หน้าแหกโป๊ะแตกกลางรายการ สาวอ้างตัวเป็นเน็ตไอดอล พูดได้ 8 ภาษา เจอพิธีกรถามง่ายๆ กลับไปไม่เป็น 
ถาม How old are you ? กลับตอบ I am fine. พอถามต่อบอกได้แค่นี้ค่ะ อ้าวๆๆ แบบนี้พูดได้ 8 ภาษาจริงๆ เหรอคะ !! “จี“ (นามสมมติ) หญิงวัย 27 ปี ไปร้องมูลนิธิปวีณาฯ ว่าถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย จีบอกว่าเธอเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เมื่อกันยายน 2564 เธอรู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งผ่านทางเฟซบุ๊ก เขาชื่อ “ไดกิ้น” (นามสมมติ) อายุ 27 ปีเท่ากันทั้งสองตกลงคบหาเป็นแฟนกัน แต่ฝ่ายชายไม่ยอมทำงานและชอบขอเงินเธอใช้ ถ้าไม่ให้ก็ถูกซ้อม จีบันทึกไว้ว่าถูกแฟนทำร้ายร่างกายถึง 18 ครั้ง ครั้งที่หนักที่สุดคือเมื่อกุมภาพันธ์ 2565 จีถูกทำร้ายจนสลบ พ่อจึงพาจีไปแจ้งความดำเนินคดี ไดกิ้นถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 4 เดือน แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี และติดกำไล EM
หลังจากนั้น "ไดกิ้น" มาขอคืนดีและสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายจีอีก จีก็ใจอ่อนและไปแถลงต่อศาลขอให้ถอดกำไล EM ก่อนกำหนดแต่หลังจากนั้นไม่นานไดกิ้นก็ทำร้ายร่างกายเธออีก จีบอกว่าเธอตั้งท้อง 3 เดือนแต่ถูกเขาทำร้ายเหมือนตั้งใจให้แท้ง แล้วยังส่งข้อความมาข่มขู่ เธอจึงไปแจ้งความและมาร้องมูลนิธิปวีณาฯ ต่อมารายการ “ถกไม่เถียง” ของ “ทิน โชคกมลกิจ” ได้เชิญจี, แม่ของจี และไดกิ้นมาออกรายการ ไดกิ้นยอมรับว่าทำร้ายร่างกายจีจริงแต่ไม่ถึง 18 ครั้ง แต่ตอนนั้นเขาสารภาพเพราะจีแนะนำว่าให้ยอมรับจะได้ติดคุกไม่นาน
"ไดกิ้น" อ้างว่าเขาทำร้ายจีเพราะโกรธที่เธอหลอกเอาเงินและทรัพย์สินของเขาไปรวม 5 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินมรดกที่พ่อทิ้งไว้ให้ และยังหลอกให้เขาเอามอเตอร์ไซค์กับโทรศัพท์ไปจำนำ อ้างว่าจะเอาไปเทรดหุ้นแล้วได้เงินปันผล แต่เขาพบว่าจีไม่ได้นำเงินไปเทรดหุ้นจริง และไม่คืนเงินเขาแม้แต่บาทเดียว ไดกิ้นบอกว่าจีไม่ได้หลอกเขาคนเดียวแต่หลอกอีกหลายคน เคยมีผู้เสียหายทักมาหาเขาหลายราย โดยจีอ้างว่ามีรถหรู มีคฤหาสน์ เป็นเน็ตไอดอลและอินฟลูเอนเซอร์ ทั้งที่ความจริงไม่มีงานทำ แต่ใช้วาทศิลป์พูดสร้างโปรไฟล์ให้คนหลงเชื่อ และจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่หยุดโกง
จากนั้นคู่กรณีอีกคนก็ผุดขึ้นมา เป็นชายที่ชื่อว่า "เอ" (นามสมมติ) โฟนอินเข้ามาในรายการ บอกว่าเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่เคยโดนจีหลอก เอเล่าว่าเขาเจอจีในแอพฯ หาคู่ ช่วงที่ไดกิ้นติดคุก "จี" บอก "เอ" ว่าเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เป็นนักกฎหมายสังกัดสภาทนายความ เทรดหุ้นเป็นตั้งแต่เด็ก และไปมาแล้ว 27 ประเทศ "จี" หลอกเงินจาก "เอ" 1.4 แสนบาท อ้างว่าจะเอาไปลงทุนในศาลและเทรดหุ้น หลังจากนั้นพอเขาทวงเงินก็โดนบล็อก
"เอ" ส่งหลักฐานให้ทางรายการดู เป็นหนังสือรับสภาพหนี้จำนวน 1.4 แสนบาท โดยในเอกสารจีลงนามและระบุว่าเป็น “นักกฎหมาย สังกัดสภาทนายความ” จียอมรับกับทางรายการว่ารู้จักเอจริง และเอาเงินจากเอไปลงทุนจริง แต่ไม่ได้โกงระหว่างนั้นทีมงานรายการพบข้อมูลเพิ่มเติมว่าจีเคยโดนคดีฉ้อโกงประชาชนมูลค่าความเสียหาย 7 ล้านบาท จีชี้แจ้งว่าคดีนั้นอัยการสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว เธอเป็นผู้บริสุทธิ์
แต่หลังจากนั้นก็มีคนติดต่อทางรายการมาอีก 4 ราย บอกว่าเป็นผู้เสียหายที่ถูกจีหลอกเช่นกัน ทินถามจีว่าจะคืนเงืนให้ไดกิ้นกับเอหรือไม่ จีตอบว่า “ให้เขาไปใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย และไปว่ากันในชั้นศาลค่ะ” จีบอกว่าเธอเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย กำลังเรียนด้านกฎหมาย เหลืออีกเทอมเดียวจะจบ จึงให้คำปรึกษาทางกฎหมายได้ จียอมรับว่าเธอไม่ได้สังกัดสภาทนายความ แต่เคยอบรมเกี่ยวกับสภาทนายความ หลังจากนั้นเกิดการปะทะคารมกันระหว่างไดกิ้นกับแม่ของจี ทั้งสองฝ่ายต่างหลุดคำหยาบออกมาจนทินห้ามทัพแทบไม่ทัน
ซึ่งไวรัลที่คนโซเชีลยต่างพากันแชร์มาจากจุดๆ นี้ เมื่อไดกิ้นบอกว่าจีสร้างโปรไฟล์หลอกคนอื่นว่าสามารถพูดได้ 8 ภาษา หนึ่งในนั้นคือภาษาจีน แต่เขากลับพบว่าจีพูดจีนไม่ได้ตามที่อ้าง จีแย้งว่าเธอพูดได้ 8 ภาษาจริง แต่ไม่ใช่ภาษาจีน ทินจึงถามว่าแล้วพูดภาษาอะไรได้บ้าง จีบอกว่าภาษาอังกฤษ ทินจึงถามเป็นภาษาอังกฤษทันที
ทิน: How old are you?
จี: I am fine.
ทิน: (ถามย้ำ) How old are you?
จี: I am เอ่อ เดี๋ยวนะ 17 years old
ทิน: Are you 17?
จี: No no no เอ่อ อะไรนะ 27
ทิน: Where are you from?
จี: I’m come from Thailand.
ทิน: Which part of Thailand?
จี: เอ่อ พอค่ะ หนูได้แค่นี้
บทสัมภาษณ์ท่อนนี้กลายเป็นไวรัลและมีคนคัฟเวอร์ใน TikTok จำนวนมาก
ส่วนเรื่องคดีความต่าง ๆ มีข้อสรุปดังนี้
- การที่จีถูกไดกิ้นทำร้าย ละเมิด คุกคาม หรือหมิ่นประมาท จีก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่จีแจ้งความเรียบร้อยแล้ว
- คนที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย (ซึ่งตอนนี้มีอย่างน้อย 5-6 คน) ก็ให้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับจีเช่นกัน
งานนี้ชาวเน็ตได้วิพากย์วิจารณ์เกี่ยวกับความโป๊ะแตกของ "จี" เอาไว้ต่างๆ นานา อาทิ
