สภาฯห้ามคิดดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ กยศ.

2022-09-14 14:25:08

สภาฯห้ามคิดดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ กยศ.

Advertisement

สภาฯ ลงมติห้ามคิดดอกเบี้ย  เบี้ยปรับล่าช้า กู้เงิน  กยศ.

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 ก.ย.65  ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณา ร่างพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .. หรือร่าง พ.ร.บ.กยศ. ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ต่อจากเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 65 โดยในครั้งนั้นพิจารณามาตรา 17 เรื่องการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่ตกค้างมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ประชุมลงมติไม่เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมากที่ให้คิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา 0.25% แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ว่า จะไม่ให้มีการคิดดอกเบี้ย และเบี้ยปรับล่าช้า ตามที่นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เสนอแก้ไขมา หรือจะให้คิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับล่าช้าในอัตราอื่นๆที่แตกต่างจาก กมธ.เสียงข้างมากเสนอมา ตามที่มีผู้เสนอมา 3แนวทางคือ 1.ร่างของนายประกอบ รัตนพันธุ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และคณะ เสนอให้คิดดอกเบี้ย  1 %ต่อปี 2.ร่างของนายจุมพล นิติธรางกูร กมธ.เสียงข้างน้อย ที่เสนอให้มีดอกเบี้ย 2 % และเบี้ยปรับล่าช้า 1% 3.ร่างของ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เสนอให้คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 1 % ต่อปี แต่ให้เริ่มชำระเมื่อผู้กู้ยืมมีเงินได้พึงประเมินเพียงพอจะเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในระยะเวลา 30ปี

ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับร่างของนายอุบลศักดิ์ที่ไม่ให้คิดดอกเบี้ย และเบี้ยปรับล่าช้าเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาด้วยคะแนน 218 ต่อ 109 งดออกเสียง 53 ไม่ลงคะแนน 1

ต่อมาเวลา 14.40 น.  ที่ประชุมได้พิจารณามาตราที่ 18-27 และเห็นชอบตามที่  กมธ.เสนอ ทุกมาตรา ซึ่งรวมถึง มาตรา 24 ซึ่งกมธ.แก้ไข เพื่อกำหนดเป็นบทเฉพาะกาล ให้มีผลย้อนหลังกับผู้กู้ยืมและคนค้ำประกันที่ได้ทำสัญญากู้ยืมก่อนหน้าที่ร่างกฎหมายจะบังคับใช้ ซึ่งมีเนื้อความที่เป็นสาระสำคัญว่า"เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระของผู้กู้ยืมเงินหรือผู้ค้ำประกันให้สามารถชำระเงินคืนกองทุนได้ ให้นำมาตรา 44 มาบังคับใช้กับผู้กู้ยืมเงินและผู้ค้ำประกันซึ่งทำสัญญาก่อนที่ร่างกฎหมายที่แก้ไขจะใช้บังคับใช้ โดยให้งดเว้นการเก็บดอกเบี้ย และคิดค่าปรับผิดนัดชำระ"

ทั้งนี้มาตรา 24 นั้นมี กมธ.เสียงข้างน้อยเสนอคำแปรญัตติไว้ แต่ขอถอนออกไปทั้งหมด และได้อภิปรายสนับสนุน เนื่องจากมองว่าผู้กู้ยืมเงินที่มีกว่า 3.4 ล้านบัญชี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกดำเนินคดี นับล้านรายและถูกฟ้องดำเนินคดีอีกจำนวนมาก ควรได้รับสิทธิประโยชน์ตามการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจากสภาผู้แทนราษฎรด้วยเช่นกัน

ภายหลังที่ประชุมพิจารณา ร่างพ.ร.บ.เงินกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่...) พ.ศ….ในวาระ3 เรียงตามมาตราครบทั้ง 27 มาตราแล้ว ที่ประชุมลงมติวาระ3 เห็นด้วย 314 ไม่เห็นด้วย 3 งดออกเสียง2 ไม่ลงมติ 2 และเห็นชอบกับข้อสังเกตตามที่กมธ.เสนอ