ก่อนโด่งดังชีวิตติดลบ 13 ล้าน "โตนนท์" ลำบากถึงขั้นแบ่งมาม่ากับแม่กิน !!

2022-12-07 11:40:43

ก่อนโด่งดังชีวิตติดลบ 13 ล้าน "โตนนท์" ลำบากถึงขั้นแบ่งมาม่ากับแม่กิน !!

Advertisement

ก่อนโด่งดังชีวิตติดลบ 13 ล้าน "โตนนท์" ลำบากถึงขั้นแบ่งมาม่ากับแม่กิน !! ย้อนอดีตช่วงพีคมากเคยหลงตัวเอง ใช้เงินวันละล้าน ? พร้อมเคลียร์ข่าวเมาท์ตอนนี้เป็นดาราตกอับจริงไหม ?



อดีตพระเอกดาวรุ่งช่องมากสี "โตนนท์ วงศ์บุญ" เปิดใจเคลียร์ข่าวเมาท์เป็นนักแสดงตกอับ หลังตัดสินใจออกมาเป็นนักแสดงอิสระแล้วไม่เปรี้ยง พร้อมย้อนเล่าจุดสูงสุดหลงตัวเองหนักมาก ใช้เงินซื้อของเกือบล้านบาท ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow




ตอนนี้ออกมาเป็นอิสระ ออกมาดูแลตัวเอง ทำไมถึงตัดสินใจออกมา ?
บอส : ที่ออกมาเป็นอิสระ ตอนช่วงที่เราอยู่สังกัดเก่าค่อนข้างจะรับงานเยอะ แล้วเจอเรื่องนู่นนี่นั่น มันทำให้เราเกิดความรู้สึกอึดอัด อยากจะลองอะไรใหม่ๆ ทำอะไรใหม่ๆ



เรื่องนู่นนี่นั่น หมายถึงละครยากใช่ไหม ?
บอส : ช่วงนั้นทางต้นสังกัดเขาให้งานเยอะ เยอะมาก เยอะจนไม่ได้พักเลยครับ 3 เดือน 6 เดือน ถ่ายละครทุกวัน อัดให้ๆ เราเลยรู้สึกว่ามันอยู่ตัว มันอิ่ม เมื่อก่อนถ่ายทีนึงข้ามไปอีกวันก็มี

เพราะเราดัง มีชื่อเสียง เป็นที่ต้องการของคนทั้งประเทศหรือเปล่า เขาถึงอัดให้ขนาดนั้น ?
บอส : ผมว่าน่าจะเป็นช่วงมากกว่า ช่วงไหนมาเขาก็จะอัดงานให้เด็กคนนั้น ป้อนงานให้ เพราะจะให้เป็นที่รู้จัก

แต่วันนึงรู้สึกอิ่มตัวกับตรงนี้ ?


บอส : มันเป็นความติสต์ของผมมากกว่า เราทำงานเยอะแล้วอยากจะพักบ้าง



ได้ถามเพื่อน ถามผู้ใหญ่ ถามครอบครัวไหม ?
บอส : ไม่ได้ถามครับ เราเข้าไปที่ช่องตอนที่หมดสัญญา ผู้ใหญ่เขาบอกว่า จะเอายังไง จะเป็นอิสระหรือจะยังไง ซึ่งเขาให้ละครมาก่อนเรื่องนึง แต่เราปฏิเสธ



เราสามารถบอกเขาเหลือ 2 เรื่องอย่างนี้ได้ไหม ?
บอส : ตอนนั้นไม่ได้คิดครับ เด็กด้วย ช่วงที่เราเป็นวัยรุ่น เราหลงตัว คิดว่าตัวเองเก่ง เลือกได้ เราก็เลยขอหยุดดีกว่าพัก

ถ้าสมมติย้อนกลับไปบอกตัวเองได้ตอนนี้เลย เมื่อตอนนั้นที่เราฟุ้งหน่อย เรายังจะเลือกเป็นอิสระไหม ?
บอส : ผมว่า ณ เวลาตอนนั้น เราคิดดีแล้ว ถ้าเกิดตอนนั้นเราทำอีกแบบผลที่เป็นปัจจุบันอาจจะเป็นอีกแบบหนึ่งก็ได้ ถ้าย้อนกลับไปผมก็อาจจะเลือกเหมือนเดิม

ที่เราถ่ายละครเหนื่อยๆ แบบนั้นทั้งหมดกี่ปี ?
บอส : เต็มสัญญา 7 ปี ยาวเลยครับ ต้องขอบคุณทางช่องเก่าที่ให้โอกาสเราเยอะมากครับ ถ้าไม่มีช่อง7 ก็ไม่มีผมวันนี้





เป็นนักแสดงอิสระมา 5 ปี คนก็เมาท์กันว่าเป็นนักแสดงตกอับ ออกมาแล้วไม่เปรี้ยง ไม่มีงาน อยากจะบอกว่าไง ?
บอส : ที่เขาบอกว่าไม่เปรี้ยงเนี่ย เหมือนเราไม่ได้เป็นตัวหลักมากกว่า เราไม่ได้เป็นพระเอกเหมือนเมื่อก่อนมากกว่าเราเลือกที่จะออกมารับบทอย่างอื่น เล่นร้าย มีงานหนึ่งเล่นเป็นพ่อแล้วก็มี คือเราอยากลอง จากเมื่อก่อนเราเล่นบนพระเอก เราเล่นจนมันชินแล้ว เป็นคนดี แต่พอวันหนึ่งเราได้เล่นเป็นตัวร้าย คือมันยาก

เป็นพระเอกติดกันมา 7 ปี เบื่อไหม ?
บอส : ณ เวลานั้นไม่เบื่อครับ ด้วยความที่มันพราวด์ เราเป็นพระเอก ทำอะไรก็ได้ แต่พอวันหนึ่งเราเริ่มเห็นคน เริ่มเห็นสังคม เห็นอะไรหลายๆ อย่าง ทำให้เราคิดว่าบางทีเราอาจจะหลง เราอาจจะผิดทาง เรารู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเรา

รู้ได้ด้วยตัวเอง ?
บอส : ครับ มันค่อยๆ มา

นั่นคือหลายๆ คนพูดว่าเราเป็นดาราตกอับ แต่ที่เราเสียใจคือมีคนในวงการพูดด้วย ?
บอส : เหมือนห้องแต่งตัว แล้วก็นั่ง เดินเข้า เดินออก มีคนพูด เข้าไปก็ได้ยินพอดี เราก็นั่งข้างหลังใส่แมสก์

พูดว่าอะไร ?
บอส : เขาบอก นี่เหรอโตนนท์ ดาราตกอับแล้ว เราได้ยิน เพราะเรานั่งใส่แมสก์อยู่ข้างหลัง



คนนี้เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่หรือยัง ?
บอส : ไม่ครับ

เป็นนักแสดงใหม่ ?
บอส : ใช่ครับ

แล้วเราตอบว่า ?
บอส : ไม่ตอบครับ เขาก็มีสิทธิ์ มันก็เป็นเรื่องจริงในส่วนหนึ่งที่เขาพูด เขาก็มีสิทธิ์ที่จะคิดของเขา เรารู้ตัวเราดีกว่า เราเอาคำที่เขาว่ามา...ไม่เอาแล้ว หางานทำดีกว่า

โกรธไหม ?
บอส : มันก็มีความรู้สึกครับ แต่ก็คิดว่าพูดจริง เอาคำพูดเขามาเป็นแรงผลักดันเรา เดี๋ยวจะกลับมานะ

ถ้าเขาดูอยู่อยากจะบอกอะไรเขา ?
บอส : ขอบคุณครับ บางทีถ้าเราโดนด่ามา หรือว่าเราโดนพูดอะไรไม่ดี เราเอาคำพวกนั้น แทนที่จะเอามาใส่หัวเราทำให้เรารู้สึกแย่ มันก็จะแย่กับตัวเรา เอาคำพูดตรงนั้นมาเป็นแรงผลักดัน เหมือนเราจะแบบ พอแล้ว จะเลิก ไม่เอาแล้ว จะไม่ทำแล้ว กลายเป็นว่าคนพูดแบบนั้นทำให้เรากลับมาได้ เดี๋ยวเจอกัน

คิดว่าค้นพบสัจธรรมจากประโยคนี้ ?
บอส : ค้นพบครับ ทุกวงการแหละ มันมีคนที่ดีกับเรา หวังดีกับเราจริงๆ แต่เขาไม่ได้แสดงออกว่าดี เขาอาจจะดึเรา ด่าเรา หรือพูดไม่ดี แต่บางคนพูดดีกับเรา แต่ลึกๆ แล้วไม่ดีก็มีครับ



บอสบอกว่ามีช่วงติสต์ของบอสด้วย มันติสต์ขนาดไหน ?
บอส : มันก็เลือก ด้วยความที่เรารู้สึกเป็นพระเอก เลือกได้ อยากทำ อันนี้ไม่เอา อยากเลิกก็พอหยุด บางทีเขาให้ละครมา ไม่เอาไม่เล่น

ไม่รับงาน 1 ปีเลยเหรอ ?
บอส : มันจะมีอยู่ช่วงหนึ่งก่อนออก รู้สึกว่าตัวเรา อย่างที่มีข่าว เราเริ่มผอม คล้ำ เป็นโรคหรือเปล่า ไปทำอะไรมา ก็เลยรู้สึกว่าอยากพักก่อน อยากพักเรื่องความคิด อยากพักเรื่องสุขภาพร่างกายเราด้วย ขอหยุดแบบไม่ทำอะไรเลยปีนึง

1 ปีนั้นเรียกว่าเป็นช่วงเวลาความติสต์ของเราได้ไหม ?
บอส : ผมเรียกว่าช่วงเวลาตกผลึกดีกว่า

ตอนนี้เราเลิกติสต์หรือยัง ?
บอส : เลิกแล้วครับ เจอโควิดเข้าไปติสต์ไม่ออกเลยครับ คือก่อนที่จะโควิดเราเก็บเงินไว้ก้อนหนึ่ง กะจะลองทำอย่างอื่นบ้าง แต่พอโควิดเข้า เราคงทำไม่ได้แล้วล่ะ เอาเงินตรงนั้นเป็นค่าใช้จ่ายอย่างอื่นด้วย



ความลำบากก่อนเข้าวงการ ลำบากบาก หนึ่งในสาเหตุคือคุณพ่อเสีย ?
บอส : ครับ ตอนนั้นผมอายุ 15 ปี

พ่อเสียเพราะอะไร ?
บอส : มอเตอร์ไซค์ล้มครับ แกเป็นความดันแล้วแกดื่มแอลกอฮอล์ ยังไงไม่รู้แกขี่มอเตอร์ไซค์แล้วความดันขึ้น แล้วก็ล้ม แล้วไปที่โรงพยาบาล ยังโทร.มาหาผมอยู่เลยนะ แต่พอเราไปถึงโรงพยาบาลเขาปั๊มหัวใจแล้ว เราเข้าไปเห็นเลยว่าพ่อโดนปั๊ม

เราถึงโรงพยาบาลแล้วยังโทร.มาหา ?
บอส : ใช่ บอกว่ามารับหน่อย เราก็คิดว่าไม่เป็นไร

พอไปถึงช็อกไหม ?
บอส : ช็อก ภาพเดียวที่ผมจำได้คือเขาปั๊มหัวใจพ่ออยู่ เราเห็นรองเท้า แล้วเอารองเท้ามานั่งกอดอยู่หน้าห้อง

วันนั้นหมอบอกว่า ?
บอส : หมอบอกว่าไม่ฟื้นแล้วล่ะ จะให้ปั๊มต่อไหม

แล้วเราเป็นคนตัดสินใจเหรอ ?
บอส : ตอนนั้นช็อกแล้วครับ ทำอะไรไม่ถูกเลย ร้องไห้ ด้วยความที่เราเด็กด้วย ไม่รู้จะทำยังไง

แล้วใครเป็นคนเคาะว่าปล่อยพ่อไป ?
บอส : ไม่มีใครปล่อยครับ คือเราเห็นสภาพเลยว่าเขาไม่อยู่แล้ว



หลังจากวันนั้นชีวิตเปลี่ยนไปเยอะแค่ไหน ?
บอส : เปลี่ยนเลยครับ จากที่เมื่อก่อนพ่อหาเงินได้เยอะ เพราะเขาทำงานเร่งรัดหนี้สิน แล้วช่วงหลังจากต้มยำกุ้งผ่านมาคนเป็นหนี้สินเยอะ เขาได้เงินมาเยอะ ดูแลครอบครัวได้ดีในระดับหนึ่งเลย พอวันหนึ่งเสาหลักล้ม แม่ที่ไม่เคยทำงานก็ต้องออกมาทำงาน แล้วก็มีหนี้ ก่อนที่เขาจะเสียเขากู้เงินมาก้อนหนึ่ง เพื่อไปสร้างบ้าน

หนี้ 13 ล้านใช่ไหม ?
บอส : ครับ เยอะมาก ตอนนั้นหลักร้อยยังหาไม่ได้เลย

แล้วเกิดอะไรขึ้น บรรยากาศในบ้านเป็นยังไง ?
บอส : มันเคว้งคว้างไปหมดเลย เราไม่รู้จะทำยังไง เราไม่รู้จะเริ่มชีวิตยังไง ปกติเลิกเรียน กลับบ้านขอเงินแม่ ขอเงินพ่อไปเล่นเกม พอวันหนึ่งเราไม่มีคนสอน คนชี้นำ เราไม่รู้จะทำอะไรเลย ทำอะไรไม่ได้

เห็นว่ามันแย่ขนาดที่ว่ามาม่าห่อหนึ่งต้องแบ่งกัน ?
บอส : เอาผักกาดมาหั่น ใส่น้ำปลา เอาเข้าไมรโคเวฟกินกับข้าว บางทีมีมาม่าก็แบ่งกิน 2 คน

อันนี้คือส่วนหนึ่งของ 13 ล้านที่กู้ไปใช่ไหม ?
บอส : ด้วยครับ หลายๆ คนจะบอกว่าเราเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่ตอนนั้นผมเป็นลบ 13 หนักเลย