแรกของเอเชีย-แปซิฟิกที่ขจัดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 65 โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) ได้เผยแพร่เอกสารข่าวถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 51 (UNAIDS Programme Coordinating Board Meeting : UNAIDS PCB) ระหว่างวันที่ 13-16 ธ.ค. 65 นี้ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ UNAIDS PCB จะจัดประชุมนอกนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในรอบ 14  UNAIDS ระบุว่าการประชุมของคณะกรรมการฯ ที่ประเทศไทยครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการประชุมนอกนครเจนีวา สวิสต์เซอร์แลนด์ในรอบ 14 ปี และยังเป็นครั้งที่2 ที่จัดประชุมขึ้นที่เชียงใหม่ ซึ่งครั้งแรกจัดเมื่อปี 2551 มีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นประธานการประชุม ในฐานะรมว.สาธารณสุขของประเทศไทยในขณะนั้น ส่วนการประชุมระหว่างวันที่ 13-16 ธ.ค.นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จะเป็นประธานการประชุม

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า UNAIDS ได้ชื่นชมประเทศไทยที่สามารถเป็นผู้นำด้านการรับมือโรคเอดส์ระดับโลก ด้วยการเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าอย่างมากในการยุติการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV เป็นตัวอย่างสำหรับประเทศต่างๆ ในการแปลงเจตจำนงที่ทุกประเทศได้ให้ร่วมกันประกาศไว้ภายใต้โครงการว่าด้วยเรื่องเอดส์ของสหประชาชาติไปสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง และการเป็นเจ้าภาพประชุม UNAIDS PCB ของไทยจะช่วยรักษาแรงผลักดันประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการปฏิบัติตามพันธสัญญาที่ทำโดยประชาคมต่างๆ  นอกจากนี้ UNAIDS ได้เผยแพร่เกี่ยวกับความสำเร็จในการการตอบสนองต่อสถานการณ์ HIV ของไทย ว่า ณ ปี 2564 มีผู้ติดเชื้อประมาณ 520,000 คน โดยไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากในการต่อต้านโรคเอดส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจรักษาและช่วยชีวิตผู้ติดเชื้อ เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ได้รับการรับรองว่าขจัดการแพร่เชื้อ HIV จากแม่สู่ลูกได้ในปี 2559 และขณะนี้ได้ยังได้เข้าร่วมกับพันธมิตรระดับโลก(Global Partnership) เพื่อขจัดการตีตราและการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับ HIV ในทุกรูปแบบ โดยตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมาประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ลดลงเกือบ2ใน3 ของอดีต หรือลดลงราวร้อยละ 65 ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงร้อยละ58 และข้อมูล ณ ปี 2564 พบว่าประมาณร้อยละ 94 ของผู้ติดเชื้อ HIV ในประเทศไทยทราบสถานะของตนเอง ร้อยละ 91 ของผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยอยู่ในระหว่างการรักษา และ 97% ของผู้ที่ได้รับการรักษาประสบความสำเร็จในการยับยั้งไวรัส

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า UNAIDS ยังชื่นชมไทยในประเด็นการเป็นผู้นำในการบูรณาการบริการ HIV เข้ากับโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งกลายเป็นกลไกที่ตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหา HIV ที่ยั่งยืน ซึ่งแนวปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จของประเทศไทยจะได้รับการเผยแพร่ และเรียนรู้โดยประเทศสมาชิกUNAIDS 22 ประเทศ หน่วยงานผู้สนับสนุน และภาคประชาสังคม หรือ NGOs ตลอดจนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเอดส์จากทั่วโลกที่จะเข้าร่วมการประชุม UNAIDS PCB ที่ประเทศไทยในกลางเดือนธ.ค. 65 นี้

ทั้งนี้ UNAIDS เป็นองค์กรภายใต้องค์การสหประชาชาติ หรือ UN มีภารกิจขับเคลื่อนให้ทั่วบรรลุวิสัยทัศน์ร่วมกันในการลดการติดเชื้อ HIV ใหม่เป็นศูนย์ การเลือกปฏิบัติเป็นศูนย์ และการเสียชีวิตจากโรคเอดส์เป็นศูนย์ด้วยความร่วมมือกับองค์กรอื่นๆของ UN อาทิ UNHCR, UNICEF, WFP, UNDP, UNFPA, UNODC, UN Women, ILO, UNESCO, องค์การอนามัยโลก(WHO) และธนาคารโลก มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรระดับโลกและระดับชาติเพื่อยุติการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ภายในปี 2573