“ศรีสุวรรณ”ชี้คนไทยไม่ได้กินหญ้าเชื่อนาฬิกาวนกันใส่

2018-01-17 09:50:11

“ศรีสุวรรณ”ชี้คนไทยไม่ได้กินหญ้าเชื่อนาฬิกาวนกันใส่

Advertisement

“ศรีสุวรรณ”ออกแถลงการณ์กรณีนาฬิกาหรู “บิ๊กป้อม” ชี้คนไทยไม่ได้กินแกลบกินหญ้าที่จะเชื่อว่านาฬิกาวนกันใส่ แนะ ป.ป.ช.เรียกเจ้าของนาฬิกาทุกเรือนมาตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ เรื่อง คนไทยไม่ได้กินแกลบกินหญ้าที่จะเชื่อว่านาฬิกาวนกันใส่ว่า ตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกรณีข้อสงสัยเรื่องนาฬิกาหรูกว่า 24 เรือนที่ปรากฎตามภาพข่าวจำนวนมากที่ใส่มาหลายปีทำนองว่า “เป็นของเพื่อนที่วนกันใส่ ไม่ใช่ของตนเองสักเรือน และได้คืนไปหมดแล้ว” นั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเห็นว่าถ้อยแถลงดังกล่าวเป็นเพียงการแก้ตัวไปแบบน้ำขุ่นๆ ซึ่งหาเหตุผลรองรับแบบเบาหวิว เพื่อให้รอดพ้นจากข้อครหาและคมดาบของ ป.ป.ช. ซึ่งเชื่อว่าสังคมไทย และ ป.ป.ช. ก็คงไม่เชื่อตามไปด้วย ทั้งนี้เพราะนาฬิกาเรือนหรูแต่ละเรือนที่มีมูลค่านับล้านบาทนั้น ไม่ใช่นาฬิกาที่มีวางขายแบกับดินที่ขายกันตามตลาดโรงเกลือ ตลาดนัดจตุจักร กันเสียเมื่อไร หากแต่เป็นเครื่องประดับที่มีมูลค่ามหาศาล ที่คนไทยกว่า 99% ไม่มีปัญญาที่จะไปแสวงหามาสวมใส่ได้ และที่สำคัญนาฬิกาบางเรือนซึ่งปรากฎตามภาพข่าวที่บิ๊กป้อมสวมใส่นั้น เป็นรุ่นลิมิเต็ด (Limited Edition) ซึ่งมีการผลิตหรือจัดทำขึ้นมาในจำนวนจำกัด เฉพาะผู้ที่สั่งทำเท่านั้น และจะมีการรันนัมเบอร์ว่ามีผู้ใดสั่งให้ทำและสั่งจองบ้าง อีกทั้งนาฬิกาแต่ละเรือนจะจัดทำสายรัดที่เป็นโลหะพอดีกับข้อมือของผู้สั่งทำเท่านั้น และหากจะมีการเพิ่มข้อสายรัดต้องเสียเงินแต่ละครั้งนับหมื่นถึงแสนบาท


“ดังนั้นข้ออ้างของบิ๊กป้อมที่วนนาฬิกากันใส่ในกลุ่มเพื่อนฝูงนั้น จึงไร้เหตุผล ส่วนนาฬิกาที่มีสายรัดเป็นหนังนั้น โดยปกติทั่วไปนาฬิกาที่มีมูลค่าแพงระยิบขนาดนี้ เขาไม่นิยมวนกันใส่เพราะจะถูกเหงื่อไคลของผู้สวมใส่ซึมซับกับตัวหนัง ทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตนอันไม่พึงประสงค์ของผู้อื่นในสายนาฬิกานั้น ๆ ซึ่งจะทำให้คุณค่าหรือมูลค่าของนาฬิกาเสื่อมลงไปอย่างมาก ซึ่งไม่มีใครที่ไหนเขาทำกัน และหากบิ๊กป้อมยังคงยืนยันว่าเป็นนาฬิกาของเพื่อนจริง ก็เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องเรียกเพื่อนบิ๊กป้อมเจ้าของนาฬิกาทุกเรือนมาตรวจสอบวงรอบข้อมือของแต่ละคนว่าสามารถสวมใส่พอดีกับตนเองหรือไม่ด้วย จึงจะชอบ

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า กรณีที่ พล.อ.ประวิตรแจ้งว่านาฬิการเพื่อนวนกันใส่นั้น ก็ยังถือว่าเป็นความผิดตามมาตรา 103 พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือ ประโยชน์อื่นใดจากบุคคล นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย หรือ กฎ ข้อบังคับ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เว้นแต่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยา ตามหลักเกณฑ์และจํานวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด