ฝ่ายค้านส่งเอกสารหลักฐานแย้งความเห็น "มีชัย"

2022-09-08 01:50:14

ฝ่ายค้านส่งเอกสารหลักฐานแย้งความเห็น "มีชัย"

Advertisement

ฝ่ายค้านส่งเอกสารหลักฐานแย้งความเห็น "มีชัย"  ยืนกรานวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ ต้องเริ่มนับ 24 ส.ค.57 เชื่อเอกสารหลุดส่อเจตนาหยั่งกระแสสังคม

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 65  ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  (ภท.)  ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งหลักฐานเพิ่มเติมถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อประกอบการวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทำหนังสือส่งเอกสารหลักฐานความเห็นเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ สืบเนื่องจากมีเอกสารที่หลุดออกมาเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ โดยในเนื้อหาสาระอ้างถึงนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้ทำหนังสือถึงศาล โดยสรุปสาระว่าวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.60 และกรณีอ้างถึงบันทึกการประชุมของ กรธ. ครั้งที่ 500 ที่นายมีชัยอ้างว่าเป็นการจดบันทึกไม่ครบถ้วน ไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้ ฝ่ายค้านเห็นว่าคำชี้แจงของนายมีชัย เข้าข่ายให้การเท็จต่อศาล ฝ่ายค้านมีความเห็นคัดค้านความเห็นของนายมีชัย จึงรวบรวมความเห็นในการคัดค้านหรือโต้แย้งเอกสารดังกล่าว เพื่อยืนยันว่าวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ ต้องนับวันที่ 24 ส.ค.57 จะอ้างวันที่ 6 เม.ย.60 ไม่ได้ เพราะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกฯในปี 57 และมีการดำรงตำแหน่งต่อเนื่องมา ทั้งนี้ ฝ่ายค้านได้แนบบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 โดยมีละเอียด 22 หน้า และเพื่ออ้างอิงว่าเอกสารครั้งที่ 500 มีความครบถ้วนสมบูรณ์ จึงมีการส่งบันทึกการประชุมครั้งที่ 501 เมื่อวันที่ 11 ก.ย.51 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย มีเนื้อหารับรองการประชุมของกรธ. ครั้งที่ 497 – 500 ว่ามีความถูกต้องโดยไม่มีการแก้ไข ดังนั้น บันทึกการประชุมครั้งที่ 500 จึงมีความสมบูรณ์

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านร้องขอให้ประธานสภาฯ ส่งเอกสารไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด เนื่องจากจะมีการประชุมนัดพิเศษในวันที่ 8 ก.ย.65 จึงหวังว่าเอกสารที่ฝ่ายค้านส่งล่าสุด ในวันที่ 8 ก.ย.65  จะถึงศาลและจะได้รับไว้ประกอบการพิจารณาเพื่อที่จะได้สิ้นสงสัย

เมื่อถามว่า มองเจตนาที่เอกสารหลุดอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มองได้หลายมุม ถ้าเอกสารนี้หลุดออกมาจากตรงไหนจะทำให้เราวิเคราะห์ได้ง่ายขึ้นในเจตนา แต่สิ่งที่คาดการณ์ได้ คือเหมือนการโยนให้สังคมได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าคิดอย่างไรในประเด็นนี้ เพื่อทดสอบกระแสสังคม เพราะแนวทางการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะให้น้ำหนัก 2 ด้าน คือ ด้านข้อกฎหมาย และด้านข้อเท็จจริงทางรัฐศาสตร์ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นประโยชน์หรือเป็นโทษอย่างไรต่อสังคม สุดท้ายหากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามที่นายมีชัยให้ความเห็น จะตอกย้ำถึงความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากการอยากอยู่ยาวของนายกฯ แต่จะสร้างความขัดแย้งจนเกิดวิกฤตขนาดไหนยังไม่รู้

ต่อข้อถามว่า สิ่งที่นายมีชัยเคยระบุในบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 ในปี 61 กับสิ่งที่นายมีชัย ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญในครั้งล่าสุด อะไรมีน้ำหนักความน่าเชื่อถือมากกว่า นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ปี 61 มีความน่าเชื่อมากกว่า เพราะตอนนั้นนายมีชัย มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน แต่สิ่งที่ชี้แจงล่าสุด นายมีชัยลืมแม้กระทั่งว่ามีบันทึกการประชุมครั้งที่ 501 แสดงถึงการมีสติไม่ครบถ้วน