"ชัชชาติ"แจงน้ำท่วม กทม.ฝนตกมากที่สุดในรอบหลายปี

2022-09-13 09:07:00

"ชัชชาติ"แจงน้ำท่วม กทม.ฝนตกมากที่สุดในรอบหลายปี

Advertisement

"ชัชชาติ"แจงน้ำท่วมกทม.ฝนตกมากที่สุดในรอบหลายปี ย้ำทุกฝ่ายร่วมมือไม่มีความขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.  เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 20/2565 ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยภายหลังจากการประชุมฯ ผู้ว่าฯกทม.  พร้อมด้วย รศ.ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล และผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รอง ผู้ว่าฯกทม. ได้แถลงข่าวสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อคลายข้อสงสัยและข้อห่วงกังวลของประชาชน  โดยปัญหาน้ำท่วมของ กทม. ครั้งนี้ มาจากปริมาณน้ำฝนเกินกว่าปกติค่อนข้างมาก ทำให้ปริมาณน้ำเต็มในคลองแนวเหนือใต้ ทั้งคลองเปรมประชากร คลองลาดพร้าว จากคลองหกวาสายล่าง-แสนแสบ ทำให้เกิดน้ำท่วมแถวบริเวณรามอินทรา หลักสี่ ดอนเมือง ในส่วนคลองแนวตะวันออก-ตก คือ คลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งระดับน้ำสูงทำให้เขตลาดกระบังมีปัญหา โดยปกติจะระบายน้ำออกไปทางทิศตะวันออกผ่านคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ซึ่งควบคุมโดยกรมชลประทาน การผันน้ำเข้า-ออกจะต้องดูบริบทโดยรอบด้วย เช่น ฉะเชิงเทราอาจมีน้ำสูงอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าไม่ผันน้ำออกทางออกตะวันออก ก็ต้องเปลี่ยนเป็นทางตะวันตก โดยผ่านประตูระบายน้ำพระโขนง ระยะทางเกือบ 40 กิโลเมตร ตอนนี้คลองประเวศฯ กำลังเต็มล้น ระดับน้ำสูงกว่าเมื่อเทียบกับปี 54 ซึ่งปีนั้นเป็นสถานการณ์น้ำเหนือ ลาดกระบังรับที่ปลายน้ำจึงไม่หนักมาก ที่น้ำมากจะเป็นแถวรังสิต ดอนเมือง สำหรับปีนี้ลาดกระบังหนักอีกทั้งการระบายน้ำทำได้ยาก เนื่องจากน้ำท่วมในพื้นที่โดยรอบ อย่างไรก็ดีเมื่อฝนอ่อนกำลังลง ทำให้สามารถระบายน้ำทางคลองลาดพร้าวได้ดีขึ้น ขณะนี้น้ำลดลง 50% ทำให้ที่วงเวียนบางเขน ถนนพหลโยธินแห้งแล้วเป็นส่วนใหญ่ ด้านคลองเปรมประชากรน้ำลดลง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้าจัดการ 2 คลองหลักได้พื้นที่ดังกล่าวจะไม่มีปัญหา ปัญหาหลักคือ คลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งน้ำระบายได้ช้า เพราะมีระยะทางไกลกว่าที่น้ำจะมาถึงสถานีสูบน้ำพระโขนง ถ้าเปิดประตูน้ำเร็วไปจะมีผลกระทบกับพื้นที่พระโขนงและสะพานสูง จึงต้องค่อย ๆ ทยอยดันน้ำและสูบออก โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของ กทม. ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม มีเพียงพื้นที่ที่อยู่ใกล้คลอง ซึ่งมีข้อจำกัดทางกายภาพจะประปัญหาเมื่อมีถ้าฝนตกปริมาณมาก

นายวิศณุ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำเหนือขณะนี้ยังไม่น่ากังวล ปัจจุบันน้ำที่ไหลผ่านบางไทร มีปริมาณ เฉลี่ย 1,800 ลบ.ม/วินาที ซึ่งจุดเตือนภัยจะอยู่ที่ระดับ 2,500 ลบ.ม/วินาที มีการประสานความร่วมมือกับกรมชลประทานและคณะกรรมการน้ำในการบริหารจัดการน้ำเหนืออย่างใกล้ชิด ปัญหาตอนนี้เกิดจากน้ำฝนเป็นหลัก ซึ่งหากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น สามารถเตรียมการณ์ล่วงหน้าได้ คาดการณ์ระยะเวลาที่น้ำจากบางไทรถึงกรุงเทพฯ อย่างน้อย 12 ชั่วโมง นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ปริมาณฝนตกต่อวันในพื้นที่กรุงเทพฯ ในช่วงเดือนนี้ค่อนข้างหนัก ซึ่งระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม– 12 กันยายน 2565 มีจำนวนวันที่ฝนตกหนักเกิน 120 มิลลิเมตร มากถึง 10 วัน โดยมีค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำฝน 10 วันแรกของเดือนกันยายน 2565 อยู่ที่ 96.5 มิลลิเมตร ส่วนค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำฝน 10 วันแรกของเดือนกันยายนในปีก่อน อยู่ที่ 52.2 มิลลิเมตร และเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2565 มีปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ชม. อยู่ที่ 112.7 มิลลิเมตร ซึ่งนับว่าสูงสุดในรอบ 6 ปี  ที่ผ่านมา กทม. ได้เตรียมการล่วงหน้า ในการขุดลอกคลองเปิดทางน้ำไหล ซึ่งเป็นเส้นเลือดหลัก จำนวน 32 คลอง เปิดทางน้ำไหล ระยะทาง 1,332 กม. ดำเนินการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นเส้นเลือดฝอย 3,358 กม. และได้ทำความสะอาดท่องระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงสถานีสูบน้ำ บ่อสูบน้ำ ปั๊มน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว จะเห็นว่าที่ฝนตกมาน้ำไม่ได้มีการท่วมกระจาย จะมีเฉพาะจุดที่มีท่วมหนักจริง ๆ ที่เกินกำลังความสามารถในการรับน้ำในคลอง

ในการระบายน้ำของ กทม. มี 4 คลองหลัก ได้แก่ คลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร จากทิศเหนือลงใต้ ผันออกสู่เจ้าพระยา ในส่วนของคลองลาดพร้าว ได้ดำเนินการเพิ่มการระบายน้ำออกจากคลองลาดพร้าวโดยการผันน้ำเข้าอุโมงค์ระบายน้ำบึงมักกะสัน โดยผ่านคลองชวดใหญ่ คลองสามเสน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มในคลองสามเสนเพื่อเร่งระบายลงสู่อุโมงค์บึงมักกะสันต่อไป ในส่วนของคลองเปรมประชากร มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในแนวคลองเปรมประชากร ตั้งแต่ช่วงพื้นที่เขตดอนเมืองถึงเขตบางซื่อจำนวน 18 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่สถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในคลองบางเขนมีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 2 เครื่อง เพื่อผันน้ำและเร่งระบายน้ำออกจากคลองเปรมประชากรไปสู่สถานีสูบน้ำบางเขนเพื่อออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จะเห็นได้ว่าคลองลาดพร้าวน้ำลงดี ถ้าฝนไม่เพิ่มมาก คิดว่าสถานการณ์ในกรุงเทพเหนือจะดีขึ้น

ในส่วนของตะวันออก เริ่มจากคลองแสนแสบเป็นเส้นทางหลักที่อยู่ในแนวกลาง ด้านนอกได้ยกระดับบานประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ (ตอนคลองบางชัน) เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มการระบายน้ำจากพื้นที่ภายนอกคันกั้นน้ำ (เขตคลองสามวา เขตมีนบุรี และเขตหนองจอก) เข้าสู่พื้นที่ด้านใน ตามขีดความสามารถการระบายน้ำปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณน้ำที่จะระบายลงสู่คลองประเวศบุรีรมย์ เขตลาดกระบัง ส่วนคลองประเวศบุรีรมย์ซึ่งเป็นคลองหลักของการระบายน้ำฝั่งตะวันออก ถ้าสถานการณ์ดีที่คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตดีขึ้น จะได้เร่งกำลังสูบออกไปทางฝั่งตะวันออก

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ต้องระบายน้ำออกมาทางคลองพระโขนงทางฝั่งตะวันตก เพื่อให้คลองประเวศบุรีรมย์ดีขึ้น โดยยกระดับบานประตูระบายน้ำกระทุ่มเสือปลา คลองประเวศบุรีรมย์ เพื่อเพิ่มการระบายน้ำพื้นที่ภายนอกคันกั้นน้ำฯ (เขตลาดกระบัง) เข้าสู่พื้นที่ด้านในตามขีดความสามารถการระบายน้ำปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีการเสริมกระสอบทราย และช่วยเร่งระบายน้ำจากพื้นที่เขตลาดกระบังผ่านคลองพระโขนงลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากไม่สามารถระบายผ่านพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการได้เพราะระดับน้ำในพื้นที่สมุทรปราการสูงกว่าพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในคลองประเวศบุรีรมย์ต่อเนื่องคลองพระโขนง จำนวน 14 เครื่อง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคลองย่อย เช่น คลองในพื้นที่รามอินทราที่มีปัญหา ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่ได้รับจากสนับสนุนจากกรมชลประทาน เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่รามอินทราตอนเหนือ นอกจากนี้ ที่คลองบางนาได้มีการทำทำนบและทยอยเร่งสูบออกไป เพื่อให้น้ำไปถึงสถานีสูบน้ำวัดบางนานอก โดย กทม. ได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากกรมชลประทาน จำนวน 21 เครื่อง และจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จำนวน 15 เครื่อง ซึ่งจะนำไปติดตั้งบริเวณจุดสำคัญ และอยู่ระหว่างประสานการขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมอีก

นอกเหนือจากมาตรการในเชิงโครงสร้าง ได้แก่ ลอกคูคลอง เปิดทางน้ำไหล ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ พร่องน้ำในคลอง ปรับปรุงสถานีสูบน้ำ กระสอบทราย แล้วยังได้ใช้มาตรการที่ไม่ใช่เชิงโครงสร้าง ในการเตรียมเข้าสู่สถานการณ์ (Emergency Preparedness) ได้ฝึกส่วนการสื่อสารในภาวะวิกฤตไว้ เพื่อให้ทำหน้าที่สื่อสารสาธารณะได้ สั่งจัดเตรียมทรัพยากรฉุกเฉินและจัดทำบัญชีเครื่องมือ ประสานขอรับการสนับสนุนส้วมกระดาษจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมการกำหนดจุดจัดตั้งศูนย์พักพิง การรับและจ่ายทรัพยากรช่วยเหลือ การส่งยาสามัญในภาวะน้ำท่วมลงพื้นที่ การให้บริการรถสูงประจำจุดเชื่อมการเดินทาง ส่งทีมช่างจากกองโรงงานช่างกลช่วยเหลือประชาชนที่ยานพาหนะมีปัญหาในบริเวณน้ำท่วมขัง พร้อมประสานกับสถาบันอาชีวะต่างๆ ในพื้นที่นำนักศึกษาอาจารย์ลงมาช่วย ซึ่งจะได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบผ่านช่องทางต่างๆ ของ กทม. ในวงกว้างมากขึ้น

สำหรับการจัดตั้งโรงครัวนำส่งอาหารให้ถึงที่สำหรับประชาชนที่เดินทางออกมายากลำบาก เกือบพันกล่องต่อวัน ศูนย์พักพิงเขตหลักสี่ใช้สถานที่โรงเรียนบางเขน เขตดอนเมืองใช้สถานที่ศูนย์เยาวชนดอนเมือง เขตบางเขนมีศูนย์พักพิงที่สำนักงานเขตด้วย มีเกือบทุกจุด แต่ส่วนใหญ่ยังไม่มีคนมาพักพิง เพราะประชาชนเป็นห่วงทรัพย์สินที่บ้าน ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านเพื่อนหรือบ้านญาติ กลุ่มที่เข้าออกยากจะมีรถให้บริการ รวมถึงยาสำหรับผู้ป่วย นมสำหรับเด็ก ผ้าอ้อมเด็กและผู้ใหญ่ โดยสำนักงานเขตดำเนินการจัดหาและขอความช่วยเหลือจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้วย นอกจากนี้ ยังมีการทำกระสอบทรายเพิ่ม ซึ่งมีแผนรองรับไว้หมดแล้ว

ยกตัวอย่างถนนเทพรักษ์ เขตบางเขน มีการก่อสร้างถนน ได้บอกให้สำนักการโยธาไปเร่งรัดผู้รับเหมาแล้ว แต่บางถนน เช่น ถนนแจ้งวัฒนะเป็นถนนของกรมทางหลวง และไม่ใช่โครงการของ กทม. ต้องขอความร่วมมือ เอาจุดที่น้ำท่วมขังเป็นตัวชี้ว่าจุดไหนมีปัญหา ซึ่งต้องลงไปดูให้ละเอียด เร่งรัดผู้รับเหมา และต้องนำมาตรการที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการ เช่น ถ้ามีผลกระทบต้องให้หยุดการก่อสร้างก่อน ถ้าไม่ทำตามเงื่อนไขที่กำหนดหรือใบอนุญาตก่อสร้าง ต้องให้หยุดการก่อสร้างและปรับปรุงให้ได้ โดยเฉพาะจุดที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งมี 2 เรื่องหลักที่ขอความร่วมมือ รฟม. คือ 1. การขุดลอกในพื้นที่ก่อสร้างไม่ให้ท่อน้ำอุดตัน 2. การคืนผิวการจราจร รวมถึงความปลอดภัยในบริเวณก่อสร้างด้วย ซึ่งทาง รฟม. ได้ให้ความร่วมมือ และพูดคุยกันเพื่อกำหนดแผนงานที่ชัดเจนว่าจะคืนผิวจราจรเมื่อไร แผนงานเป็นอย่างไร จะเร่งรัดได้อย่างไร ในส่วนเศษวัสดุก่อสร้างในไซด์งานอยากให้กำชับผู้รับจ้างให้ดี บางทีขุดลอกไปแล้วก็จริง แต่ก็มีเศษวัสดุก่อสร้างใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาได้ต้องคอยติดตาม ซึ่งอาจจะไม่ได้ทิ้ง แต่พอฝนตกน้ำฝนก็ชะกองหินกองทรายลงไป นอกจากนี้ ต้องดูแลเรื่องทางเดินเท้าด้วย เช่น แยกหลักสี่ บางเขน ทางเดินเท้ามีปัญหามาก ทางเดินเท้ามองไม่เห็น ทำให้เกิดอันตราย

นายชัชชาติ กล่าวว่า กทม. มีการร่วมมือประสานงานกับทุกหน่วยงานตลอด กรมชลประทาน กรมป้องกันสาธารณภัย ร่วมมือร่วมใจกัน คงต้องลงพื้นที่ดูแลลาดกระบังให้เข้มข้นขึ้น ทั้งอาหาร ยา เมื่อวานนี้ (11 ก.ย. 65) มีชาวบ้านจูงมือเดินเข้าไปที่ประตูน้ำลาดกระบัง มีชาวบ้านที่อยู่ซอย 34/6 รวมตัวกันชวนเข้าไปดู ประมาณ 40 หลังคาเรือน แต่เป็นหมู่บ้านเอกชน ไม่ใช่ทางสาธารณะแต่เราก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ก็ได้แจ้งผู้อำนวยการเขตลงไปให้ความช่วยเหลือ อาหาร ยา ผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องดูแล