ผลวิจัยชี้เด็กไทยอยากได้ความรักจากครู ก่อนได้ความรู้

2018-01-16 14:20:06

ผลวิจัยชี้เด็กไทยอยากได้ความรักจากครู ก่อนได้ความรู้

Advertisement

สสค. เปิดผลวิจัย เด็กไทยอยากได้ความรักจากครูก่อนความรู้ ชี้เปลี่ยนห้องเรียนให้สนุก ช่วยลดพฤติกรรมนักเรียนก้าวร้าว เสนอ ศธ.ลดความสำคัญของโอเน็ต ช่วยสร้างเด็กไทยให้พัฒนาได้ทั้งดีและเก่งตามนโยบายนายกรัฐมนตรี


เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) นายอมรวิชช์ นาครทรรพ หัวหน้าคณะวิจัยโครงการวิจัยปฏิบัติการโรงเรียนพัฒนาคุณภาพต่อเนื่อง คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันครู 16 ม.ค. คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ได้ทำการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนและครู ผู้บริหาร ผู้ปกครอง และตัวแทนชุมชน จากกลุ่มตัวอย่าง 24,000 คน


ทั้งนี้ พบว่า ในมุมมองเด็กไทย อยากให้ครูใส่ใจเป็นรายบุคคล อยากมีครูคนโปรดที่สนิทเป็นพิเศษให้คำปรึกษาได้เสมอ และไม่ลำเอียง ส่วนมุมมองของครู คือ อยากพัฒนาตัวเองโดยเฉพาะความรู้ ในการดูแลเด็กที่มีความต้องการพิเศษ สำหรับมุมมองของพ่อแม่ คือ พ่อแม่ยอมรับว่าไม่มีเวลาใส่ใจการเรียนของลูก




สำหรับผลจากการที่พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ลูก ทำให้บทบาทของครู ในการเป็นแม่คนที่สอง ยิ่งได้รับการคาดหวังจากเด็กนักเรียนมากขึ้น แสดงให้เห็นว่า เด็กต้องการความรักความเอาใจใส่จากครูก่อนความรู้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะต้องมาช่วยกันสร้างห้องเรียน โรงเรียน ให้เป็นสถานที่ที่ทำให้เด็กมีความสุข โดยเริ่มจากห้องเรียน ซึ่ง สสค. ได้ใช้หลักการดังกล่าว โดยใช้รูปแบบห้องเรียน “เรียนสุข สนุกสอน” นำร่องในโรงเรียนประถมขยายโอกาส 201 โรงเรียน


นอกจากนี้ ยังพบว่า เมื่อครูให้ความสนใจเด็กเป็นรายบุคคล ปรับวิธีการสอน ครูจะเห็นเด็กนักเรียนน่ารักทุกคน ไม่ว่าจะเรียนเก่งหรือไม่เก่ง ซึ่งทำให้ครูที่เคยมีพฤติกรรมโอ๋เด็กเก่ง ซึ่งบางครั้งก็ทำไปโดยไม่รู้ตัวหมดไป ขณะที่พฤติกรรมเด็กที่ก้าวร้าว หัวโจก ก็ลดลงมาก เพราะได้รับความรักและความเข้าใจจากครู กลายเป็นผู้นำนักเรียนที่ดี



ทางด้าน สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจเรื่อง ครูแบบไหนที่เด็กไทยต้องการ พบว่า เด็กอนุบาล อยากได้ ครูใจดี ไม่ดุ, เด็กประถม อยากได้ ครูใจดี ไม่ตี ไม่บ่น, เด็กมัธยม ต้องการครูใจดี มีเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ และเด็กอาชีวะ ต้องการครูดีมีคุณธรรม