เจ้าหน้าที่ลงสำรวจใต้น้ำ กู้ซากเรือสปีดโบ๊ทระเบิดกลางเกาะพีพี ตรวจพิสูจน์หาสาเหตุ คาดไม่เกิน 2 สัปดาห์รู้ผล กระทรวงท่องเที่ยวจับมือคมนาคมตั้งคณะกรรมการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว
ความคืบหน้ากรณีเหตุเรือสปีดโบ๊ตให้บริการนักท่องเที่ยวชาวจีนระเบิดบริเวณหน้าถ้ำไวกิ้ง เกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 31 คน เป็นนักท่องเที่ยวจีน 26 คน และ กัปตันชาวไทย รวมลูกเรือชาวไทยอีก 5 คน ล่าสุดเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ใต้น้ำเพื่อสำรวจโดยรอบที่เกิดเหตุ 
โดยนาวาตรี ชัยสิริ ขุนดำ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งจากนี้จะต้องดูว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากอะไร อุปกรณ์ส่วนไหนมีความไม่พร้อมหรือชำรุดอย่างไร โดยวันนี้เจ้าหน้าที่จะกู้ซากเรือดังกล่าวขึ้นมาตรวจสอบคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินงานไม่เกิน 2 สัปดาห์จึงจะทราบข้อเท็จจริง
ส่วนในด้านการดูแลเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น ทราบว่าเรือมีการทำประกันภัยเอาไว้ ซึ่งส่วนนี้จะมีหลายภาคส่วนเข้ามาดูแลมอบเงินต่อไป
นาวาตรี ชัยสิริ ย้ำว่า ที่ผ่านมา เจ้าท่าฯ ได้มีการกำชับ เน้นย้ำในเรื่องความปลอดภัยในการให้บริการนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด ทั้งในเรื่องของการบรรทุกผู้โดยสาร และ ความพร้อมของเรือที่ให้บริการ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพบว่าการบรรทุกผู้โดยสารไม่ได้เกินเกณฑ์ เนื่องจากเกณฑ์ของเรือกำหนดไว้ว่าห้ามบรรทุกคนเกิน 50 คน แต่ในเรือพบมีกัปตันรวมผู้โดยสารจำนวน 31 คนเท่านั้น
ขณะที่นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา เปิดเผยว่า วันนี้มีประชุมร่วมสองกระทรวงครั้งแรกกับ รมว.คมนาคม เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการร่วมถาวรระหว่างสองกระทรวงเรื่อง logistics ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะดูแลทุกประเด็นทั้งท่องเที่ยวทางบก อากาศ เรือ และระบบราง