รมว.เกษตรและสหกรณ์สั่งอธิบดีกรมชลประทานลงใต้เร่งระบายน้ำท่วมออกทะเลโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.65 นายฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ได้สั่งการให้อธิบดี และผู้บริหารกรมชลประทาน ลงไปอยู่ในพื้นที่ภาคใต้เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง พร้อมกับระดมเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ เร่งสูบออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังลงทะเลโดยเร็วโดยให้นโยบายว่าต้องช่วยดูแลแก้ไขสถานการณ์บรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชนและเกษตรกร ให้เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน
รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังมีปรากฏการณ์ลานินญ่าที่มีอิทธิพลตั้งแต่ต้นปีส่งผลให้ประเทศไทยทั่วประเทศมีฝนเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ จากค่าเฉลี่ย 30 ปีของกรมอุตุนิยมวิทยา และโดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีปริมาณฝนตกเพิ่มขึ้น 34 เปอร์เซ็นต์ ฝั่งตะวันตก 20เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ได้เน้นย้ำติดตามสถานการณ์น้ำ และเฝ้าระวังการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่2แห่ง คือเขื่อนรัชชประภา เขื่อนบางลาง และเขื่อนขนาดกลาง 42 แห่ง เนื่องจากมีเขื่อนหลายแห่งมีน้ำเกิน 80เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องดูเกณฑ์การกักเก็บน้ำเขื่อน(Rule Curve)และการระบายน้ำออกเพื่อรองรับฝนระลอกใหม่ อย่างสมดุลกันไม่เกิดผลกระทบกับพื้นที่ท้ายน้ำ พร้อมกับต้องจัดการน้ำต้นทุนควบคู่กันไปด้วยโดยคำนึงถึงการเก็บน้ำไว้เพื่ออุปโภค บริโภค การเกษตร ช่วงหน้าฤดูแล้งอย่างพอเพียงด้วย
นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่าฤดูฝนนี้ยังมีต่อเนื่องตลอดเดือนธันวาคม จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพราะมีปริมาณฝนตกเพิ่มมากขึ้น อาทิ ที่ อ.ประทิว จ.ชุมพร มีปริมาณฝนตกสูงสุด 118 มิลลิเมตร อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ปริมาณฝนตกสูงสุด 116 มิลลิเมตร โดยกรมอุตุนิยมวิทยาได้ติดตามสภาพอากาศ ยังไม่พบการก่อตัวของพายุ และสั่งการให้ผู้บริหารทุกกรมทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ ลงพื้นที่เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเป็นข้อสั่งการด่วนให้เข้าช่วยเหลือแก้ไขความเดือดร้อนเฉพาะหน้าได้ก่อน ไม่ต้องรอหลังน้ำลด ซึ่งทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมทำงานร่วมกับท้องถิ่นตลอด 24 ชม.