หุ้นส่วนวิคตอเรียซีเครทมอบตัวโดนแจ้ง 13 ข้อหา

2018-01-16 18:10:29

 หุ้นส่วนวิคตอเรียซีเครทมอบตัวโดนแจ้ง 13 ข้อหา

Advertisement

ศาลอนุมัติหมายจับ 8 ผู้ต้องหาค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเครทโดนกว่า 10 ข้อหา “ศศิธร”หุ้นส่วนใหญ่เข้ามอบตัวโดนแจ้ง 13 ข้อหาหนัก ขออำนาจศาลฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าที่สำนักการสอบสวนคดีอาญาและนิติกร กรมการปกครอง เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง เข้าปิดล้อมตรวจค้นสถานประกอบการ ร้านวิคตอเรีย ซีเครท อาบ อบ นวด ตั้งอยู่เลขที่ 555 ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.34 น. และ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย กับพวกรวม 6 คน นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีไว้แล้วนั้น


ล่าสุดพนักงานสอบสวน ได้ทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน จนเป็นที่แน่ชัด และเชื่อได้ว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิด จึงได้ยื่นคำร้องขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลอาญา และศาลได้อนุมัติหมายจับจำนวน 8 หมาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนี้ 1.นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย อายุ 67 ปี 2.นายชัยณรงค์ อันสุข อายุ 53 ปี 3.นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ อายุ 55 ปี 4.นายสมชาย แสงอุดม อายุ 52 ปี 5.นายมนัส อ่วมทับ อายุ 48 ปี 6.นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล อายุ 29 ปี 7. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ออนเซน โดย น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะหุ้นส่วน ผู้จัดการ และ 8.น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะส่วนตัว อายุ 45 ปี 


สำหรับฐานความผิดมีดังต่อไปนี้ 1.กระทำความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ โดยเป็นผู้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคล และเด็ก (บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี) โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ในรูปแบบอื่น การบังคับใช้แรงงานหรือบริการอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ด้วยวิธีการฉ้อฉล หลอกหลวง หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ (พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551) 2.สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยได้ลงมือกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามที่ได้สมคบกัน และร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ (พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551) 3.ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม (พ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539) 4.ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งเด็กที่มีอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคล นั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม (พ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539)

5.ร่วมเป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี อันเป็นสถานการค้าประเวณีที่มีบุคคลและเด็กซึ่งมีอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี ทำการค้าประเวณีอยู่ด้วย (พ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539) 6.ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม (ประมวลกฎหมายอาญา) 7.ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง และได้กระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม (ประมวลกฎหมายอาญา) 8.ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม (ประมวลกฎหมายอาญา)





 9.เป็นผู้รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2542) 10. ร่วมเป็นนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ากว่า 18ปี ทำงานในสถานบริการ (พ.ร.บ.คนเข้า เมือง พ.ศ.2542) 11.ร่วมเป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทาให้เด็กมีความประพฤติ เสี่ยงต่อการกระทำความผิด และกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์มิชอบจากเด็ก (พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546) 12.ร่วมกันดำรงชีพอยู่แม้เพียงบางส่วนจากรายได้ของผู้ซึ่งค้าประเวณี อยู่ร่วมกับผู้ซึ่งค้าประเวณี หรือสมาคมกับผู้ซึ่งค้าประเวณี รับเงินหรือประโยชน์อย่างอื่น โดยผู้ซึ่งค้าประเวณีเป็นผู้จัดให้ (ประมวลกฎหมาย อาญา) 13.ไม่จัดทำประวัติของพนักงานก่อนเริ่มเข้าทำงานในสถานบริการ (พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509)



ทั้งนี้ผู้ต้องหาที่ 1-3 ถูกดําเนินคดีตามฐานความผิด ข้อ 1 – 12 , ผู้ต้องหาที่ 4-6 ถูกดําเนินคดีตามฐํานความผิด ข้อ 1 - 11 ผู้ต้องหาที่ 7-8 ถูกดําเนินคดีตามฐานควํามผิด ข้อ 1 – 13

ด้าน น.ส.ศศิธร พร้อมทนายความได้เข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ หลังศาลออกหมายจับพร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา  แต่รับเพียงว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหารวมทั้งหมด 13 ข้อหา และจะขออำนาจศาลเพื่อฝากขังต่อไป พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง

พล.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับอีก 10 สถานบริการ  รวมทั้งพบว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนอีกกว่า 6-7 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบการจดทะเบียนตั้งสถานบริการในปี 2509 แต่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลล่าสุดช่วงปี 2560  สำหรับคดีนี้สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ครบทั้งหมดแล้ว ซึ่ง 6 รายถูกคุมตัวในเรือนจำแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการอายัดตัวในข้อหาค้ามุนษย์เพิ่มเติมอีกครั้ง