“มงคลกิตติ์” แจงผลสอบ ส.ต.ท.หญิง เรียกดูเอกสารสอบบรรจุ

2022-09-01 19:23:33

“มงคลกิตติ์” แจงผลสอบ ส.ต.ท.หญิง เรียกดูเอกสารสอบบรรจุ

Advertisement

ผบ.ทสส. - ผอ.กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ส่งตัวแทนแจง  กมธ.การทหารปม ส.ต.ท.หญิง  “มงคลกิตติ์” เรียกดูเอกสารการสอบบรรจุ

เมื่อเวลา 12.55 น. วันที่ 1 ก.ย. 65  ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยก่อนการประชุม กมธ. กรณี ส.ต.ท.หญิง ถูกกล่าวหาว่ากระทำทารุณกรรมทหารหญิง ว่า การประชุม กมธ. วันนี้ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) มอบหมายให้ พล.อ.อ.สุวรรณ ขำทอง รองเสนาธิการทหาร และพล.ท.สุรสีห์ ดรุณสาสน์ เจ้ากรมกำลังพลทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นตัวแทนชี้แจง ขณะที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) มอบหมายให้ พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพน้อยที่ 4 ในฐานะ รองผอ.กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้าเข้าชี้แจง

ต่อมาเวลา 15.00 น. นายมงคลกิตติ์  ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม กมธ.ว่า จากการชี้แจงของ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า มี 2 ประเด็นคือกรณีของ ส.ต.ท.หญิง และกรณี ส.ท.หญิง  อดีตทหารกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งการบรรจุเข้ารับราชการตำรวจของ ส.ต.ท.หญิง เกิดขึ้นในปี 60 คงต้องไปคำนวณกันเองว่าในปีนั้นใครเป็น ผบ.ตร. โดยเท่าที่ทราบจะมีคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์ ดังนั้น กมธ.คงต้องขอเรียกขอดูเอกสารการสอบสัมภาษณ์ดังกล่าวเพิ่มเติม และหลังจากบรรจุแล้ว เดือน ก.พ. 65 ได้ย้ายไปช่วยราชการที่กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าด้วยความสมัครใจ แต่ปรากฎว่าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข ทางหน่วยจึงได้เรียกเงินคืนสิทธิประโยชน์ ในส่วนของเบี้ยเสี่ยงภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประมาณ 1.1 แสนบาท แสดงว่าเจ้าตัวไม่ได้มีการปฏิบัติหน้าที่จริง โดยต้นสังกัดคือตำรวจสันติบาลต้องมีหนังสือชี้แจงเรื่องการไปช่วยราชการ เพราะถือว่ามีการรับเงินเดือนซ้ำซ้อน

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของ  ส.ท.หญิง บรรจุเข้ารับราชการที่โรงเรียนฝีมือช่างทหาร เป็นพนักงานธุรการ จากนั้นในปี 62 คณะกรรมาธิการวุฒิสภาได้เรียกให้ไปช่วยราชการทันที โดยทำหนังสือ 2 ครั้ง ทั้งในปี 62 และปี 63 ระบุจนกว่าการช่วยราชการจะสิ้นสุด ซึ่งยังต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดย กมธ.ได้ขอหนังสือเพิ่มเติมไปว่าหนังสือดังกล่าวที่ขอช่วยราชการมีลักษณะเป็นแบบใด จึงสอบถามไปยังกองบัญชาการกองทัพไทยว่าการบรรจุแต่งตั้งคัดเลือก ส.ท.หญิง ที่โรงเรียนช่างฝีมือทหารก็สามารถตรวจสอบได้ เพราะอยู่ภายใต้สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย โดย กมธ.ขอข้อมูลเพิ่มเติมว่าคณะกรรมการที่สอบสัมภาษณ์ครั้งนั้นมีกี่คน และเปิดรับสมัครจำนวนเท่าใด มีเงื่อนไขใด รวมทั้งข้อคิดเห็นเหตุผลว่าทำไมถึงรับส.ท.หญิง  อีกทั้งต้องตรวจสอบว่าคณะกรรมาธิการวุฒิสภามีการออกเงินเดือนในระหว่างปฏิบัติช่วยราชการหรือไม่ เพราะปกติการขอตัวช่วยราชการทางต้นสังกัดต้องมีหนังสืออนุมัติ เพราะต้นสังกัดเดิมยังต้องจ่ายเงินเดือน จึงต้องดูการเกษียณหนังสือเป็นอย่างไร และ กมธ.ได้ถามถึงสาเหตุที่ลาออกจากราชการ โดยเจ้ากรมกำลังพล กองบัญชาการกองทัพไทยชี้แจงว่ามีการยื่นลาออกตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 65 และอนุมัติวันที่ 11 ส.ค. 2565 ตนจึงถามว่าเอกสารดังกล่าวมีการทำย้อนหลังหรือไม่ โดย กมธ.ได้ขอภาพวงจรปิดและขอตรวจสอบเอกสารลายเซ็นจริงว่ามีการเซ็นมาแล้วกี่วัน มีการเซ็นย้อนหลังหรือไม่ ซึ่งทางเจ้ากรมฯมีอาการอึกอักตอบไม่ชัดเจนเท่าไหร่ และขอส่งข้อมูลให้กรรมาธิการในสัปดาห์ถัดไป

นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า  กมธ.ได้ให้ข้อเสนอแนะไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า การบรรจุแต่งตั้งข้าราชการที่จบปริญญาตรี หากเป็นไปได้ขอให้ยกเลิกการสอบสัมภาษณ์ทั้งหมด โดยขอให้เป็นการสอบข้อเขียนล้วนเหมือนการสอบเข้าชั้นมัธยมปีที่ 1 และมัธยมปีที่ 4 เพื่อไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติ เพราะการสอบคัดเลือก ปกติจะมีการสอบคุณวุฒิและการสอบสัมภาษณ์ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนายทั้งหมด จึงเป็นการสกัดการคอร์รัปชันในการฝากได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าให้ข้อมูลว่าปัจจุบันมีอัตรากำลังจร ซึ่งเป็นการช่วยราชการจากส่วนต่างๆ 54,100 นาย โดยแยกเป็นทหาร 29,000 นาย ตำรวจ 15,000 นาย และพลเรือนประมาณ 9,000 นาย โดยตนขอให้ตรวจสอบว่าอัตราดังกล่าวมีการปฏิบัติราชการจริงจำนวนเท่าใด และมีกี่เปอร์เซ็นที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้จริง เอาชื่อมาไว้เฉยๆเพื่อกินเงินเดือน โดยทางตัวแทนกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าแจ้งว่าต้องใช้เวลาตรวจสอบเพราะมีจำนวนเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ กมธ.ได้เสนอแนะข้อเสนอแก้ปัญหาระยะยาวคือการเปิดให้สอบข้อเขียน 100% แต่การสอบทุจริตต้องมีการสอบเพิ่มเติมทั้งการสอบบรรจุแต่งตั้งของทั้งคู่ โดยตรวจสอบจากคณะกรรมการลับที่สอบสัมภาษณ์และอดีตผบ.หน่วยต้นสังกัดของทั้งสองคนว่า ณ วันนั้นมีการโทรศัพท์มาฝากกันหรือไม่ หรือมีการเข้าไปโดยระเบียบปกติ โดยเฉพาะอดีต ผบ.ทสส.สมัยนั้น ได้รับโทรศัพท์จากใครหรือไม่ เพราะท่านก็เป็น สนช.ด้วย ซึ่งรายละเอียดบางอย่างตนไม่สามารถเปิดเผยตอนนี้ได้ เพราะต้องมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เนื่องจากเราได้ซักถามแบบตรงๆ หากให้สัมภาษณ์ออกไปอาจโดนข้อหาหมิ่นประมาทได้ เพราะในห้องกรรมาธิการมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่นอกห้องไม่มี

“ขณะนี้การชี้แจงของผู้เกี่ยวข้องมีความขัดแย้งบางประเด็นเช่นเมื่อสมัครไปราชการแต่การตรวจสอบคุณสมบัติยังไม่เสร็จ กลับจ่ายเงินเดือนไปแล้ว โดยทางทหารมีอาการอึกอักมาก อีกทั้งใบลาออก็ยังงงว่าส.ท.หญิง ได้รับเงินเดือนถึงเดือนส.ค. แต่บอกว่าลาออกตั้งแต่เดือน พ.ค. แล้วยังบอกว่าจะเรียกเงินเดือนคืนอีก 2 เดือน ผมจึงสงสัยว่าตกลงมันยังไงกันแน่ ตกลงน้ำหมึกมันแห้งหรือยัง อย่างไรก็ตามทาง กมธ.ทหารได้ขอเอกสารเพิ่มเติมจากทางวุฒิสภา แต่เขาจะให้หรือไม่เป็นอีกเรื่อง เพราะคนละอำนาจกัน ก็แล้วแต่เขา หากเขามีสำนึกก็คงจะให้ ถ้าไม่มีลับลมคมในอะไร แต่ถ้ามีลับลมคมในก็อาจจะดึงเอกสารให้อาทิตย์ละใบ กลัวว่ากว่าจะได้เอกสารครบก็ยุบสภาฯพอดี ถือเป็นเทคนิคในการดึงหน่วย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะระบบราชการก็เป็นแบบนี้ ช่วยกันปกปิดความผิด ทำดีก็ช่วยกันโฆษณา ทำชั่วก็ช่วยกันปกปิด ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

ด้าน พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพน้อยที่ 4 ในฐานะรอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังชี้แจงต่อ กมธ.ทหารถึงกรณีส.ต.ท.หญิงที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำทารุณกรรมลูกจ้างที่เป็นอดีตทหารหญิง โดยระบุสั้นๆว่า ได้ชี้แจงทุกเรื่อง ต่อ กมธ.ไปครบถ้วนแล้ว ทั้งเรื่องการไปช่วยราชการหรือลงไปปฎิบัติหน้าที่จริงหรือไม่ โดยไม่ขอให้รายละเอียดใดๆต่อสื่อมวลชน