รมว.แรงงานส่งทีมเฉพาะกิจตรวจสอบสารเคมีรั่วไหล

2022-09-22 18:28:51

รมว.แรงงานส่งทีมเฉพาะกิจตรวจสอบสารเคมีรั่วไหล

Advertisement


รมว.แรงงานห่วงสารเคมีรั่วไหล จ.นครปฐม ส่งทีมเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที  เตรียมเชิญนายจ้าง ผู้เกี่ยวข้องมาสอบหาข้อเท็จจริง 27 ก.ย. นายจ้างปฏิบัติตาม ก.ม.หรือไม่

เมื่อวันที่ 22 ก.ย.65 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยถึง กรณีเหตุสารเคมีอันตรายรั่วไหลจากโรงงานใน ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่งกลิ่นกระจายเป็นวงกว้าง ว่า หลังจากที่ทราบข่าวดังกล่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมสั่งการให้กระทรวงแรงงานเร่งดำเนินการตรวจสอบถึงสาเหตุในครั้งนี้ ตนจึงได้ส่งทีมเฉพาะกิจตรวจสอบอุบัติเหตุ อุบัติภัย หรือการประสบอันตรายจากการทำงาน กรณีร้ายแรง ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงทันที พบว่า สถานที่เกิดเหตุ คือ บริษัท อินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการอุตสาหกรรมการผลิตเม็ดพลาสติกและพลาสติกขั้นต้น มีลูกจ้างทั้งหมด 582 คน ขณะเกิดเหตุเวลา 06.00 น. วันที่ 22 ก.ย.65 มีลูกจ้างทำงาน 2 คน ได้พบว่ามีสารเคมีรั่วไหลบริเวณระบบการผลิตเม็ดพลาสติกภายในบริษัทจึงรีบปิดวาล์ว ระยะเวลาการรั่วไหลประมาณ 10 นาที คาดว่าไม่เกิน 30 ลิตร แต่เกิดกลุ่มควันจำนวนมากเนื่องจากสัมผัสกับฝนจึงลอยไปได้ไกล แต่มีความเป็นพิษน้อยไม่ทำให้เกิดระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ เบื้องต้น ผมได้รับรายงานจากพนักงานตรวจความปลอดภัยว่าไม่มีลูกจ้างได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ ทางโรงงานยินดีเยียวยาและให้ความช่วยเหลือหากมีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

นางโสภา เกียรตินิรชา ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน หัวหน้าคณะทำงานทีมเฉพาะกิจตรวจสอบอุบัติเหตุ อุบัติภัย หรือการประสบอันตรายจากการทำงาน กรณีร้ายแรง ลงพื้นที่พร้อมกับ นายสมพจน์ กวางแก้ว รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 7 (ราชบุรี) สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครปฐม และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจะเชิญนายจ้างและผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ในวันที่ 27 ก.ย.65 นี้ เพื่อตรวจสอบว่านายจ้างได้ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 และกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2556 หรือไม่ เพราะอุบัติเหตุจากการทำงานนั้นสามารถป้องกันได้ หากทุกฝ่ายตระหนักและคำนึงถึงความปลอดภัยในการทำงาน จึงอยากเน้นย้ำให้นายจ้างและลูกจ้างปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย และนำมาใช้เป็นแนวปฏิบัติในสถานประกอบกิจการอย่างเคร่งครัด และหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยในการทำงาน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองความปลอดภัยแรงงาน โทรศัพท์ 02-4489128-39