เจาะตู้เซฟ"วิคตอเรียซีเครท"เจอเงินสดเพียบ

2018-01-15 19:40:11

เจาะตู้เซฟ"วิคตอเรียซีเครท"เจอเงินสดเพียบ

Advertisement

ดีเอสไอเจาะตู้เซฟอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท พบเอกสารและเงินสดจำนวนมาก ระบุเจอเหยื่อค้าประเวณีอายุต่ำกว่า 18 ปี 3 คน อีก 25 คนส่งตรวจมวลกระดูก รพ.ตำรวจ พร้อมผลักดันต่างด้าวกลับประเทศ ด้าน "ป๋ากบ"ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา


เมื่อวันที่ 15 ม.ค. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)พร้อมด้วยนายพิริยะ ฉันทดิลก ผอ.สำนักการสอบสวนเเละนิติการ กรมการปกครอง เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และตำรวจ ร่วมกันเปิดตู้เซฟจำนวน 3 ตู้ ที่ยึดมาได้จากสถานบริการวิคตอเรียซีเครท เพื่อนำมาเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีค้ามนุษย์ โดยการเปิดตู้เซฟดังกล่าว ใช้วิธีการนำอุปกรณ์เจาะและกระแทกเพื่อปลดสลักของตู้เซฟโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง พบว่าตู้เซฟขนาดความสูง 60 เซนติเมตรว่างเปล่าไม่พบสิ่งของ ขณะที่อีก 2 ตู้ พบเอกสารและเงินสดจำนวนหลายแสนบาท รวมถึง พระเครื่อง นาฬิกา แว่นตา เป็นของจำนำ และยังพบเอกสารทางการเงินต่างๆ จำนวนมาก


พ.ต.อ.ไพสิฐ ระบุว่า สิ่งของที่เปิดได้ในวันนี้ จะส่งให้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นผู้ตรวจสอบ พร้อมคัดแยกประเภทว่ามีเอกสารอะไรบ้าง ส่วนเงินสดจะให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ร่วมตรวจสอบที่มา เพื่อใช้ประกอบในสำนวนการสอบสวน ทั้งนี้จะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา หากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ปปท.)ตรวจสอบ


ด้าน พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ ระบุว่า เมื่อคืนวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้คัดแยกเหยื่อเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นเหยื่อการค้าประเวณีชัดเจน คือ มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 3 คน กลุ่มที่ 2 อาจจะเข้าข่ายการค้าประเวณี 25 คน ซึ่งได้ส่งตรวจมวลกระดูกที่ รพ.ตำรวจ เบื้องต้นพบ 2 คนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และกลุ่มที่ 3 จำนวน 85 คน ที่ไม่เข้าข่ายการค้าประเวณี ได้แจ้งข้อหามั่วสุม และเปรียบเทียบปรับไปแล้ว ส่วนที่เป็นต่างด้าวจะผลักดันกลับประเทศต่อไป ขณะที่นายบุญทรัพย์ อมรรัตนสิริ หรือ "ป๋ากบ" ซึ่งเป็นหัวหน้าคนเชียร์แขก ยังคงให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนห้องพยาบาลที่พบภายในสถานบริการ พบว่า เป็นห้องที่ให้แพทย์มาตรวจร่างกายพนักงานประจำอยู่แล้ว ไม่ได้มีการดำเนินงานในลักษณะรับทำแท้งเถื่อน ทั้งนี้ในการดำเนินคดีกับเจ้าของสถานบริการนั้นอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในคดีการค้ามนุษย์ เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของตัวจริงให้ได้