ไม่โกรธนะแม่แต่ต้องฟ้อง "เอ็ม นันทวัฒน์" ยันรัก "ม้า อรนภา" ราวกับมารดา !! 
ไม่ควรมีใครถูกทำร้าย "เอ็ม นันทวัฒน์" มุ่งมั่นดำเนินคดี "ม้า อรนภา" ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ยันรักเหมือนมารดา รับหลังถูกตบโมโหมาก ลั่นพ่อแม่ยังไม่เคยทำแบบนี้ เผยขอโทษขอโพยเคลียร์ใจทั้งสองฝ่ายแล้ว ยอมไปกินปูทีหลังเพราะเห็นใจที่ "ม้า" ร้องไห้ ส่วนที่ไม่ยอมเผชิญหน้า เพราะกลัวใจอ่อน คุมอารมณ์ไม่ได้ แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมด
จากกรณีของ "เอ็ม นันทวัฒน์" นักแสดงหนุ่มที่ถูก "ม้า อรนภา" ตบหน้ากลางห้างที่เกาหลีใต้ จนเป็นข่าวโด่งดัง ทั้งนี้หลังจาก "ม้า อรนภา" ได้ออกมาแถลงชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นในมุมของตัวเอง พร้อมยอมรับผิดไปแล้ว ก็ถึงด้านผู้เสียหายต้องออกมาพูดในมุมของตัวเองบ้าง
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.65) เอ็ม นันทวัฒน์ ที่เพิ่งกลับมาจากเกาหลีใต้ ก็ได้มาเปิดใจในรายการคุยแซ่บโชว์ พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทุกประเด็น โดยเอ็มเล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนเองจะไปโซลทาวเวอร์ แต่ระหว่างทาง พี่ม้าบอกว่าได้วางแผนไว้แล้ว (หมายถึงที่นัดร้านปูไว้) ซึ่งตนเองก็บอกกลับไปว่า ตนเองยังอิ่มอยู่ เลยปฏิเสธไป ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ตามปรากฏในคลิปวงจรปิด
ส่วนประเด็นว่าถูกแตะ หรือถูกตบนั้น เอ็ม ระบุว่า คนทำอาจจะรู้สึกว่า แตะ แต่คนโดนอย่างตนเอง รู้สึกว่าตบ ยอมรับว่ารู้สึกเจ็บ และรู้สึกโมโห จึงบอกว่า ทำกับผมแบบนี้ไม่ได้นะ ขนาดพ่อกับแม่ยังไม่ทำแบบนี้ ซึ่งหลังจากนั้น พี่ม้า ก็ขอโทษตนก่อนเรื่องที่ตบ และร้องไห้ทำให้รู้สึกเห็นใจ ตนเห็นแบบนั้นก็ขอโทษเหมือนกัน หลังจากเคลียร์กันที่เมียงดงนานกว่า 1 ชั่วโมง ก็ยอมไปกินปู
ตอนนั้นหลังเคลียร์กันแล้ว กลับมาที่พักตนก็มานั่งคิด และก็ยังรู้สึกว่า ทำอะไรไม่ดี ถึงโดนตบหน้า แล้วพอโทรศัพท์เล่าให้แม่ฟัง แล้วก็คิดว่า อีก 7-8 วันที่เหลือจะเป็นยังไงต่อไป เลยตัดสินใจเอาตัวเองออกไปห่างๆ จากพี่ม้า โดยย้ายออกไปโรงแรมอื่น 1 คืน และย้ายกลับมาที่โรงแรมเดิมอีกครั้ง แต่ย้ายไปชั้น 13 ส่วนพี่ม้า อยู่ชั้น 4 จากนั้นเช้าวันถัดมาก็ไปทำจมูก ซึ่งได้เจอกับพี่ม้า แต่พูดคุยกันน้อยลง
เอ็มบอกว่าแม้จะเคลียร์กันแล้ว แต่ในใจตนเองก็ยังรู้สึกอยู่ ตอนนั้นอยากได้หลักฐานว่า โดนตบจริง ไม่คิดว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง แค่ต้องการภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ไม่สามารถขอดูได้ ต้องไปแจ้งความ จึงตัดสินใจแจ้งความ เมื่อตัดสินใจแล้วว่า จะแจ้งความ จึงได้ส่งข้อความไปปรึกษาทนายความหลายคน โดยถามว่าถ้าโดนทำร้ายร่างกายที่เกาหลี ด้วยการถูกตบจะทำยังไงได้บ้าง โดยตนไม่ได้บอกว่า คู่กรณีคือ ม้า อรนภา ก็ไม่มีใครตอบเลย แต่มีทนายท่านหนึ่ง ตอบมายาวมาก ตนเลยบอกกับผู้จัดการส่วนตัวว่า ผมจะได้ทนายแล้ว
ในวันที่ไปแจ้งความ ทางตำรวจเกาหลีได้ถามว่า รู้จักชื่อหรือเลขพาสปอร์ตของคนที่ก่อเหตุไหม แต่ตนเองใจอ่อนไม่อยากให้พี่ม้าถูกจับ จึงตัดสินใจบ่ายเบี่ยงไม่บอกไป ซึ่งทางตำรวจเกาหลีแนะนำว่า ให้ตนนำเอกสารแจ้งความ พร้อมกับคลิปวงจรปิดไปแจ้งความที่ประเทศไทย ก็จะสามารถดำเนินการได้ พร้อมกับให้เซ็นว่าเอกสารฉบับนี้จะต้องนำไปใช้ที่ไทยเท่านั้น
ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้เข้าแจ้งความที่ประเทศไทย ขอปรึกษาทนายความก่อน เพราะตนไม่รู้กฎหมาย แต่ยืนยันว่าดำเนินการฟ้องต่อแน่นอน เพราะอยากให้เป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ว่าใครจะตบก็ได้
ส่วนเหตุที่ยังไม่ยอมเผชิญหน้ากับม้า อรนภา จากตอนแรกทางรายการติดต่อทั้งสองคนไปออกรายการพร้อมกัน แต่เอ็มบอกว่ายังไม่อยากเผชิญหน้า พี่ม้าก็เลยไม่ไปออกนั้น เอ็มก็บอกว่าเพราะกลัวตัวเองจะใจอ่อน และตัวเองก็เป็นน้องใหม่ในวงการ กลัวจะคุมอารมณ์ไม่ได้
ส่วนกรณีที่ทนายตั้ม ออกมาบอกว่า เอ็มไปพูดในคลับเฮ้าท์เพื่อปกป้องม้า อรนภา ทำให้สังคมมองว่า เอ็มพูดกลับไปกลับมา ทางทนายตั้มจึงขอถอนตัวไม่ทำคดีต่อนั้น เอ็มแจงว่า หลังจากกลับมาจากเกาหลียังไม่ได้คุยกับทนายตั้มเลย แต่ยอมรับว่าเป็นคนส่งข้อมูล คลิป เอกสารทุกอย่างให้เพื่อปรึกษาแนวทางของกฎหมาย แต่ตนเองยังไม่ได้เห็นข่าวที่ทนายตั้มพูดถึง